วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

กำนันเป๊าะ ถูกนำตัวส่ง รพ.ราชทัณฑ์ อาการน่าเป็นห่วง

กำนันเป๊าะ ถูกนำตัวส่ง รพ.ราชทัณฑ์ อาการน่าเป็นห่วง
นายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 20.00 น. ต้องส่งตัว นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ เข้าไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำไม่สามารถใช้เครื่องช่วยหายใจที่ญาติของกำนันเป๊าะนำมาให้ดูแลได้ จึงเรียกแพทย์มาวินิจฉัย และส่งตัวทันที เนื่องจากกำนันเป๊าะมีอาการน่าเป็นห่วง เกิดอาการเครียด ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายโรค

ขณะที่หมายศาลได้ส่งมายังเรือนจำแล้ว โดยรวมโทษจำคุกกำนันเป๊าะ 30 ปี 4 เดือน ซึ่งหากญาติจะขอให้มีการควบคุมตัวกำนันเป๊าะ ที่จังหวัดชลบุรี ก็สามารถยื่นคำร้องได้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลกำนันเป๊าะ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น ขณะเดียวกัน นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม บุตรชายกำนันเป๊าะ ก็ไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด

สลด! คนใจโหดขับรถทับสุนัข แม้เห็นอยู่ต่อหน้า


คนใจโหดขับรถทับสุนัข แม้เห็นอยู่ต่อหน้า
 

            สำหรับคนบางคนนั้น เพื่อนที่รู้ใจและไว้ใจได้มากที่สุด ไม่ใช่มนุษย์ด้วยกัน แต่กลับเป็น สุนัข สัตว์เดรัจฉานที่เรามองว่ามันต้อยต่ำกว่า ซึ่งเมื่อเราให้ความรัก ความดูแลเอาใจใส่มันแล้ว สิ่งที่พวกมันให้กลับมานั้นมากล้น โดยให้ได้แม้กระทั่งชีวิต จึงไม่แปลกที่ผู้ที่เป็นเจ้าของสุนัขจึงรัก และเลี้ยงดูเจ้าตูบสี่ขาเสมือนคนในครอบครัว และหากเกิดเหตุการณ์ที่มาพรากชีวิตมันไป เจ้าของบางรายก็แทบจะขาดใจ ...
            ดังเช่นเรื่องราวที่เฟซบุ๊ก UniDog (Thailand) ได้นำมาเผยแพร่จากเรื่องจริงของเจ้าของสุนัขท่านหนึ่ง ที่แทบใจสลายเมื่อรู้ว่า สุนัขที่คอยเฝ้าเลี้ยงดูมาถึง 17 ปี ผูกพันเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว โดนคนใจโหดค่อย ๆ ขับรถทับให้ต้องทนทรมานเจ็บปวด เพียงเพราะคน ๆ นั้น คิดเพียงว่า "ก็แค่หมาตัวหนึ่ง" ดังเรื่องราวที่เจ้าของได้เล่าดังต่อไปนี้

            "เหตุการณ์นี้ผ่านมาแล้ว แต่อยากเอามาลงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน วันที่เกิดเหตุการณ์ผมไม่อยู่บ้านไปต่างจังหวัด ด้วยความที่ซีอิ๊วไม่เคยมายืนเกะกะบนถนน และผ่านมาหลายปีก็ไม่เคยมีอะไร แต่ปีนี้ อิ๊วโชคไม่ดีหรือเป็นเคราะห์กรรมอันใดไม่รู้ อยู่ ๆ ก็โดนคนใจร้ายขับรถมาทับและก็ขับไป เพียงเพราะแค่ "หมาตัวหนึ่ง" จิตใจของคนที่เลี้ยงมันมา 17 ปี มันไม่ใช่แค่หมา แต่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มันมีความผูกพัน พอกลับมาผมรีบพามันไปรักษา จิตใจผมย่ำแย่มาก ได้แต่โทษตัวเองว่าดูแลไม่ดี แต่วันที่ผมไปหามันที่โรงพยาบาล มีพี่คนหนึ่งบอกผมว่าเราต้องให้กำลังใจมัน ผมจึงจับเท้ามันไว้แล้วบอกว่า "อิ๊วต้องกลับบ้านด้วยกันนะ" มันก็นิ่ง ๆไป ผมใจไม่ดีเลย ได้แต่รอลุ้นให้หมอรักษาให้หาย จนวันสุดท้ายอาการมันก็ดีขึ้น โชคดีมากที่กระดูกไม่แตก กระบังลมไม่ฉีก แต่อิ๊วไม่เหมือนเดิม หอบง่ายมาก ขอขอบคุณคุณหมอ พี่ เพื่อน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยคุ้มครองและสร้างปาฏิหาริย์

            ส่วนคนที่ทับหมาผม ผมก็รู้ว่าใคร พี่ชายผมคุยกะเค้า เค้าปฏิเสธก่อนเลยว่าไม่รู้เรื่อง แต่พอเอากล้องวงจรปิดให้ดู ก็เลยเถียงไม่ออก บอกตามสูตรว่า ถ้าให้ผมช่วยอะไรก็บอก ผมคิดในใจว่า ถ้ามึงช่วยหมากูวันนั้นเลยอาการมันคงดีขึ้นกว่านี้แน่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขอเค้าอย่างเดียว โปรดอโหสิกรรมแก่ซีอิ๊วด้วยเถิด ชาติที่แล้วหรือชาติใดที่อิ๊วได้ล่วงเกินท่านไว้ได้โปรดอโหสิกรรมให้มันเถอะ...

สุดท้าย
ผมอยากให้คนไทยมีจิตสำนึกมากกว่านี้
อยากให้คนไทยมีกฎหมายคุ้มครองหมาดีกว่านี้

ไม่งั้นความทุกข์แบบนี้ก็ไม่มีวันจบ”





ยิ่งลักษณ์ ยันเป็นนายกฯ ตัวจริง ปัด ทักษิณ จุ้นบริหารปท.

ยิ่งลักษณ์ ยันเป็นนายกฯ ตัวจริง ปัด ทักษิณ จุ้นบริหารปท.
นายกรัฐมนตรี ย้ำ หน่วยความคง ดูแลพื้นที่ภาคใต้เข้ม ยัน เป็นนายกรัฐมนตรี ตัวจริง ปัด มีการบริหารประเทศจาก "พ.ต.ท.ทักษิณ"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม กอ.รมน. ว่า วันนี้ได้มอบนโยบายภาพรวม โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานด้านความมั่นคง บูรณาการในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะให้เกิดความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ กรณี 6 ครู ใน จ.นราธิวาส ได้ขอย้ายออกจากพื้นที่นั้น ต้องลงไปดูเรื่องขวัญและกำลังใจ อีกทั้ง หากครูไม่มีความมั่นใจก็จะมีการเสริมเจ้าหน้าที่เข้าไปทำหน้าที่แทน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การบริหารประเทศ ไม่ได้มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ต่างประเทศ ตามที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ออกมาระบุแต่อย่างใด แต่การบริหารประเทศและคณะรัฐมนตรีนั้น มีการทำงานในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาในการทำงาน 1 ปี มีผลงานเป็นที่ยอมรับจากประชาชน อีกทั้ง ตนได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่จึงขอความเห็นใจให้มองที่ผลงานมากกว่ากระแสข่าว

พระลูกวัดเดือด! ไล่ฟันเจ้าอาวาส อ้างถูกแกล้ง

พระลูกวัดเดือด! ไล่ฟันเจ้าอาวาส อ้างถูกแกล้ง
(31 ม.ค.) ศึกกลางวัดดังเมืองลำปาง พระลูกวัดโมโหเดือด! คว้ามีดไล่ฟันเจ้าอาวาส อ้างถูกกลั่นแกล้ง ไม่ชอบขี้หน้า โดนสั่งย้ายไปจำวัดอื่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุทะเลาะวิวาทภายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งเมืองลำปาง มีการพยายามทำร้ายร่างกายกัน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุคือวัดศรีชุม ย่านเขตเทศบาลเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่พบ พระครูสูติ ชยากรณ์ เจ้าอาวาสวัดศรีชุม ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่
พระครูสูติ ชยากรณ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ถูก พระณรงค์ ยั่วยวน หรือ พระมิตร เป็นพระลูกวัดดังกล่าว ได้ใช้อาวุธมีดดายหญ้าไล่ทำร้ายอยู่ภายในวัด แต่สามารถวิ่งหลบหนีมาได้ จากการตรวจสอบพบว่า พระครูสูติ กับ พระณรงค์ มักมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งเกิดคำสั่งให้พระณรงค์ย้ายไปจำวัดอื่น ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับพระณรงค์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปควบคุมตัว พระณรงค์ มาทำการสอบสวน โดยให้การว่า อาตมาเป็นพระลูกวัดแห่งนี้มาสักระยะแล้ว ที่ผ่านมาถูก พระครูสูติ เจ้าอาวาสกลั่นแกล้งสารพัด จนอาตมาทนไม่ไหว และเข้าไปพูดคุยสอบถามตรงๆ แต่กลับถูกเจ้าอาวาสเมิน จึงเกิดอารมณ์โมโห คว้ามีดดายหญ้ามาไล่ฟัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามไกล่เกลี่ย แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถยอมความกันได้ จึงได้เชิญตัวไปที่สถานีตำรวจ เพื่อตกลงเจรจายอมความกันต่อไป

ไขปริศนา...ความจริงของคดีหนุ่ม 19 ฆ่าเผาพี่สาว หนุ่ม กะลา


คดีหนุ่ม 19 ฆ่าเผาพี่สาว หนุ่ม กะลา

            หลายคนยังจำคดีโหดที่หนุ่มวัย 19 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม นางภัทรภร หรือ แอน พฤกษะศรี อายุ 40 ปี พนักงานที่ดินชำนาญการระดับ 5 สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร พร้อมกับจุดไฟเผาอำพรางภายในห้องพักในคอนโดมิเนียมย่านวัชรพลได้ ก่อนที่ภายหลังจะได้ทราบว่า หญิงสาวผู้เสียชีวิตคือพี่สาวของนายยุทธพงษ์ แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม นักร้องนำวงกะลา ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ หนุ่ม กะลา ช็อกและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

