วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

พลอย รับส่งการ์ดให้กำลังใจ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ - รับยังคิดถึง ต้าร์


 พลอย บอกคิดถึงต้าร์อยู่ พ้อเป็นคนเลวเอง ทำหน้าที่แฟนที่ดีไม่ได้ ไม่มีเวลาให้ อวยพรให้ต้าร์เจอความรักที่สมควรได้รับ พร้อมยอมรับส่งข้อความให้กำลังใจ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติจริง เพราะอยู่โบสถ์เดียวกัน
          ประกาศสวมคอนเวิร์สเลิกราอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ (อดีต) คู่รักสุดหวาน อย่าง พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ กับ ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล หลายคนก็เลยสงสัยว่า คู่รักที่หวานชนิดน้ำตาลเรียกพี่ขนาดนี้ ไหงถึงเลิกกันแบบตัดขาดเช่นนี้

          ล่าสุด (28 เมษายน) สาวพลอย ก็ขอออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก เกี่ยวกับเรื่องความรักดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเลิกกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ข่าวลือแล้ว เพราะเราเลิกกันจริง ๆ เลิกกันมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่วนสาเหตุไม่ขออธิบายเพราะเป็นเรื่องของคนสองคนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน จะอธิบายให้ใครฟังก็คงไม่เข้าใจ ขอให้เป็นเรื่องของตนกับพี่ต้าร์ที่ตกลงกัน ถ้าถามว่า ตนเฮิร์ทไหม ตอนนี้ตนไม่เฮิร์ทแล้ว และก็ไม่มีโอกาสได้คุยได้เจอกันด้วย เพราะตนต้องทำงาน 6 วันรวด

         สำหรับข่าวที่พี่ต้าร์เลิกติดตามอินสตาแกรมของตนนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร พี่ต้าร์อาจจะไม่อยากเห็นหน้าพลอย อย่างพลอยพอเห็นหน้าพี่ต้าร์ก็ยังรู้สึกคิดถึงอยู่ ถ้าถามว่าเสียดายเวลาไหม ตนไม่เคยเสียดายเลย เพราะคิดว่าสิ่งที่ตนตัดสินใจลงไปนั้น มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ตนจะทำได้ ความรักของตนนั้น เส้นทางนี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และตนก็อยากให้พี่ต้าร์เจอความรักที่เขาสมควรจะได้รับ ถ้าจะมาถามเรื่องรีเทิร์นกันนั้น ตนคงตอบไม่ได้จริง ๆ

         ส่วนเรื่องปัญหาความรักที่ทำให้ต้องแยกทางนั้น ตนมองว่ามันเป็นจิกซอว์ที่ต่อไม่เข้าที่ บางอันก็ไม่ลงล็อก บางอันก็ยังหาไม่เจอ ถึงแม้ว่าเราจะพยายามต่อเกินครึ่ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เราสองคนก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เหมือนกัน ตนก็ไม่อยากโทษคนอื่น ถ้าหากจะหาคนไม่ดี ใครคือคนเลว ตนขอยอมรับไว้ทั้งหมด มันจะได้จบ ๆ ไปเสียที เพราะที่ผ่านมา ตนไม่มีเวลาให้พี่ต้าร์ ไม่สามารถทำหน้าที่แฟนที่ดีได้ งานก็เยอะ เวลาก็ไม่ค่อยมี เพราะฉะนั้นตนก็อยากให้เขาเจอความรักที่เขาสมควรได้รับ

         สาวพลอย กล่าวถึงกระแสข่าวคุณแม่พี่ต้าร์ไม่ปลื้มด้วยว่า ตนไม่อยากให้เอาครอบครัวพี่ต้าร์มาเกี่ยวข้อง เพราะครอบครัวเขาดีกับตนมาก ๆ เป็นห่วงตนตลอดเวลา ให้ความรัก ดูแล และช่วยเหลือตนเสมอ ส่วนข่าวที่บอกว่า ตนทำทุกวิถีทางที่จะง้อพี่ต้าร์มาตลอดนั้น ตนคิดว่าเรื่องราวความรักของตนชาวบ้านก็คงจะเอาไปเม้าท์กันแบบสนุกปาก อาจจะต่อยอดสร้างเรื่องยังไงก็ได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ตนอยากให้ฟังจากปากตนมากกว่า