            อย่างไรก็ตาม แม้ นางภัทรภร จะเสียชีวิตไปได้เดือนเศษแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของเธอยังคงไม่สงบสุข และวนเวียนอยู่รอบ ๆ ห้องที่เกิดเหตุอยู่ตลอดเวลา หนำซ้ำยังไปเข้าฝันคุณแม่ และน้องของหนุ่ม กะลา รวมทั้งยังตาม หนุ่ม ไปถึงคอนเสิร์ตอีกด้วย ทางรายการ "คนอวดผี" จึงได้เชิญ "หนุ่ม กะลา" มาพูดคุยถึงเรื่องนี้อย่างที่ไม่เคยเล่าให้รายการไหนฟังมาก่อน

            โดย หนุ่ม กะลา เล่าว่า ผู้ตาย คือ พี่แอน เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาก เพราะแม่นำพี่สาวคนนี้มาเลี้ยงด้วยกันตั้งแต่เด็ก โตมาพร้อม ๆ กัน จนกระทั่งจบ ม.6 ถึงได้แยกจากกัน นิสัยส่วนตัวของพี่แอนเป็นคนสนุกสนาน รักพี่รักน้องมาก ที่ผ่านมาแม้ต่างคนต่างแยกกันไปมีครอบครัวก็ยังติดต่อไปมาหาสู่กันเสมอ โดยพี่แอนแต่งงานมีสามีอยู่ที่สงขลา และมีลูกด้วยกัน 2 คน

นางภัทรภร หรือ แอน พฤกษะศรี
นางภัทรภร หรือ แอน พฤกษะศรี


            สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนั้น ข่าวที่ออกมาตอนแรกบอกว่าสาเหตุเกิดจากความหึงหวง แต่ในความเป็นจริงนั้นตรงกันข้าม โดย หนุ่ม กะลา ยืนยันว่า พี่แอนไม่ได้เป็นแฟนกับ นายวราวุธ เพชรชัย ผู้ที่เป็นฆาตกรแน่นอน เพราะเธอมีครอบครัวและลูกแล้ว โดยพี่แอนรู้จักกับฆาตกรได้เพียง 2 เดือน ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก และฆาตกรก็ได้มาซ่อมคอมพิวเตอร์ให้ จากนั้นก็ได้เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น 

            หนุ่ม กะลา เล่าต่อว่า หลังจากตำรวจจับนายวราวุธได้ นายวราวุธได้ให้การต่อตำรวจว่า วันเกิดเหตุ นางภัทรภรซึ่งอยู่กินกับนายวราวุธฉันสามีภรรยาได้เมากลับมาที่ห้องและนอนหลับไป นายวราวุธจึงบีบคอนางภัทรภรจนเสียชีวิต เพราะหึงหวง และเมื่อนางภัทรภรเสียชีวิตไปแล้ว นายวราวุธไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับศพดี จึงตัดสินใจเผาอำพรางภายในห้องพัก แต่จากที่ หนุ่ม กะลา ไปเห็นสภาพศพ เขาเชื่อว่าเรื่องราวไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะพี่สาวของเขามีร่องรอยถูกซ้อมที่ใบหน้า จึงคาดว่า นายวราวุธน่าจะพยายามเข้ามาในห้องของพี่สาว แต่พี่สาวของเขาไม่ยอมจึงมีการต่อสู้กัน และถูกฆาตกรรมในที่สุด

            หนุ่ม เล่าต่อว่า หลังจากพี่แอนเสียชีวิต ครอบครัวก็ได้นำศพของพี่แอนเดินทางกลับไปที่จังหวัดสงขลา แต่ทว่าระหว่างเดินทางกลับ รถตู้ที่พาไปเกิดเสียอย่างไม่ทราบสาเหตุ จึงเปลี่ยนไปขึ้นรถตู้อีกคัน แต่รถตู้คันที่ 2 ก็ยังมาเสียอีก และไม่สามารถซ่อมได้ ทางญาติจึงเชื่อว่า พี่แอนจะไม่ยอมกลับบ้าน จึงให้คนมาสวดทำพิธีผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งสวดอยู่นานมากจนในที่สุดรถตู้ก็กลับมาใช้งานได้ ทำให้หนุ่มเชื่อว่า พี่แอนไม่อยากกลับบ้านจริง ๆ เพราะในตอนนั้นยังจับฆาตกรไม่ได้

            อย่างไรก็ตาม แม้จนถึงวันนี้ ฆาตกรจะถูกจับกุมแล้ว แต่ หนุ่ม กะลา ก็เชื่อว่า พี่สาวของเขายังไม่ไปสู่สุคติ เพราะระหว่างที่ไปเล่นคอนเสิร์ตท่ามกลางคนนับหมื่น จู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นศพเหมือนวันที่ไปรับศพพี่สาวตลอดทั้งการแสดงวันนั้น และได้กลิ่นเพียงคนเดียว รวมทั้งคุณแม่และน้องยังฝันถึงพี่แอนในเรื่องเดียวกัน ทั้งที่นอนกันคนละบ้าน ส่วนที่คอนโดฯ ก็ยังมีคนได้กลิ่นไหม้จากห้องที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงเหมือนคนยังใช้ชีวิตอยู่ในห้องนั้น ทางคอนโดฯ จึงนำพระมาสวด แต่วันรุ่งขึ้นก็มีญาติมาบอกว่า พี่แอนมาเข้าฝันและบอกว่าไม่ต้องนำพระมาสวด เพราะเธอจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!!!

            เรื่องนี้ทำให้ หนุ่ม กะลา ไม่สบายใจ เพราะเชื่อว่าพี่แอนมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะบอกอยู่ ทางรายการจึงเชิญได้ "ริว จิตสัมผัส" มาเป็นตัวกลางในการติดต่อสิ่งที่คุณแอนอยากให้ครอบครัวรับรู้...เริ่มต้น ริว จิตสัมผัส ได้สอบถามวันเดือนปีเกิดและบ้านเลขที่ของคุณแอน และนั่งทำสมาธิพิจารณาสักครู่ก่อนจะบอกว่า คุณแอนพูดขึ้นมาว่า "ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน" ที่นี่ก็หมายถึงห้องที่เกิดเหตุ เพราะเธอต้องการความเป็นธรรม นอกจากนั้นคุณแอนยังบอกด้วยว่า "ไม่น่าหาเรื่องเลยเรา ช่วยมันทุกอย่าง ตายเพราะความดี" และสุดท้ายจบลงที่คำว่า "แค้น แค้น แค้น"

คดีหนุ่ม 19 ฆ่าเผาพี่สาว หนุ่ม กะลา

            เมื่อได้ฟังดังนั้น หนุ่ม กะลา จึงรู้สึกขนลุก เพราะนึกขึ้นได้ว่า พี่แอนเคยช่วยฝากงานให้เด็กที่เป็นฆาตกรคนนี้ด้วย แต่ก่อนจะถามอะไรมากไปกว่านี้ ริว สามารถสัมผัสความรู้สึกของคุณแอนได้เพิ่มเติมว่า "ให้ความรักและเอ็นดูมัน" พร้อมกับขอความเป็นธรรม จึงสอบถาม หนุ่ม ว่า ที่คุณแอนต้องการความเป็นธรรมคืออะไร หนุ่ม จึงคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เด็กคนนั้นออกมาให้การว่า อยู่กินกับพี่แอนฉันสามีภรรยามา 1 ปี และสาเหตุที่ฆ่าก็เพราะเห็นพี่แอนคุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่นบ่อย ๆ จึงเกิดความหึงหวง ทำให้ลงมือฆ่า แต่ทว่า สิ่งที่ ริว สัมผัสกลับมาได้จากคุณแอนก็คือคำว่า "มันโกหก" และ "มันไม่พอ" 

            เมื่อเป็นเช่นนี้อาจคาดการณ์ได้ว่า คุณแอน น่าจะเคยให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินกับฆาตกรด้วย ซึ่ง หนุ่ม เองก็ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน และยังไม่เคยไปหาเด็กคนนั้นเพราะกลัวทำใจไม่ได้ ริว จิตสัมผัส จึงเล่าต่อว่า ที่พี่สาวของหนุ่มยังไม่ยอมไปไหน เพราะคำพูดของเด็กคนนั้นทำร้ายตัวเธอมาก ทำร้ายทั้งความรักและความเอ็นดูที่เคยมีให้ และหนทางเดียวที่พี่สาวของหนุ่มจะยอมไปก็คือ ต้องรอจนกว่าคดีนี้จะถึงที่สิ้นสุด

            ขณะที่ หนุ่ม ก็ได้บอกกับพี่สาวว่า อยากให้ทุกอย่างจบ และสิ้นสุดกันในชาตินี้เสียที ขอให้อโหสิกรรมแก่กัน อย่างที่ตัวเขาและครอบครัวก็ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ตนจึงอยากให้วิญญาณของพี่สาวจบด้วยเช่นกัน ก่อนจะฝากถึงผู้ที่ชมรายการอยู่เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า 

            "อยากให้ใช้ความรักอย่างมีสติ เพราะสำหรับผมแล้ว มองว่าความรักคือการเห็นคนที่เรารักมีความสุข ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม การที่เรากระทำหรือทำร้ายคนรักมันไม่ใช่ความรัก แต่มันเป็นการเห็นแก่ตัว ถ้าคุณรักเขาจริง ๆ แม้แต่ปลายเล็บข่วนคุณก็ต้องไม่ทำเขา นั่นคือความรัก ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นอีกเลย" หนุ่ม กล่าวทิ้งท้าย

            อย่างไรก็ตาม ทาง ริว จิตสัมผัส กลับยังรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุ ทางรายการคนอวดผี จึงได้เชิญคุณริว และคุณเจน ญาณทิพย์ ไปยังห้องพักของคุณแอน เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่คุณแอนต้องการสื่อสาร และขอความช่วยเหลือคืออะไร และเมื่อขึ้นไปถึงหน้าห้อง ทั้ง ริว และ เจน ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณแอนยังคงอยู่ในห้อง และนั่งอยู่บนเตียง ก่อนที่จะไขประตูเพื่อเข้าไปพิสูจน์ความจริงด้านใน 

            ริว และ เจน จะได้พบเจอกับอะไรบ้าง และสิ่งที่วิญญาณของคุณแอนต้องการให้พวกเขาช่วยเหลือคืออะไร ติดตามชมต่อได้ในรายการคนอวดผี วันพุธ ที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 22.30 - 00.25 น. ทางช่อง 5 


วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ทำความเข้าใจง่าย ๆ กับ..ระบบทีวีดิจิตอลแบบใหม่


ทำความเข้าใจง่าย ๆ กับ..ระบบทีวีดิจิตอลแบบใหม่


          ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบสื่อสารที่กำลังจะเปลี่ยนจากทีวีระบบอนาล็อกแบบเดิมให้กลายเป็น “ทีวีระบบดิจิตอล” (Digital Television) ที่มีความคมชัดสูง โดยสามารถผลิตรายการได้หลายรายการในคลื่นความถี่เดียวกัน ทำให้มีช่องต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น แต่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมากเท่าไหร่นัก วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีข้อมูลดี ๆ พร้อมที่ภาพประกอบที่เข้าใจง่าย จาก คุณ epoxy_em สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากกันค่ะ

ระบบทีวีดิจิตอล ที่กำลังจะมา


          เห็นมีการถามเรื่องทีวีดิจิตอล ที่กำลังจะเกิดในบ้านเราในอีกไม่กี่เดือนนี้ ผมพอมีความรู้นิดหน่อย เลยอยากจะมาแชร์ความรู้ให้หลาย ๆ คนที่กำลังจะติด หรือจะเปลี่ยนระบบ จะได้เข้าใจได้ง่าย ๆ ด้วยรูป

ทำความเข้าใจง่าย ๆ กับ..ระบบทีวีดิจิตอลแบบใหม่

           1. แต่ดั้งแต่เดิมมาเราดูทีวีกันด้วย เสาก้างปลา หรือ หนวดกุ้ง การส่งสัญญาณจะส่งมาแบบ  Analog จาก สถานีฐานภาคพื้นดิน (ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนี้) ในกรุงเทพฯ และ จังหวัดใกล้เคียง ช่องฟรีทีวีจะส่งสัญญาณที่ยอดตึก ใบหยก 2 (แต่ผมไม่แน่ใจ เห็นว่า ช่อง 5 กับ ช่อง 7 ยังส่งสัญญาณแถว สะพานแดง บางซื่อ อยู่หรือไม่) การรับ บ้านใครอยู่ใกล้ที่ส่งสัญญาณก็ชัด ไกลไปเรื่อย ๆ ก็ซ่าขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ เหมือนมดวิ่งไล่กันบนจอ

           2. สิบยี่สิบปีที่ผ่านมา ก็ได้มีการใช้ จานดาวเทียม ทำให้คนที่บ้านอยู่ไกล ๆ ในป่า ก็รับสัญญาณชัดเท่ากันหมด ขึ้นอยู่กับขนาดจาน และจะมีอะไรมาบังสัญญาณจากดาวเทียมมากน้อยแค่ไหน ระบบนี้เป็นระบบดิจิตอล รับตรง ๆ จากดาวเทียม ไม่ต้องผ่านสถานีทวนสัญญาณใด ๆ อีก

ทำความเข้าใจง่าย ๆ กับ..ระบบทีวีดิจิตอลแบบใหม่

           3. ช่องสัญญาณก็เยอะขึ้น ลูกเล่นต่าง ๆ ก็มากขึ้น แต่ทีวีในบ้านเราไม่สามารถรับสัญญาณตรง ๆ จากดาวเทียมได้ (เคยเห็นของเมืองนอก ทีวีบางยี่ห้อรับสัญญาณดาวเทียมตรง ๆ ได้) จึงต้องใช้กล่องแปลงสัญญาณให้เป็น Analog เพื่อให้ทีวีบ้านเรารับได้ กล่องพวกนี้ เช่น True, GMM-Z, SunBox, PSI ฯลฯ  บางเจ้าก็จ่ายเงิน บางเจ้าก็ฟรี ก็ว่ากันไป

ทำความเข้าใจง่าย ๆ กับ..ระบบทีวีดิจิตอลแบบใหม่

           4. ที่ กสทช. จะเปิดประมูลในไม่กี่เดือนนี้ จะเป็นทีวีระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน คือเหมือนรูปแรก เราจะรับสัญญาณจากสถานีภาคพื้นดิน (ในกรุงเทพ อาจจะเป็นตึกใบหยก 2) การรับ ก็ต้องใช้เสารับ ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าในกรุงเทพ ก็อาจจะใช้แค่เสาสั้นเล็ก ๆ เหมือนในรูป ถ้าไกลขึ้น ก็อาจจะใช้เสานอกบ้าน คล้ายเสาก้างปลา แต่ทรงจะต่างกัน แล้วจะมีภาพซ่า ๆ เหมือนมดวิ่งอีกหรือไม่ ตอบว่าไม่มีแล้ว ระบบดิจิตอล จะมีแค่รับได้กับรับไม่ได้
ถ้ารับไม่ได้ ภาพจะเป็นโมเสก ๆ แต่ไม่มีซ่า ๆ แล้ว 

ทำความเข้าใจง่าย ๆ กับ..ระบบทีวีดิจิตอลแบบใหม่

           5. แล้วบางคนที่กำลังลังเลว่า จะซื้อทีวีตอนนี้หรือตอนไหนดี จะเอารุ่นแบบไหน ตอนนี้ทีวี LCD ต่าง ๆ (LCD LED Plasma) บางรุ่น (ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นสูง ๆ ) จะมี Digital Tuner  ในตัว จะสามารถรับสัญญาณดิจิตอลได้โดยตรง แค่ต่อเสา ไม่ต้องผ่านกล่องใด ๆ อีก แต่การจะเลือกทีวี ต้องดูว่า Tuner นั้น รับระบบ DVB - T2 หรือไม่ บางรุ่น จะรับ DVB - T1 จะไม่สามารถใช้ได้ หวังว่าข้อมูลนี้จะพอเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

เคท ฟีเวอร์! สาว ๆ แห่ทำจมูกให้เหมือนเจ้าหญิงเคท


เคท มิดเดิลตัน

          นับตั้งแต่ เคท มิดเดิลตัน กลายเป็นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ การวางตัวได้อย่างเหมาะสมของเธอทำให้เจ้าหญิงเคทกลายเป็นขวัญใจชาวอังกฤษได้อย่างไม่ยากเย็น และไม่เพียงแค่นั้น เจ้าหญิงเคท ยังเป็นไอดอลขวัญใจสาว ๆ ทั่วประเทศ จนเกิดกระแสที่เรียกว่า "เคท ฟีเวอร์" ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว เครื่องประดับที่เธอสวมใส่ การแต่งหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติ ผมบลอนด์สลวยเงางามสุขภาพดี รอยยิ้มขาวสะอาด หรือแม้แต่ "จมูก" ของเธอก็เป็นสิ่งที่สาวอังกฤษหลายคนใฝ่ฝันจะมีให้ได้เหมือนหรือใกล้เคียงที่สุด จากรายงานของเว็บไซต์เดลิเมลระบุว่า นับตั้งแต่ เคท มิดเดิลตัน เป็นที่รู้จักของผู้คนในฐานะเจ้าหญิงเคท ดัชเชสแห่งแคมบริจด์ ก็มีสาว ๆ มาเข้ารับการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปจมูกให้เหมือนกับเจ้าหญิงเคทมากขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าแล้วทีเดียว

          เมาริซิโอ เปอร์ซิโก ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปรับรูปจมูก กล่าวว่า จมูกแบบเจ้าหญิงนั้นตรง ปลายจมูกมนดูน่ารัก และมีขนาดกำลังดีรับกับองค์ประกอบอื่น ๆ ของใบหน้าได้อย่างลงตัว ส่วนนักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องอิทธิพลขององค์ประกอบบนใบหน้าก็ระบุว่า จมูกของดัชเชสนั้นสมมาตรกันทั้งสองข้าง ระยะห่างระหว่างจมูกและริมฝีปากกำลังดี และมองเห็นส่วนของรูจมูกเพียงเล็กน้อย นับเป็นรูปทรงจมูกที่ใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
เคท มิดเดิลตัน