         เมื่อถามถึงสภาพจิตใจตอนนี้ นางเอกสาวบอกว่า ตอนนี้ก็ทำใจได้แล้ว จะให้มาร้องไห้ให้ใครเห็นก็คงไม่ใช่พลอย เพราะพลอยไม่ใช่คนที่มาแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น ส่วนตอนนี้ก็ไม่มีเวลาให้เหงา หรือเสียใจเท่าไร เพราะทำงานถ่ายละครทุกวัน แต่ก็ยอมรับว่าคิดถึง.. คิดถึงพี่ต้าร์มาก ๆ

        ต่อด้วยประเด็นมือที่ 3 ซึ่งมีรายชื่อของ มาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงรุ่นน้องคนสนิท ที่เพิ่งเลิกรากับแฟนสาวเช่นเดียวกันมาพัวพันเกี่ยวข้องด้วย พลอย เฌอมาลย์ กล่าวว่า มาริโอ้ไม่ได้เป็นมือที่สาม เราเป็นพี่น้องกัน ส่วนที่กุ๊บกิ๊บเลิกติดตามอินสตาแกรมตนนั้น ตนก็ไม่ทราบ แต่ทุกวันนี้ก็มีไลน์ มีส่งข้อความหากันบ้าง สำหรับเรื่องราวความรักของ กุ๊บกิ๊บ กับมาริโอ้นั้น ตนเหมือนคนกลางมากกว่า และก็ไม่จำเป็นที่เมื่อทั้งคู่เลิกกันแล้วตนจะต้องอยู่ฝ่ายใคร นอกจากนี้ สาวพลอยก็ขอเคลียร์ข่าวลือเรื่องติดค่าเช่าคอนโดฯ 10 เดือนว่า ตนเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ 2 เดือนเองจะติดค่าเช่าถึง 10 เดือนได้อย่างไร และตนก็เพิ่งจ่ายค่าส่วนกลางไป 7 หมื่นกว่าบาท

        ส่วนข่าวที่ระบุว่า ตนเขียนข้อความส่งไปหา คุณประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั้น ตนยอมรับว่าตนเขียนจริง เพราะท่านเป็นคริสเตียนเหมือนกัน แล้วก็มีพี่ที่รู้จักกันทำงานอยู่แบงก์ชาติ ซึ่งเขาก็บอกว่าท่านเครียด และมีปัญหาอยู่ อยากให้พวกเราชาวคริสเตียนส่งกำลังใจให้หน่อย และตนก็เป็นพวกแนวรักแนวให้กำลังใจอยู่แล้ว จึงเขียนข้อความให้กำลังใจไป มีอะไรที่พอจะช่วยได้ก็ช่วยกัน


แฟน ๆ นิว-จิ๋ว เตรียมตัวไปสนุก ไปซึ้ง กับ NJ’s Story Concert


 แฟน ๆ ของ 2 สาวเสียงดี นิว-นภัสสร ภูธรใจ และ จิ๋ว-ปิยนุช เสือจงพรู เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสนุก ไปซึ้งกันใน NJ’s Story Concert คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตให้ 2 สาวมาบอกเล่าเรื่องราวและตัวตนให้แฟน ๆ ได้รู้จักกันแบบเต็ม ๆ พร้อมด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์, กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ และ แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น ถึง 2 รอบเต็มอิ่ม ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 8-9 มิถุนายนนี้ ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เวลา 19.00 น.