          นอกจากนี้ ภาพของเจ้าหญิงเคทที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ยังดูยิ้มแย้มมีความสุขทุกครั้ง นั่นจึงยิ่งทำให้สาว ๆ หลายคนที่ไม่พึงพอใจกับรูปลักษณ์โดยเฉพาะจมูกของตัวเอง ยิ่งอยากจะมีจมูกสวยได้รูปแบบนั้นบ้าง จะได้ยิ้มแย้มอย่างมั่นใจ และดูสดใสมีความสุขเหมือนกับดัชเชสคนสวยผู้นี้ ผู้หญิงจำนวนมากหอบรูปเจ้าหญิงเคทในมุมต่าง ๆ ไปเข้าพบศัลยแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการปรับรูปจมูก และหลายรายยอมทุ่มเงินที่สูงกว่าอัตราการศัลยกรรมจมูกปกติ เพื่อทำจมูกของเธอให้เหมือนกับของเจ้าหญิงเคทมากที่สุด แม้ว่าจะมีจมูกรูปแบบอื่น ๆ ที่ดูสวยเหมือนกัน และง่ายต่อการปรับเปลี่ยนจากรูปทรงจมูกเดิมของเธอมากกว่า หญิงที่เข้ารับการศัลยกกรมปรับรูปจมูกรายหนึ่งกล่าวว่า เธอรู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจกับจมูกที่งองุ้มของตัวเองมานานแล้ว และก็ศึกษาหาข้อมูลเรื่องการศัลยกรรมจมูกมาตลอด แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจสักที แต่เมื่อได้เห็นรูปเจ้าหญิงเคทเต็ม ๆ เป็นครั้งแรกในปี 2011 เธอก็ตัดสินใจหยิบเงินเดินหน้าเข้าหาศัลยแพทย์พร้อมรูปของเจ้าหญิงเคทอย่างไม่ลังเล และตอนนี้เธอก็รู้สึกมั่นใจ ทั้งยังมีความสุขกับจมูกใหม่ที่ซึ่งมีเจ้าหญิงเคทเป็นนต้นแบบมาก ๆ 

          ดูท่าเจ้าหญิงเคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์คนสวยผู้นี้ จะได้ใจคนอังกฤษไปครองได้ครบทุกวัย โดยเฉพาะในฐานะตัวแทนแห่งความงามของสาวเมืองผู้ดีเลยล่ะ :)

อั๊ยยะ! “จ๊ะ คันหู” คัมแบค

อั๊ยยะ! “จ๊ะ คันหู” คัมแบค!!
โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปเยอะพอสมควรสำหรับ "จ๊ะ คันหู" เกี่ยวกับเรื่องเนื้อหาขอเพลงที่ล่อแหลม และท่าเต้นสุดสยิว จนทำให้เธอหายหน้าหายตาไปซักพัก ล่าสุดเจอสาวจ๊ะมาร่วมงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน โดยวุฒิศักดิ์คลีนิค เพราะความสวยรอไม่ได้ งานนี้สาวจ๊ะจัดเต็ม ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม และลีลาการเต้นสุดเร่าร้อน และน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ แต่เธอก็บอกว่าทั้งหมดนี้มันคือการแสดง ต้องขอภัยด้วยหากใครคิดว่าไม่เหมาะสม

พัฒนาการความผอม “ซีแนม AF1” เป๊ะ!!

พัฒนาการความผอม “ซีแนม AF1” เป๊ะ!!
สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนในวงการบันเทิงไม่น้อย เพราะใครจะคิดว่านักร้องสาวเสียงดี "ซีแนม AF1" ที่เคยอวบอั๋น จะกลับมารีดหุ่นจนผอมเพียวได้ขนาดนี้ ล่าสุดเจอเธอในงานแถลงข่าว "ปีมะเส็งตระการตา จรัสฟ้าจรดหล้าตระการใจ" ซึ่งเป็นประเพณีตรุษจีน ประจำปี 2556 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เลยเข้าไปล้วงลับเคล็ด (ไม่) ลับซะหน่อยว่าทำยังไงถึงสามารถลดน้ำหนักได้เยอะขนาดนี้
ผอมลงไปเยอะเลย? "ก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงแป้ง ของมันของทอด แค่นี้เองแต่ต้องทำต่อเนื่องนะถึงจะเห็นผล"

โปงลางสะออน วงแตก!! สาเหตุเพราะ

โปงลางสะออน วงแตก!! สาเหตุเพราะ..??
"โปงลางสะออน..วงแตก!" เป็นประเด็นที่หลายคนกำลังสงสัย..?? ถึงคราว 'อวสาน' ของกลุ่มวงดนตรีสุดคึกครื้น ที่ทำให้ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน อย่าง โปงลาง กลับมาเป็นที่สนใจแก่คนหมู่มากได้อย่างสนุกสนาน
โปงลางสะออน เป็นกลุ่มวงดนตรีที่เกิดจากการรวมตัวกันของอดีตนักเรียนนาฏศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร ด้วยการมีใจรักในดนตรีพื้นบ้านภาคอีสาน เริ่มต้นจากการแสดงตามร้านอาหาร จนโด่งดังมีชื่อเสียง จากการชนะการประกวดบนเวที ดันดารา ของรายการ ตีสิบ ทางช่อง 3 ก่อนจะเซ็นสัญญากับค่ายอาร์สยาม
จุดเด่นของ โปงลางสะออน คงหนีไม่พ้น 3 นักร้องนักแสดงหลัก อี๊ด สมพงษ์, ลาล่า ขวัญนภา และ ลูลู่ ดวงฤดี หรือมักจะเรียกติดปากแพคคี่ 3 คน "อี๊ด-ลาล่า-ลูลู่ โปงลางสะออน" ที่แสดงโชว์ได้น่าประทับใจ สอดแทรกความบันเทิงให้แก่คนดูได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โปงลางสะออน เริ่มต้นเข้าวงการมาราวๆ ปี 2547 ก็จะมีเป็นที่รู้จักในหมู่คนทุกกลุ่มในผลงานภาพยนตร์ต่างๆ ทั้ง รักจังโปงลางสะดิ้ง หรือ สามย่าน จนกระทั่ง โปงลางสะออน โด่งดัง มีทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้มหาศาล
ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ปี ที่ อี๊ด-ลาล่า-ลูลู่ และสมาชิกในวงอีกกว่า 20 คน ได้สร้างความสุขในแก่ผู้ชม แม้ความนิยมจะยังคงเส้นคงวา แต่ก็เกิดเหตุสะดุดอยู่หลายครั้ง...
โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่เริ่มต้นจากเสียงร้องเรียนของชาวบ้าน จ.พิจิตร ที่โวยหนักเพราะขึ้นแสดงโชว์สาย นักแสดงหลักไม่มา จ่ายค่าจ้างเต็มราคา จนเป็นเหตุทำให้ผู้บริหารใหญ่ของค่ายอาร์เอส เฮียฮ้อ สุรชัย ออกมายอมรับ 'โปงลางสะออน มีปัญหากันในวงจริง'
ส่วน 'สาเหตุที่แท้จริง' ยังไม่มีการระบุแน่ชัด... สมาชิกหลักทั้ง 3 คน แตกคอกันหรือเปล่า? สมาชิกที่เหลือในวงยกทีมแห่กันลาออกหรือไม่? หรือ มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและคิวการแสดงของแต่ละคน? ทั้งหมดล้วนแล้วแต่...ยังไม่มีคำตอบ
แต่ประเด็น "แตกคอกัน" ของ 3 สมาชิกหลัก อี๊ด-ลาล่า-ลูลู่ ถูกหยิบยกมาเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจาก ลาล่า-ลูลู่ นั้น ค่อนข้างลอยตัวกับวงการบันเทิง ทางค่ายอาร์เอสยังคงป้อนงานพิธีกร เดินสายโชว์ตัว หรืองานละคร ให้ทั้งคู่อย่างสม่ำเสมอ ผิดกับ หัวหน้าวงอย่าง อี๊ด โปงลาง ที่แทบจะหายไปจากหน้าสื่อ
ข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน ยิ่งตอกย้ำประเด็น "แตกคอกัน" เข้าไปอีก อี๊ด โปงลาง ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาชีวิต หลังเลิกราแฟนสาวที่คบหากันถึง 10 ปี เมื่อกลางปีก่อน โดยกระแสระบุว่า เลิกราครั้งนี้...จบไม่สวยสักเท่าไหร่
อีกทั้ง ลาล่า-ลูลู่ ก็ไม่ค่อยชอบใจนักกับพฤติกรรมของ อี๊ด โปงลาง หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ให้ความร่วมมือกับวง ไม่ขึ้นแสดงโชว์ด้วยบ่อยครั้ง จนกลายเป็นเหตุบาดหมาง ถึงจะเดินสายด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์ความสนิทสนมนั้นไม่เหมือนเดิม...
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า "สาเหตุที่แท้จริง" ของกรณีนี้จะเป็นเช่นไร ชะตากรรมของ โปงลางสะออน วงดนตรีที่เคยสร้างรอยยิ้มและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่ดีมาตลอด 8 ปีเศษนั้นจะเป็นยังไง ใครคือปัญหาที่แท้จริง? คงต้องติดตามบทสรุปจากปากของหัวหน้าวง และ 2 สาวสมาชิกหลักของวงต่อไป

ทาทาซึ้ง! แฟนฝรั่งเฝ้าไม่ห่าง

ทาทาซึ้ง! แฟนฝรั่งเฝ้าไม่ห่าง
หลังถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยอาการอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรง ทำเอานักร้องสาว ทาทา ยัง นอนซมอยู่หลายวัน!! แต่ยังกำลังใจดี เพราะมีแฟนหนุ่มชาวโรมาเนีย วิค เฝ้าไม่ห่างเตียงเลยทีเดียว มิน่าละ สาว ทาทา อาการดีวันดีคืนอีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว เห็น หนุ่ม วิค เฝ้าเช้าเฝ้าเย็นแบบนี้ก็อดปลื้มใจแทน สาวทาทา ไม่ได้ที่เวลาป่วยแฟนหนุ่มไม่ห่างไปไหนเลย แหม...อย่างนี้อนาคตมีลุ้นถึงข่าวดีมั้ยเนี่ยจ๊ะสาวทาทา!!

ใบเตย ยกให้ อั้ม เป็นดาวประดับฟ้า ไม่ขอเทียบเท่า!!

ใบเตย ยกให้ อั้ม เป็นดาวประดับฟ้า ไม่ขอเทียบเท่า!!
กลายเป็นประเด็นร้อนให้นักร้องสาวนุ่งสั้น "ใบเตย อาร์สยาม" ต้องออกมาแก้ต่างอีกจนได้สำหรับกรณีที่มีนักเลงคีย์บอร์ดเข้าไปต่อว่าเธอผ่านทางอินสตาแกรม หลังจากที่มีนิตยสารฉบับหนึ่งนำรูปของสาวใบเตยไปเปรียบเทียบกับนางเอกแถวหน้า "อั้ม พัชรภา ไชยเชื้อ" ว่าทั้งคู่นั้นมีหลายอย่างใกล้เคียงกัน ซึ่งล่าสุดในงานแถลงข่าว "ทิศทางธุรกิจอาร์เอส 2013" สาวใบเตยก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกซีเรียสกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด พร้อมยืนยันอีกด้วยว่าไม่เคยคิดยกตัวเองเทียบเท่านางเอกค้างฟ้า อั้ม พัชราภา อย่างแน่นอน!!
"สำหรับตัวใบเตยเรื่องแค่นี้มันเป็นอะไรที่เล็กน้อยมากจริงๆ เพราะตั้งแต่เข้าวงการมาหนูก็โดนด่ามาเยอะมาก จนตอนนี้ชินแล้วเพราะหนูรู้ว่ามีคนรักมันก็ต้องมีคนเกลียดเป็นเรื่องธรรมดา และสำหรับตัวพี่อั้มเองก็เป็นนางเอก เป็นดาวค้างฟ้าที่ไม่มีวันดับ เป็นไอดอล เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของใบเตย ใบเตยไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเปรียบเทียบกับพี่เค้าหรอกค่ะ ใบเตยดีรู้ว่าใบเตยอยู่แค่จุดไหน"
"ส่วนเรื่องค่าตัวที่หลายคนสงสัย ใบเตยขอบอกเลยว่า ค่าตัวของใบเตยเวลามีงานแสดงจะถูกเหมารวมกับแดนซ์เซอร์ทั้งหมดในราคาหนึ่งแสนบาท ซึ่งมันไม่มีทางเทียบเท่าพี่อั้มได้จริงๆ เพราะถ้าหนูได้คนเดียวหมดทั้งแสนป่านนี้หนูก็รวยไปแล้วแหละค่ะ"
นอกจากนี้สาวใบเตยก็ยังถือโอกาสขอบคุณบรรดาแฟนคลับที่เข้ามาช่วยปกป้องเป็นองค์รักษ์พิทักษ์ใบเตย รวมถึงผู้กำกับฝีปากกล้า "พจน์ อานนท์" ที่เข้ามาช่วยพูดจนโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย

จาอยู่ไหน? พ่อจา พนม ประกาศตามหาลูกชายรอบ 2

จาอยู่ไหน? พ่อจา พนม ประกาศตามหาลูกชายรอบ 2
ยังคงคาราคาซังไม่จบไม่สิ้น กรณีตามหา 'จาอยู่ไหน?' ที่บรรดาพ่อแม่พี่น้องตระกูลยีรัมย์ ออกตามหาตัว จา พนม ยีรัมย์ ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีการติดต่อครอบครัวเป็นเดือนๆ
แม้ เสี่ยเจียง แห่ง สหมงคลฟิล์ม ได้ออกมาประกาศว่า 'จาติดถ่ายหนัง' แต่ผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมาหาครอบครัว รวมทั้งประเด็น 'บุ้งกี๋' ภรรยาสาวของจา ที่มีกระแสข่าวว่า ไม่ถูกกับตระกูลยีรัมย์อย่างรุนแรง
ล่าสุด ครอบครัวยีรัมย์ ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นำโดย นายทองดี ยีรัมย์ พ่อของจา พนม ซึ่งได้เปิดเผยว่า "ที่ผมต้องออกมาพูด เพราะอยากเจอลูก ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจอะไรเลย มันเป็นเรื่องสายสัมพันธ์ของครอบครัว ผมไม่ได้เจอเขามาเดือนกว่าๆ แล้ว โทรไปที่กองถ่ายหนัง ก็บอกว่าตอนนี้พักกองอยู่ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตอนนี้ทีมงานกองถ่ายเองก็ติดต่อจาไม่ได้เหมือนกัน ผมเลยขอให้สื่อช่วยไปบอกลูกผมให้ติดต่อมาภายใน 3 วัน"
เมื่อนักข่าวถามถึงประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างครอบครัวยีรัมย์และลูกสะใภ้ บุ้งกี๋ ทาง พ่อทองดี เล่าว่า "ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผมกับครอบครัวยกกันไปหาหลานที่บ้านจา จาก็ออกมาต้อนรับสวัสดีตามปกติ แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงลูกสะใภ้ ตะโกนออกมาว่า 'มาทางไหนกลับไปทางนั้น!' ก่อนบุ้งกี๋จะเดินปรี่เข้ามาจะตบหน้า แวว (น้องสาวจา) จาเห็นก็ยืนดูเฉยๆ ไม่ได้ช่วยอะไร ซึ่งความสัมพันธ์ของ แวว กับ บุ้งกี๋ ยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน เคยเจอกันก่อนหน้านี้แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ บุ้งกี๋ นำภาพถ่ายมาโชว์ว่า พาหลานมาเยี่ยม พ่อทองดี ชี้แจงว่า "พวกเขามาจริงๆ แต่ก่อนหน้านั้นผมป่วย เข้าโรงพยาบาลแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ก็อยากถามลูกชายเหมือนกันว่าทำไมไม่มาเยี่ยมพ่อบ้าง ตลอด 3 ปีมานี้ เขาเปลี่ยนไปมาก ผมไม่ได้จะเรียกร้องอะไร เพราะลูกผมอีก 3 คน ก็ส่งเสียผมกันได้ทั้งหมด แต่จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนไปไม่ใช่คนเดิม"
สุดท้าย พ่อทองดี ยังได้ประกาศตามหาลูกชาย จา พนม อีกครั้ง แม้เสี่ยเจียงจะเคยบอกให้ปลง แต่ยังไงก็เป็นลูกแท้ๆ ย่อมห่วงลูกเป็นธรรมดา ลั่นจะรออีก 3 วันต่อจากนี้..

จับตา! เวียร์ กิ๊กข้ามช่อง เบลล่า นางเอกใหม่ช่อง 3

จับตา! เวียร์ กิ๊กข้ามช่อง เบลล่า นางเอกใหม่ช่อง 3
เวียร์ ศุกลวัฒน์ เป็นหนุ่มโสด หนุ่มเนื้อหอมอยู่ตั้งนาน แถมตกเป็นข่าวกับสาวคนนั้นคนนี้อยู่บ่อยๆ แต่ยังยักจะไม่เห็น "ตัวจริง" สักที... แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า เราอาจจะได้เห็น 'มนต์รักข้ามช่อง' อีกคู่ของวงการหรือเปล่า?? เพราะเห็น หนุ่มเวียร์ กำลังตกเป็นข่าวกับนางเอกใหม่ช่อง 3 เบลล่า ราณี ที่กำลังจะมีละคร "พรพรหมอลเวง" ออนแอร์เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ บรรดาขาเม้าท์ตาดี ยังสังเกตเห็นว่าทั้งคู่ เพิ่งมีทริปส์ไป จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา แม้จะไม่เห็นภาพแชะคู่กัน แต่บรรยากาศและสถานที่มันเฉลยชัดเจน...!
และยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีก ก็ตรงที่ หนุ่มเวียร์ ออกมาเอ่ยปากเองว่า กำลังคุยๆ กับ น้องเบลล่า นางเอกใหม่ช่อง 3 คนนี้อยู่ แต่ก็ยังเป็นแค่น้องสาว ส่วนอนาคตจะพัฒนาหรือเปล่า อันนี้คงต้องช่วยลุ้น... แต่พูดแบบนี้ ปรึกษา พี่เอ ศุภชัย ก่อนหรือเปล่าเนี่ย...??

เปล่าประชด! พลอย หวานออกสื่อเดี๋ยวแม่*หาว่าเลิก

เปล่าประชด! พลอย หวานออกสื่อเดี๋ยวแม่*หาว่าเลิก
สร้างความข้องใจให้กับบรรดาขาเม้าท์ได้ไม่น้อยสำหรับแท็กข้อความ "#หวานออกสื่อ #เดี๋ยวแม่*หาว่าเลิกกันอีก" ในอินสตาแกรมของนางเอกสาว "พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์" ว่าที่ทำแบบนี้ซุป'ตาร์สาวปากปลาร้าหน้าเป๊ะ กำลังประชดประชันใครอยู่รึเปล่า??
ซึ่งล่าสุดในงานแถลงข่าว "ฉลองครบรอบ 8ปี ร้านอาหาร เคเฟ่ ชิลลี่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน" สาวพลอยก็ได้ออกมาชี้แจงถึงแท็กข้อความดังกล่าวว่าจริงๆ แล้วเป็นเพียงแค่เรื่องขำๆ เท่านั้น พร้อมยืนยันอีกด้วยว่าสถานะหัวใจของเธอกับหนุ่มตาร์ยังหวานเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน!!!
"ข้อความนี้ที่จริงเป็นแค่โพสต์ขำๆ ไม่ได้ประชดใครเลยค่ะ เนื่องจากว่าที่ผ่านมามีข่าวออกมาบ่อยว่าพลอยเลิกกับพี่ตาร์ แถมแฟนๆ ในอินสตาแกรมก็ยังมาขอดูรูปหวานๆ อีก พลอยก็เลยจัดให้ตามใจพวกเค้าแค่นั้นเอง ซึ่งถ้ามันดูหยาบคายเกินไปพลอยก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน แต่ยืนยันไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงแน่นอน"
"ส่วนเรื่องที่บอกว่าแท็กนี้เป็นการยืนยันสถานะความสัมพันธ์ของเราสองคนรึเปล่า คือมันก็แล้วแต่คนคิดนะคะ เพราะในความเป็นจริงตอนนี้เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม โอเคเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนค่ะ"