          แฟน ๆ ของ นิว-จิ๋ว ห้ามพลาด!! บัตรราคา 1,000 / 1,500 / 2,000 และ 2,500 บาท หาซื้อบัตรได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา และติดตามข่าวความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/ideafactgmm

คลิป จยย. เสยเก๋ง ร่างกระเด็นกลางถนน-ปิกอัพเหยียบซ้ำ


คลิป นางสาวแสงเดือน โพธิชู  ซิ่งรถจักรยานยนต์ ชนรถเก๋ง ร่างกระเด็นร่วงกลางถนน รถปิกอัพขับตามมาไม่เห็นเหยียบซ้ำ เสียชีวิต

          วานนี้ (28 เมษายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ภัยอาสาร่วมกตัญญูว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี เป็นเหตุคนขับขี่จักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัส

          ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บคือ นางสาวแสงเดือน โพธิชู อายุ 34 ปี นอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน สภาพขาทั้ง 2 ข้างหักหลายท่อน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน ใกล้กันนั้นพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ของผู้ตายอยู่ในสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ส่วนฟากถนนฝั่งขวาพบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กอ 469 นครราชสีมา กระจกด้านซ้ายได้รับความเสียหาย โดยมีนายปริญญา จันทรา อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่  และบริเวณขอบทาง พบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน กท 6379 นครปฐม มี Mr.Lee Raul Malltt  อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่  

          ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า นายปริญญา ขับรถออกมาจากพัทยา เพื่อจะเดินทางไป จ.นครราชสีมา พอมาถึงที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ขับออกมาจากซอยตรงข้าม และได้ขับตัดหน้ารถอีกคัน ก่อนที่จะพุ่งตรงมายังรถของนายปริญญา แล้วชนเข้าที่ด้านหน้าฝั่งซ้ายอย่างจัง เป็นเหตุให้นางสาวแสงเดือนกระเด็นอยู่กลางถนน

          ทันใดนั้น รถปิกอัพของ Mr.Lee ขับตามหลังรถของนายปริญญาห่างกันไม่ถึง 50 เมตร ก็ได้เหยียบไปยังร่างของ นางสาวแสงเดือนอย่างเต็มแรง ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ก่อนที่จะเสียหลักหักลงเข้าขอบทาง ซึ่งกล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าวสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด  

          อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นางสาวแสงเดือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยตั้งข้อหาร่วมกันขับรถโดยประมาท ทำให้มีผู้เสียชีวิต  

ระเบิดกรุงปราก เมืองหลวงเช็ก เจ็บเกือบครึ่งร้อย คาดแก๊สระเบิด


 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุระเบิดขึ้นในกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก มีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 40 ราย คาดต้นตอมาจากแก๊สระเบิด 

          วันนี้ (29 เมษายน) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นบนถนนดิฟาเดลนิ ในกรุงปราก ห่างจากโรงละครแห่งชาติเพียงเล็กน้อย แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างของอาคารที่อยู่โดยรอบในบริเวณ 100 เมตร แตกกระจายได้รับความเสียหาย คาดว่ามีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 40 ราย และอาจมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 3 ราย ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ และอพยพผู้ที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบแล้ว

          ทางด้านต้นตอของการระเบิดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากแก๊สที่รั่วไหลในอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Associationม, IATA) และเป็นที่ตั้งของหอศิลป์อีกแห่งหนึ่ง โดยคาดว่าน่าจะมีผู้คนอยู่ในอาคารนั้นราว 15 คนในเวลาเกิดเหตุ 