โบ อึดอัด เพชร เลิกกันแล้วทำไมไม่ยอมจบ

โบ อึดอัด เพชร เลิกกันแล้วทำไมไม่ยอมจบ!!
ยังคงเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจแฟนๆ มาตลอด ว่าจริงๆ แล้วคู่ของอดีตคนเคยรัก "โบ ชญาดา" กับนักแสดงหนุ่ม "เพชร กรุณพล" จบกันอย่างสวยหรูตามที่พูดรึจริงเปล่า !!?? เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่เพิ่งออกมาสาดโคลนใส่กันผ่านอินสตาแกรมว่า "ฝ่ายไหนคือคนที่อยากยุติความสัมพันธ์ก่อนกันแน่" จนก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของทั้งคู่ไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต
ซึ่งล่าสุดในงานแถลงข่าว "ฉลองครบรอบ 8ปี ร้านอาหาร เคเฟ่ ชิลลี่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน" สาวโบ ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เธอนั้นรู้สึกอึดอัดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากและอยากให้อดีตคนเคยรักยุติการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์อีกนับจากนี้!!
"โบพยายามเงียบมาตลอดเลยนะคะสำหรับเรื่องนี้ตั้งแต่เลิกกันไป แต่ว่าโบก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมยังมีการโพสต์ภาพ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ อยู่บ่อยๆ ซึ่งมันมีผลกระทบกับตัวโบค่อนข้างเยอะ และทำให้โบอึดอัดมาก จนกระทั่งล่าสุดโบได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงเหตุผลที่ทำให้เราเลิกผ่านทางอินสตาแกรมแต่ก็ลบทิ้งในตอนหลัง เพราะมีกระแสมีวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอีกว่าโบกับเค้าทะเลาะกันทั้งๆ โบไม่ได้ตั้งใจจะทะเลาะกับคุณเพชรเลย"
การโพสต์ข้อความของโบครั้งนั้นทำให้หลายคนมั่นใจว่าเรากับคุณเพชร จบกันไม่สวยอย่างแน่นอน จริงรึเปล่า ?
"โบพยายามทำให้มันจบสวยที่สุดแล้วนะสำหรับเรื่องนี้ โบพยายามไม่พูดถึงไม่ให้ข่าวมาตลอด แต่ทำไมเค้ายังออกไปให้สัมภาษณ์ต่อหรือพูดถึงเรื่องนี้กับนักข่าวอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้โบอึดอัดใจและก็เสียใจมาก อีกอย่างคือโบไม่เข้าใจทำไมเค้าต้องดึงคุณแบงค์มาเกี่ยวด้วย"
วันนี้ถือว่าเราได้ออกมาพูดแล้วมีอะไรที่อยากจะบอก หรือ คุยกับฝ่ายนั้นไหม ?
"ไม่คุยดีกว่าค่ะ เพราะทุกครั้งที่โบพูดออกไปหรือทำอะไรออกไปมันมีฟีดแบคกลับมาทำให้โบต้องรู้สึกเสียใจตลอด เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปอย่าถามโบเรื่องนี้แล้วกันค่ะ เพราะโบอยากให้ทุกคนมีความสุขทั้งสองฝ่าย"
ตั้งแต่มีข่าวออกมาว่าเราทะเลาะกันในอินสตาแกรมพี่แบงค์ได้พูดอะไรบ้างรึเปล่า ?
"สำหรับตัวคุณแบงค์เองก็พอทราบข่าวว่าโบมีปัญหากับเพชรเค้าก็เข้ามาปลอบ เข้ามาให้กำลังใจ และคอยบอกโบเสมอว่าเดี๋ยวสิ่งเหล่านี้มันก็ผ่านไปแล้วก็ทุกๆ อย่างจะดีขึ้นเอง แค่นั้นเองค่ะไม่มีอะไร"

หนุ่มอเมริกัน ทำลายสถิติ“ขี่คลื่นยักษ์“สูงที่สุดในโลก กว่า 30 เมตร

หนุ่มอเมริกัน ทำลายสถิติ“ขี่คลื่นยักษ์“สูงที่สุดในโลก กว่า 30 เมตร
นักโต้คลื่นมืออาชีพชาวสหรัฐฯ ทำลายสถิติโลกโต้คลื่นขนาดมหึมาเท่าที่เคยมีการบันทึกมา การ์เร็ต แมคนามารา นักโต้คลื่นชาวสหรัฐฯ ทำการโต้คลื่นขนาดยักษ์ที่มีความสูงราว 30 เมตร นอกชายฝั่งเมืองนาซาร์ ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
หากคำกล่าวอ้างดังกล่าวได้รับการยืนยัน นั่นหมายความว่า นาย แมคนามารา จะทำลายสถิติเดิมของตนเอง ที่เคยทำไว้ในการโต้คลื่นที่มีความสูง 23.4 เมตร เมื่อช่วงปลายปี 2011 ที่เมืองนาซาร์เช่นกัน
นาย แมคนามารา เกิดที่เมืองพิตต์สฟิลด์ รัฐแมสซาซูเซตต์ ก่อนครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปยังนอร์ธ ชอร์ มลรัฐฮาวาย ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 11 ก่อนที่จะหัดเล่นเซิร์ฟตามแบบพี่ชาย และเริ่มเข้าแข่งขันในรายการอาชีพเมื่ออายุได้ 17 ปี และร่วมแข่งขันพร้อมกับพี่ชายในรายการต่างๆนานกว่า 10 ปี
เมื่อครั้งที่แมคนามารา วัย 44 ปีจารึกสถิติในช่วงปลายปี 2011 เขาโต้คลื่นยักษ์ร่วมกับแอนดรูว์ คอตตันและอลาสเตียน์ เมนนี เพื่อนนักกระดานโต้คลื่น โดยคราวนั้น เมนนี ให้สัมภาษณ์ว่าสภาพแวดล้อมสมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างสถิติของ แมคนามารา เป็นอย่างยิ่ง
การแข่งขันของเขาในรายการประจำปี Billabong XXL Global Big Wave Awards ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการว่า ทำลายสถิติก่อนหน้าของไมค์ เพียร์สัน ที่ทำไว้เมื่อปี 2008 เพียง 30 ซม.
แมคนามารา เริ่มเดินหน้าทำลายสถิติในช่วงต้นปี 2007 เมื่อเขากลายเป็นนักเซิร์ฟคนแรกที่เล่นเซิร์ฟบอร์ดบนธารน้ำแข็งไชลด์ ความสูง 120 เมตรที่รัฐอลาสก้า
การทำลายสถิติครั้งล่่าสุดนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้าใส่ชายฝั่งเมืองนาซาร์ตลอดทั้งวัน โดยเขาต้องใช้ความระมัดระวังในการโต้คลื่นเป็นอย่างมาก เพราะหากพลาดท่าตกลงมาจากกระดานโต้คลื่น เขาอาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากในบริเวณนั้นมีคลื่นน้ำพัดมาจากหลายทิศทาง ซึ่งอาจซัดร่างเขาเข้าไปกระแทกกับหินโสโครก

ตร.รวบอีกราย “เด่นตามาร“ สมาชิก “แก๊งโอรส“

ตร.รวบอีกราย “เด่นตามาร“ สมาชิก “แก๊งโอรส“
วันนี้ (30 ม.ค.) พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ ผกก.สน.บางพลัด พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน สว.สส. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายสมศักดิ์ ศรีนา อายุ 26 ปี หรือ "เด่นตามาร" สมาชิกแก๊งโอรส ได้ที่บริเวณกลาง ซ.จรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด
พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเด่นตามาร มาปรากฏตัวที่ ซ.จรัญฯ 57 จึงนำกำลังเข้าจับกุม แต่ทำการตรวจเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะ ผลตรวจออกมาเป็นสีม่วง จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.บางพลัด
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเด่นตามาร เคยต้องโทษมาแล้วจำนวน 11 คดี ทั้งในคดีเสพยาเสพติด ครอบครองยาเสพติด ชิงทรัพย์ ตามท้องที่ต่าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมขยายผล เพื่อติดตามจับกุม นายตี๋ โอรสและนายแอล โอรส หัวโจกของแก๊งต่อไป
ด้านผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เคยเป็นสมาชิกของ "แก๊งโอรส" จริง โดยยอมรับว่า เสพยาบ้ามาก่อนหน้า และเพิ่งออกจากคุกในคดีเสพยาเสพติดได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งตนได้เข้ามาในซอยดังกล่าว เพื่อมาพบ น.ส.วัลพา (นามสมมติ) แฟนสาว โดยที่ตนจะไปช่วย น.ส.วัลพา กับแม่ ขายก๋วยเตี๋ยวที่คลองหลอดทุกวัน โดยที่แม่ของแฟนสาวจะให้เงินทุกครั้ง และตนจะนำมาซื้อยาเสพติด
นอกจากนี้ขณะที่ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์ลึกลับโทรหา พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ พร้อมกับอ้างตัวเป็นนักข่าวประจำ บช.น. ว่า ให้ช่วยเปลี่ยนข้อหา จากคดีเสพยาเสพติด เป็นคดีพบโพยบอลแทน แต่ทาง ผู้กำกับ สน.บางพลัด ปฏิเสธไป พร้อมทั้งจะทำการสืบสวนด้วยว่า ปลายสายดังกล่าวนั้นเป็นใครมีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาอย่างไร