ช็อกวงการ! ชารีซ เพ็มเพ็งโค ลุคใหม่กลายเป็นทอมซะแล้ว

 เรียกได้ว่าทำเอาช็อกวงการ รวมถึงแฟน ๆ เพลงไปเลยทีเดียว หลังจากที่ ชารีซ เพ็มเพ็งโค นักร้องสาววัย 20 ปี จากฟิลิปปินส์ เจ้าของเพลงฮิตอย่าง "Pyramid" ที่ได้เปลี่ยนลุคจากสาวหวานกลายเป็นทอมสุดแมน เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างสิ้นเชิง
         โดยเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2556 เว็บไซต์ fyidailynews.com ได้เปิดเผยภาพล่าสุดของ ชารีซ เพ็มเพ็งโค หลังจากที่โด่งดังแจ้งเกิดอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนที่เธอจะเงียบหายไปจากวงการ ซึ่งก็ทำเอาแฟน ๆ อึ้งไม่น้อย เพราะเจ้าตัวเปลี่ยนลุคใหม่กลายเป็นทอม แถมยังควงคู่มากับสาวปริศนาข้างกายอีกด้วย


สคบ. เล็งจัดระเบียบโรงหนัง ชี้ค่าตั๋ว-อาหาร แพงเป็นอันดับ 3 ของโลก


 สคบ. เตรียมจัดระเบียบโรงภาพยนตร์ หลังผู้บริโภคร้องค่าตั๋ว-อาหาร แพงเกินจริง และจากการศึกษายังพบว่า โรงภาพยนตร์ไทยมีค่าบริการสูงติดอันดับ 3 ของโลก เตรียมเชิญผู้ประกอบการเข้าหารือภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนให้กรมการค้าภายใน ช่วยดูราคาที่ให้เหมาะสม

            เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2556 นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ สคบ. จะเชิญผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทั้งหมด เข้าหารือและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการให้บริการลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในโรงภาพยนตร์หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคหลายรายว่า ราคาค่าบริการแพงเกินความจริง โดยเฉพาะราคาบัตรชมภาพยนตร์ และราคาค่าอาหารต่าง ๆ โดยแนวทางการควบคุม สคบ. จะประสานกรมการค้าภายในช่วยตรวจสอบ และกำหนดราคาที่เหมาะสมให้ ขณะเดียวกันหากผู้บริโภครายใดมีข้อสงสัยว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนมาที่ สคบ. ได้ตลอดเวลาราชการ หรือแจ้งมายังสายด่วน 1166

            ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ สคบ. พบว่า อัตราค่าบริการภายในโรงภาพยนตร์ของไทยมีค่าบริการสูงมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการมักอ้างถึงต้นทุนการดำเนินงานที่มีจำนวนมาก ทั้งอัตราค่าเช่า ต้นทุนแรงงาน และค่าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ที่เข้าฉาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมและจัดระเบียบใหม่ให้ถูกต้อง

            นายจิรชัย ยังกล่าวอีกว่า ราคาบัตรชมภาพยนตร์ตอนนี้มีราคาค่อนข้างสูง คือ ประมาณ 200 บาท เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ผ่านมาไม่กี่ปี พบว่าปรับราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ขณะที่ราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ขายหน้าโรงภาพยนตร์ก็มีราคาแพงขึ้น โดยไม่มีการตรวจสอบหรือควบคุมอะไรเลย รวมถึงบางวันก็มีราคาไม่เท่ากัน และหากเลือกใช้บริการที่นั่งชมภาพยนตร์อย่างดี ก็จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ดังนั้นเพื่อให้เกิดมาตรฐานความเป็นธรรม คงต้องมาจัดระเบียบใหม่ โดยจะรอรับการชี้แจงข้อเท็จจริงจากผู้ประกอบการก่อนว่า เหตุใดจึงคิดราคาในระดับนี้ มีต้นทุนที่เหมาะสมกับความเป็นจริงหรือไม่

คำอาลัยจากภรรยาทหาร EOD กับการสูญเสียสามีโดยไม่ได้บอกลา


 ใครเลยจะรู้ว่า...คำบอกรัก จะเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย... เช้าวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่สร้างความเศร้าและสะเทือนใจคนไทยทั่วประเทศ เมื่อเสียงระเบิดดังลั่น พร้อม ๆ กับร่างของเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด EOD ที่แหลกสลาย และเสียชีวิตในจุดดังกล่าวทันที หลังจากที่พวกเขาทั้ง 3 คน กำลังผ่าพิสูจน์ระเบิดที่เก็บกู้มาได้จากพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ เป็นการซ้อนแผนของโจรใต้ใจอำมหิต ที่วางวงจรระเบิดซ้อนไว้ 2 ชั้น โดยหวังจะคร่าชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหารทุกนายที่อยู่ในบริเวณนั้น...

           ไม่มีใครคาดคิดว่า การลงปฏิบัติงานเพียงแค่ 1 เดือน ของ ร.ท.ชัยสิทธิ์ เตชะสว่างวงศ์ หรือ"เน็ต" หัวหน้าชุด EOD ที่เก็บกู้ระเบิดดังกล่าว จะเป็นการทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา... ทั้ง ๆ ที่ ร.ท.ชัยสิทธิ์ เพิ่งเข้าพิธีสมรสกับแฟนสาวมาได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น ทั้งคู่กำลังจะมีอนาคตที่สดใสด้วยกัน

           โดย คุณกชมน เตชะสว่างวงศ์ ภรรยาของ ร.ท.ชัยสิทธิ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Kotchamon NuMay  ระบายความในใจว่า... "ณ จุดนี้หัวใจกำลังจะสลาย เสียใจที่สุดในชีวิต อยากจะเข็มแข็ง แต่มันยากเหลือเกิน ไม่ว่าตอนนี้ที่รักจะอยู่ที่ไหน ขอให้ที่รักกลับมาหาเค้านะ Net David  T_T มันยาก และโหดร้ายจริง ๆ 

ศึกมวยชิงผัว! วัดระยองจัดไฟต์ล้างตา เมียหลวงปะทะเมียน้อย

 วัดระยองจัดศึกมวยชิงผัว ระหว่างเมียหลวงกับเมียน้อย เดิมพันเงิน 2 หมื่นบาท ถ่ายทอดสดผ่านเคเบิลระยอง หลังจากไฟต์ก่อนหน้าเมียน้อยเอาชนะไปได้



            เมื่อวานนี้ (28 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ที่วัดศรีมโนภาสสถิตพร ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง มีการจัดงานประจำปีครบรอบวันเกิด พระครูบวรสาธุกิจ (อาจารย์จิ้ม) เจ้าอาวาส พร้อมกับพิธีส่งมอบศาลาเอนกประสงค์และอาคารเรียนวัดหลังใหม่ ขณะที่ในช่วงกลางคืน เวลา 21.00 - 23.00 น. จะมีการแข่งขันชกมวยไทย ศึกวันรวมน้ำใจมหากุศล ถล่มเดิมพันเมืองระยอง ที่มีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง เป็นประธานจัดการแข่งขัน ถ่ายทอดสดผ่านเคเบิลท้องถิ่น

            อย่างไรก็ตาม เมนูเด็ดสำหรับการแข่งขันชกมวยรายการนี้ อยู่ที่การชกมวยไทยหญิงนัดล้างตาที่เรียกกันว่า ศึกมวยชิงผัว เดิมพันด้วยเงิน 20,000 บาท ระหว่าง ฝนเทียม ป.ฉัตรชัย (เมียหลวง) น้ำหนัก 65 กิโลกรัม พบ ดาวเจิดจ้า อ.มีคุณ (เมียน้อย) น้ำหนัก 60 กิโลกรัม โดยทั้งคู่มีอายุเท่ากันที่ 32 ปี ก่อนหน้านี้เคยชกกันมาหนึ่งนัด ผลปรากฏว่า เมียน้อยเป็นฝ่ายชนะเมียหลวงไปได้ แม้ว่าเมียหลวงจะเป็นต่อ 5-1 เลยก็ตาม