พ่อแม่โฮ! เจอแล้ว น้องวายุ ลอยเป็นศพอยู่สระน้ำ

พ่อแม่โฮ! เจอแล้ว น้องวายุ ลอยเป็นศพอยู่สระน้ำ
(30 ม.ค.) เจอแล้ว น้องวายุ หลังหายตัวไปจากบ้านที่ขอนแก่น 10 วันเต็ม พบร่างเป็นศพลอยอืดอยู่ที่สระน้ำหมู่บ้าน ห่างจากบ้านราว 300 เมตร
จากกรณีที่ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์ข้อความประกาศตามหาเด็กชายที่หายตัวไปจากบ้านด.ช.วายุภักษ์ ทอนท้าว หรือ น้องวายุ อายุ 5 ปี ซึ่งหายออกไปจากบ้านพักใน ต.โนนสะอาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มคนในโลกอินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างพากันแชร์ข้อความและรูปภาพต่อกันเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นทางครอบครัวของน้องวายุ ได้ออกตระเวนตามหาทั่วพื้นที่ทั้งใกล้และไกล รวมทั้งใช้วิธีทางไสยศาสตร์แล้ว แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสของน้องวายุแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะลักพาตัวน้องวายุออกจากพื้นที่ไปแล้ว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีพลเมืองดีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาสอบถามรูปร่างลักษณะของน้องวายุเป็นจำนวนมาก โดยมีพลเมืองดี 1 คนแจ้งว่า พบเด็กลักษณะคล้ายกันอยู่พื้นที่ อ.บางแสน จ.ชลบุรี แต่เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว ปรากฎว่าไม่ใช่น้องวายุ
จนกระทั่งล่าสุดในวันนี้ (30 ม.ค.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ ได้รับแจ้งว่า พบศพน้องวายุแล้ว อยู่บริเวณสระน้ำในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของน้องวายุเพียง 300 เมตร จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าสภาพศพลอยขึ้นอืดอยู่ในสระน้ำ
จากการสอบถามพยานผู้พบเห็นเหตุการณ์ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยพบเห็นน้องวายุ วิ่งไล่ตามสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้มาที่สระน้ำ ต่อมาก็เห็นสุนัขตัวดังกล่าวเปียกปอนวิ่งออกมาจากสระน้ำเพียงลำพัง แต่คิดว่าน้องวายุจะตกสระน้ำจมเสียชีวิต เบื้องต้นพ่อแม่ของน้องวายุได้ยืนยันว่า ศพดังกล่าวเป็นน้องวายุจริง เนื่องจากเสื้อผ้าและรูปพรรณสัณฐานตรงกับที่แจ้งไว้

กำนันเป๊าะ ปิดตำนานเจ้าพ่อเมืองชล เปิดประวัติลูกเล่นการเมืองทุกระดับ

กำนันเป๊าะ ปิดตำนานเจ้าพ่อเมืองชล เปิดประวัติลูกเล่นการเมืองทุกระดับ
เป็นข่าวครึกโครม"แรงแซงทางโค้ง" ข่าวการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไปเลยทีเดียว
เมื่อ "กำนันเป๊าะ" นายสมชาย คุณปลื้ม ถูกจับในคดีจ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูร อดีตกำนันตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี เมื่อเดือนมีนาคม 2546 และจับตามหมายจับคดีบุกรุกเขาไม้แก้ว โดยคอมมานโดจับกุมตัว นายสมชาย ได้ในรถตู้ พร้อมกับพวกอีก 3 คน ที่บริเวณด่านมอเตอร์เวย์ หลังผู้ต้องหาเดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และกำลังจะกลับบ้านพักที่ชลบุรี
หลังการถูกจับกุมประเด็นเริ่มผุดขึ้นมา คนเริ่มข้องใจว่าเหตุใด "กำนันเป๊าะ" เพิ่งจะมาถูกจับในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดตั้งนานแล้ว
จากเรื่องราวดังกล่าว ในสเตตัสเฟซบุ๊กของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทยระบุว่า 

"กำนัน เป๊าะถูกตำรวจจับในระหว่างกลับบ้านพักที่ชลบุรี จริง ๆ ผมได้ข่าวจากวงในมานานแล้วว่ากำนันเป๊าะไม่ได้หลบหนีไปต่างประเทศที่ ไหนหรอก แต่อยู่ภายในบ้านพักแถวชลบุรี ในเขตอิทธิพลของแกนั่นเอง แกมีหูตามากมาย นอกจากนั้นแล้วแถบบางแสนชลบุรีก็ติดทะเล สามารถที่จะนั่งเรือเร็วออกไปไหนต่อไหนได้

แต่อย่างว่าล่ะครับ "อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน" เพราะแกวางใจก็เลยมาหาหมอถึงโรงพยาบาลสมิติเวช แกคงเบาใจเพราะว่าเวลาผ่านไปนาน เช่นเดียวกับคุณรักเกียรติก็โดนจับตอนไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ

แกหนีไปตั้ง 10 ปี สุดท้ายถูกจับได้ ที่มอเตอร์เวย์ขากลับชลบุรี หลังจากที่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล และกำลังกลับบ้านที่ชลบุรี ดูแกจะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แกวางใจเกินไปจนลืมนึกไปว่ากระบวนการยุติธรรมตามแกไปได้ทุกที ยกเว้นวันที่หมดลมหายใจ 
พลิกดูประวัติ "กำนันเป๊าะ" แล้วถือเป็น "ผู้กว้างขวาง" ในดินแดนพัทยาและบางแสน เขามีลูกทั้งหมด 5 คน เป็น ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 1 คน
ที่น่าสนใจก็คือ ลูกชายทั้ง 4 คนของกำนันเป๊าะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ดำรงตำแหน่งทางการเมือง "ทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่น" เช่นกัน 
เปิดประวัติลูกชาย 4 คนของกำนันเป๊าะ 
"สนธยา คุณปลื้ม" ลูกชายคนแรก ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แกนนำพรรคพลังชล ประธานสโมสรฟุตบอลศรีราชา ประธานสโมสรฟุตบอลพัทยา ยูไนเต็ด  อุปนายกราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เคยเป็นอดีตกรรมการบริหานพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากกฎหมายยุบพรรค เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
คนต่อมา "วิทยา คุณปลื้ม" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและประธานสโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี
ส่วนลูกสาวคนเดียวของกำนันเป๊าะ "จิราภรณ์ คุณปลื้ม" แม้จะไม่มีบทบาททางการเมืองแต่สำหรับชื่อเสียงในวงการธุรกิจแล้วก็ถือว่า ระดับแนวหน้าของจังหวัดชลบุรี เป็นคนดูแลธุรกิจของครอบครัว
คนที่สี่ "อิทธิพล คุณปลื้ม" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น นายกฯ เทศบาลนครเมืองพัทยา (ที่เป็นเขตปกครองพิเศษ)
คนสุดท้อง "ณรงค์ชัย คุณปลื้ม" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี ซึ่งกำนันเป๊าะก็เคยนั่งตำแหน่งนี้มาก่อนเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า "ตระกูลคุณปลื้ม" เป็นนามสกุลดังที่มีความกว้างขวางในจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ในวงการฟุตบอล "3 สโมสรใหญ่" ระดับไทยพรีเมียร์ลีกก็มีลูกชายของกำนันเป๊าะเป็นเจ้าของทีมทั้งสามทีมอีกด้วย
น่าสนใจว่าการจับกุม "กำนันเป๊าะ" ในช่วงเวลาที่มีกระแสปรับคณะรัฐมนตรีบทบาทของลูกชายคนแรก สนธยา คุณปลื้ม นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมจะสั่นคลอนหรือไม่ แต่ทั้งนี้ นายเฉลิม อยู่บำรุง ได้ออกมาบอกแล้วว่า เรื่องราวดังกล่าวไม่มีผลต่อตำแหน่งหน้าที่แต่อย่างใด
เรียกว่าตำนานของเจ้าพ่อเมืองชล ได้ถูกปิดลงเป็นการถาวรแล้ว กำนันเป๊าะ จำคุก 5 ปี 4 เดือนในคดีทุจริตซื้อที่ดินเขาไม้แก้ และ 25 ปี ในคดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร รวม 2 คดีจำคุกรวม 30 ปี 4 เดือน

นาทีระทึก! ถูกขับรถปาดหน้ายิงปืนขู่ ผู้หญิง คนแก่และเด็ก

นาทีระทึก! ถูกขับรถปาดหน้ายิงปืนขู่ ผู้หญิง คนแก่และเด็ก

คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.youtube.com โดยใช้ชื่อว่า "จ.ส.อ.นันทวัฒน์ เชนส้ม"โดยภาพในคลิปเผยให้เห็นชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถกระบะที่จอดอยู่บนเลนขวาของถนน และลงมาพูดจาข่มขู่คนที่อยู่ในรถซึ่งมีผู้หญิง(คนถ่ายคลิป) ผู้สูงอายุ ผู้ชาย และเด็กวันเพียง2ขวบ พร้อมทั้งรถอีกคันหนึ่งของครอบครัวที่ขับตามกันมา
เบื้องต้น คุณยอด(นามสมมุติ) เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากที่ครอบครัวออกจากบ้านเตรียมที่จะไปรับประทานอาหารในโอกาศวันเกิดของภรรยาตน(คนขับ) และมีรถของน้าชายอีกคันก็ขับตามกันมา ระหว่างที่ขับรถผ่านอุโมงค์บางเขน ภรรยาก็ขับรถชิดขวาเพื่อแซงรถซ้าย โดยใช้ความเร็วประมาณ 80 ก.ม./ชั่วโมง
เมื่อพ้นอุโมงค์ก็เจอทางโค้ง ซึ่งขณะนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับจี้เข้ามาด้วยความเร็วและกระพริบไฟใส่ ตนจึงบอกให้ภรรยาหลบซ้าย แต่เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งและติดรถที่วิ่งเลนซ้ายจึงเปลี่ยนเลนไม่ได้ทันที แต่จังหวะนั้นเองรถกระบะก็ตามมาแซงซ้ายแล้วปาดหน้ารถตนมาเข้าเลนขวา ตนจึงให้ภรรยาชะลอไม่ต้องแซงเพราะเกรงว่าจะเป็นการท้าทาย แต่รถกระบะก็หยุดรถที่เลนขวาทันทีตนจึงต้องจอดตาม
หลังจากนั้นมีผู้ชาย(คนในคลิป) เดินลงมาจากฝั่งคนขับพร้อมปืนในมือ และมาด่าทอภรรยาของตน ซึ่งก็ได้ทำการขอโทษไปแล้ว ซึ่งสังเกตได้ว่าเมื่อคนขับรถกระบะเห็นว่าเป็นผู้หญิงขับรถก็หยุดชะงักไป แต่จังหวะนั้นรถของน้าชายตนที่ขับตามหลังมาเห็นเหตุการณ์ว่ารถตนจอดอยู่ ก็จอดตามเพราะเข้าใจว่ารถเสียแล้วก็ลงจากรถมาดู แต่ผู้ชายที่ถือปืนกลับหันไปด่าทอน้าชายตนว่าจะมีเรื่องหรือ? ภรรยาจึงพยายามขอโทษเพื่อให้เรื่องจบ จบชายคนดังกล่าวเดินหันหลังกลับไปขึ้นรถ พร้อมกับใช้ปืนในมือยิงออกมา 3 นัด แต่ตนไม่ทราบว่ายิงขึ้นฟ้าหรือยิงไปไหน
หลังจากนั้นได้ทำการโทรศัพท์แจ้ง 191 ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะหาทางสะกัดจับรถกระบะคันดังกล่าว แต่ก็ไม่มีวี่แวว
ต่อมาวันรุ่งขึ้นตนจึงไปแจ้งความกับส.น.บางเขนไว้ ซึ่งตำรวจได้นำหมายเลยทะเบียนรถไปตรวจสอบและพบว่าเป็นของจ.ส.อ.นันทวัฒน์ เชนส้ม ทหารสังกัด นทพ. ตำแหน่งหัวหน้าพลขับ และวันนี้(31 ม.ค.56) ตนจะนำปลอกกระสุนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุไปมอบให้กับตำรวจเพื่อตามหาตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ทีมข่าวสอบถามไปยังผู้กำกับส.น.บางเขน ได้ความว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่าการดำเนินการ
โดยคลิปวีดีโอดังกล่าวมีข้อความที่เขียนบรรยายไว้ดังนี้่
เผยแพร่เมื่อ 29 ม.ค. 2013
จ.ส.อ.นันทวัฒน์ เชนส้ม ทหารสังกัด นทพ. ตำแหน่งหัวหน้าพลขับ
คืนวันที่ 29 มกราคม 2556 เวลา 20.00 น. ขับรถกระบะอีซุซุ เลขทะเบียน ศศ 9116 กทม.
ปาดหน้ารถที่ผู้หญิงขับที่มีลูกอายุสองขวบและคนแก่อยู่ในรถ ก่อนชักปืนออกมาชี้หน้าข่มขู่ด่าทอ
เมื่อรถที่ตามมาด้านหลังจอดเพื่อลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ใช้ปืนชี้ทุกคนก่อนยิงข่มขู่ไปสามนัด
จากนั้นก็ขึ้นรถขับหนีออกไป
ผมแจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางเขน และยินดีเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดโดยบริสุทธิ์ใจหากมีใครสงสัยว่าเป็นการกล่าวหาฝ่ายเดีย­วครับ

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ล้วงใจ!! ยิปโซ สรุปแล้วคิดยังไงกับ เป้ อารักษ์

ล้วงใจ!! ยิปโซ สรุปแล้วคิดยังไงกับ เป้ อารักษ์
มีข่าวเม้าท์มอย ออกมาว่านักแสดงสาว "ยิปโซ รมิตา" กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับพระเอกหนุ่มเซอร์ "เป้ อารักษ์"หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีตาตีแอบเห็นทั้งคู่ขวงแขนกันไปดินเนอร์ร้านอาหารหรูอยู่บ่อยๆ แถมยังมีท่าทีสนิทสนมเกินกว่าเพื่อนซะด้วย ซึ่งล่าสุดทีมข่าว Sanook! News ได้มีโอกาสเจอกับสาวยิปโซในงานมอบ "รางวัลพระกินรี 2556" ก็เลยต้องเข้าไปถามเจ้าตัวให้หายข้องใจสักหน่อยว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของเธอและหนุ่มเป้ อยู่ในระดับไหนกันแน่ และจริงรึเปล่าที่ทั้งคู่จูงมือกันไปดินเนอร์สองต่อสอง ซึ่งสาวยิปโซก็ได้ให้คำตอบว่า....
"ความสัมพันธ์ระหว่างพี่เป้กับหนูเราแค่เพื่อนๆ กันมากกว่านะ ไม่ใช่เชิงชู้สาวอย่างที่มีข่าวลือแน่นอน คือเราอาจจะมีนัดทานข้าวกันบ้าง คุยโทรศัพท์หรือแชทหากันบ้างแต่มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่หนูรู้สึกว่าใครๆ ก็ทำกันได้ อีกอย่างคนสองคนที่รู้จักกันมานานขนาดนี้ถ้าจะชอบกันก็คงชอบไปนานแล้วแหละ ซึ่งตอนนี้มันไม่น่าจะพัฒนาไปถึงขั้นแฟนได้หรอกค่ะ"
ได้ยินสาวยิปโซตอบอย่างนี้แล้ว หนุ่มๆ ก็เบาใจได้แล้วนะจ๊ะ เพราะสองคนนี้เค้าไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ!!

แม่ลูกชีวิตรันทด มีเงินแค่ 500 จากเบี้ยยังชีพคนพิการ

แม่ลูกชีวิตรันทด มีเงินแค่ 500 จากเบี้ยยังชีพคนพิการ
สองแม่ลูกฐานะยากจน ลูกติดเชื่อไข้สมองอักเสบ ต้องคลานไปมากับพื้น รายได้มีแค่เบี้ยยังชีพคนพิการ เดือนละ 500 บาท 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 มค.) พระมหาวิชัย อัครเตโช เจ้าอาวาสวัดเวฬุวนาราม อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พบสองแม่ลูกสุดรันทด ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแค่สองคน ในบ้านชั้นเดียวติดถนนสายลำปาง-แพร่ บ้านน้ำทรัพย์ ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ผู้เป็นแม่ชื่อนางลูกอินทร์ เมืองแก้ว อายุ 59 ปี กับบุตรชาย นายปรัชญา หรือ แม็กซ์ อายุ 20 ปี เป็นคนพิการทางสมองตั้งแต่ยังเด็ก เพราะติดเชื้อไข้สมองอักเสบ จากนั้นเดินไม่ได้ต้องคลานและเดินบนพื้น มีเพียงรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 500 บาท ส่วนคนเป็นแม่รับจ้างทั่วไปมีรายได้ไม่แน่นอน เพราะไปทำงานไกลไม่ได้เนื่องจากต้องคอยดูแลลูกชาย
สอบถาม นางลูกอินทร์ กล่าวว่า ตนเคยมีสามีทำงานเป็นพนักงานการไฟฟ้าแม่เมาะ แต่ก็ต้องออกจากงานเพราะเมาสุราบ่อยครั้ง จากนั้นตนและสามีก็แยกทางกันอยู่ สามีไปมีภรรยาใหม่ ตนจึงอาศัยอยู่กับลูกชายเพียงสองคนในบ้านหลังดังกล่าว ในบ้านไม่มีน้ำมีแต่ไฟฟ้า ส่วนเวลาจะไปเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงคนพิการก็ต้องพาลูกชายไปถึงที่ว่าการอำเภอแม่ทะ ซึ่งอยู่ห่างบ้าน 20 กิโลเมตร ค่าโดยสารไปกลับก็ครั้งละ 120 บาทแล้ว แทบไม่เหลืออะไร บางทีก็อาศัยโบกริมถนน หากไม่มีรถจอดก็พาลูกเดินไปเรื่อยๆ ทั้งไปที่ต่างๆและโรงพยาบาลลำปาง

เปิดโผ 10 อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ปี 2013



คาร์ลอส สลิม


บิลล์ เกตส์

          เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐอเมริกา เปิดโผ 100 อันดับ เศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก เผยคาร์ลอส สลิม เศรษฐีชาวเม็กซิกันยังคงครองอันดับ 1 ตามมาด้วยบิลล์ เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์จากสหรัฐฯ

          รายงานระบุว่า คาร์ลอส สลิม มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกัน ครองตำแหน่งสุดยอดมหาเศรษฐีโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว ด้วยทรัพย์สินกว่า 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท แซงหน้าบิลล์ เกตส์ ผู้บริหารไมโครซอฟท์ที่มีทรัพย์สินราว 1.9 ล้านล้านบาท ขณะที่ 10 อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก อัพเดทล่าสุด ณ วันที่ 27 มกราคม 2013 ได้แก่

       1. คาร์ลอส สลิม (เม็กซิกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 2.3 ล้านล้านบาท
       2. บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน)  มูลค่าทรัพย์สิน 1.9 ล้านล้านบาท
       3. อะแมนซิโอ ออร์เทกา (สเปน) มูลค่าทรัพย์สิน 1.7 ล้านล้านบาท
       4. วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 1.5 ล้านล้านบาท
       5. อิงวาร์ คัมพราด (สวีเดน) มูลค่าทรัพย์สิน 1.48 ล้านล้านบาท
       6. ชาร์ลส์ คอช (อเมริกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 1.3 ล้านล้านบาท
       7. เดวิด คอช (อเมริกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 1.3 ล้านล้านบาท
       8. แลร์รี่ เอลลิสัน (อเมริกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 1.23 ล้านล้านบาท
       9. คริสตี้ วอลตัน (อเมริกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 1 ล้านล้านบาท
       10. จิม วอลตัน (อเมริกัน) มูลค่าทรัพย์สิน 9.5 แสนล้านบาท