            ด้านนายรำพึง เพชรชมภู โปรเตอร์ วัย 67 ปี ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า มวยรายการนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้เตรียมที่นั่งทั้งหมด 1,700 ที่นั่ง ราคาที่นั่งละ 250 บาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าที่นั่งน่าจะไม่พอ เนื่องจากตอนนี้กองเชียร์ของเมียหลวงและเมียน้อย ต่างติดต่อซื้อที่นั่งฝ่ายละ 100 คนแล้ว ส่วนความพร้อมของนักชกทั้งสอง ฝนเทียม (เมียหลวง) จะโชว์ลีลาการไหว้ครูกุมภพัณฑ์ลับหอก ส่วนดาวเจิดจ้า (เมียน้อย) จะโชว์ลีลาไหว้ครูสาวน้อยปะแป้งทั้งนี้ การแข่งขันอันดุเดือด น่าจะทำให้เงินเดิมพันของการชกคู่นี้ สูงขึ้นในช่วงก่อนแข่งแน่นอน

            ผู้จัดการแข่งขัน ระบุอีกว่า เงินรายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้ทางวัดในการซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนให้กับโรงเรียนวัดศรีมโนภาส, โรงเรียนวัดท่าเรือแกลง, โรงเรียนวัดตะเคียนทอง และโรงเรียนวัดเขายายชุม

สุดแปลก! หญิงอังกฤษละเมอทำกับข้าว-กินอาหารกลางดึกทุกคืน



  เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า นางเลสลีย์ คูแซ็ก หญิงชาวอังกฤษวัย 55 ปี ต้องเผชิญกับโรคประหลาด ทำให้เธอนอนละเมอตื่นขึ้นมาทำอาหารและกินอาหารที่มีปริมาณถึง 2,500 แคลอรี ในทุก ๆ คืนโดยที่เธอไม่รู้ตัว!

          รายงานระบุว่า นางเลสลีย์ คูแซ็ก มีความผิดปกติทางการนอนที่เกี่ยวข้องกับการกิน (Nocturnal Sleep-Related Eating Disorder: NSRED) ทำให้เธอนอนละเมอตื่นขึ้นมาทานอาหารทุกคืน กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าเธอกินอะไรไปบ้างก็ตอนเช้าของอีกวันหนึ่ง ซึ่งจะมีเศษอาหารหรือเปลือกขนมหล่นกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น


          โดย นางคูแซ็ก เปิดเผยว่า ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่เธอละเมอกิน บางครั้งเธอก็เคยกินสี วาสลีน หรือแม้กระทั่งผงซักฟอกเข้าไปด้วยเช่นกัน ซึ่งการละเมอของเธอส่งผลให้เธอมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น บางครั้งก็ฟันหัก และมีแผลฟกช้ำตามตัว เพราะการพยายามทำอาหารในที่มืดนั่นเอง 

          อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีทางแก้ปัญหาการนอนละเมอได้ นางคูแซ็กจึงหันมาทานผลไม้และสลัด รวมถึงออกกำลังในช่วงระหว่างวันเพื่อควบคุมน้ำหนักแทน ซึ่งขณะนี้เธอก็กำลังหาผู้เชี่ยวชาญที่จะมารักษาโรคนี้โดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าหากเธอละเมอเดินออกจากบ้านไปก็อาจเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้

เกย์นที ร้องสอบ ม.เชียงใหม่ หลัง ผศ.กันต์ พูนพิพัฒน์ ใช้พื้นที่ถ่ายนู้ดเกย์


 เกย์นที พร้อมสมาชิกกลุ่มเชียงใหม่อารยะ ร้องกระทรวงวัฒนธรรมตรวจสอบ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังพบ ผศ.กันต์ พูนพิพัฒน์ อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ เข้าใช้พื้นที่ เรือนไทลื้อ ของมหาวิทยาลัย เพื่อถ่ายภาพนู้ดเกย์

          วันนี้ (29 เมษายน) นายนที ธีระโรจนพงษ์ หรือ เกย์นที พร้อมสมาชิกกลุ่มเชียงใหม่อารยะ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายบพิตร วิทยาวิโรจน์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเรื่องให้ นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าตรวจสอบการใช้สถานที่บน เรือนไทลื้อ ที่ตั้งอยู่ภายในสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นสถานที่ในการถ่ายภาพนู้ดเกย์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์กันต์ พูนพิพัฒน์ เป็นคนลงมือถ่ายภาพ
          ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพเปลือยของชาย 2 คน ในเครื่องแต่งกายแบบล้านนา จำนวนหลายภาพ ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมระบุว่าภาพถ่ายดังกล่าว ถ่ายที่เรือนไทลื้อ ซึ่งเป็นเรือนไม้โบราณ ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา และอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

          โดยภาพนู้ดดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมคำวิพากษ์วิจารณ์ในการใช้เรือนไม้โบราณอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพื่อถ่ายภาพเปลือยที่ส่อเจตนาไปทางลามกอนาจาร และหลายภาพมีลักษณะคล้ายการร่วมเพศด้วย

          ซึ่งนายนที กล่าวว่า เรือนไม้หลังนี้มีประวัติเก่าแก่มายาวนาน การเข้ามาถ่ายนู้ดจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อนุญาตได้อย่างไร เพราะหากอยากสื่อถึงศิลปะก็ควรไปใช้พื้นที่อื่น ไม่ใช่สถานที่ในการศึกษาประวัติศาสตร์ และในเบื้องต้นทราบว่าภาพชุดดังกล่าว ถ่ายโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์กันต์ พูนพิพัฒน์ หัวหน้าภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมทั้งมีการจัดแสดงไปเมื่อปี 2555

          อย่างไรก็ตาม นายนที และกลุ่มเชียงใหม่อารยะ อยากเรียกร้องให้กระทรวงวัฒนธรรมตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงมาตอบคำถามในสังคมว่าเรื่องดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องขอโทษต่อสังคมด้วย

ไทยไม่สน คลิป 5 เงื่อนไข BRN ชี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงตั้งแต่แรก


ไทยไม่สน คลิป 5 เงื่อนไข BRN ชี้เจรจากันบนโต๊ะเท่านั้น ลั่นข้อเสนอ 5 ข้อ ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงตั้งแต่แรก ยันเดินหน้าเจรจาตามกำหนดเดิม ด้าน กลุ่มวาดะห์ เผย คลิปดังกล่าวเป็นเพียงกลุ่มสร้างสถานการณ์

            หลังจากที่แกนนำ BRN (แนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี) ได้โพสต์ คลิป ประกาศ 5 เงื่อนไข เพื่อให้ฝ่ายไทยได้รับทราบ ก่อนที่จะทำการเจรจากันเป็นรอบที่ 2 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันนี้ (29 เมษายน) จึงทำให้มีกระแสข่าวว่า ทางไทยจะยกเลิกการเจรจา เนื่องจากเงื่อนไข 5 ข้อ ที่ทางกลุ่ม BRN เสนอมานั้น เป็นเงื่อนไขที่ฝ่ายไทยเสียเปรียบ

            โดยล่าสุด วันนี้ (29 เมษายน) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตนแปลกใจว่าทำไมถึงมีข่าวลือยกเลิกการเจรจาเกิดขึ้น รวมถึงกระแสข่าวที่ให้ปรับบทบาทมาเลเซีย จากการทำหน้าที่ประสานงาน มาเป็นคนกลางในช่วงพูดคุยถึงสันติภาพดังกล่าว ซึ่งตนขอยืนยันการเจรจาทั้งหมด มีกำหนดตามเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

            พล.ท.ภราดร  กล่าวยืนยันว่า กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ กับ BRN นั้น จะต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญของไทย ตามที่ได้ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 โดยมาเลเซียจะเป็นเพียงผู้สนับสนุนการพูดคุยเท่านั้น ดังนั้นการที่ BRN เรียกร้องให้มาเลเซียเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงในครั้งแรก ตนจึงไม่อยากให้ประชาชนวิตกว่าฝ่ายไทยจะเสียเปรียบ เพราะทั้งหมดมีการสืบสภาพข้อเท็จจริง ว่าข้อเรียกร้องแต่ละข้อนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ 

            ส่วนการประกาศท่าทีของ BRN ว่า ต้องการต่อสู้เพื่อเอกราชปัตตานีนั้น เลขา สมช. ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายคิดต่างได้แสดงยืนจุดยืนอย่างชัดเจน เพื่อให้การพูดคุยมีเป้าหมายที่ตรงกัน ส่วนประเด็นที่ BRN ย้ำชัดว่า ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นองค์กรเพื่อปลดปล่อยปัตตานี เราก็ต้องมาดูกรอบข้อเรียกร้องอีกครั้งหนึ่ง ว่าเป็นได้หรือไม่ อย่างไร และตนก็ไม่กังวล ที่จะนำปัญหานี้ไปสู่เวทีโลก

            ขณะที่ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึง 5 เงื่อนไข ที่ BRN เรียกร้องว่า ข้อตกลงต่าง ๆ ควรพูดบนโต๊ะการพูดคุย ไม่ควรนำมาพูดนอกโต๊ะ การพูดคุยเช่นนี้จะรับข้อเสนอหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะตัวแทนการพูดคุยของฝ่ายรัฐบาล เพราะการพูดคุยบนโต๊ะกับนอกโต๊ะ ย่อมมีข้อตกลงที่แตกต่างกัน

            ส่วนทางด้าน นายนัจมุดดีน อูมา แกนนำกลุ่มวาดะห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคลิป 5 เงื่อนไขดังกล่าวนั้น อาจจะเป็นเกมลวงก็ได้ ต้องรอให้คณะผู้เจรจากลับมาก่อนจะดีกว่าเพราะการเจรจายังไม่ทันจะเริ่ม แต่กลับมีคลิปออกมาแบบนี้ ตนคิดว่ามันไม่ชอบธรรม ส่วนคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทันทีนั้น ก็ไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้ยังไม่ทันจะพูดคุย ซึ่งคลิปที่ออกมาอาจจะมาจากคนที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุย มาสร้างสถานการณ์ก็เป็นได้ 

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

ประวัติ ฮาเวิร์ด หวัง หนุ่มไต้หวันสุดฉาวที่บุกบ้าน เอมี่ แม็กซิม

 ยังคงมีข่าวฉาวได้อีก สำหรับหนุ่ม ฮาเวิร์ด หวัง นักร้อง นายแบบ และนักแสดงชาวไต้หวันที่เคยมีผลงานในไทย อดีตสมาชิกวงไจแอนท์ ค่ายอาร์เอส ที่มีชื่อเสียงในช่วงปี 2541-2542 ที่ล่าสุดถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรวบตัว เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศที่เคยก่อเหตุในไทยมาแล้วถึง 3 คดี หลังจากที่ ฮาเวิร์ด หวัง ถูกแจ้งความเนื่องจากบุกรุกบ้านของสาว เอมี่ แม็กซิม หรือ น.ส. รุ่งฤทัย สิริยานต์ แฟนเก่า พร้อมเขียนข้อความบอกรักด้วยเลือดไว้บนกำแพง



          หากพลิกแฟ้มประวัติของหนุ่มสุดฉาวคนนี้ เขามีชื่อจริงว่า ฮาเวิร์ด หวัง (Howard Wang) หรือ วิลลี่ หวัง (Willie Wang) หรือ หวัง ซือฮาว อายุ 27 ปี เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2528 เป็นชาวไต้หวันแท้ ๆ มีบิดามารดาเป็นชาวไต้หวัน เมื่อตอนเด็ก พ่อแม่ของ ฮาเวิร์ด หวัง มาทำธุรกิจที่ประเทศไทย เขาจึงได้มาอาศัยอยู่ในไทย ก่อนจะได้เข้าวงการบันเทิงโดยเป็นสมาชิกวงป๊อปที่ชื่อ ไจแอนท์ ของค่ายอาร์เอส ออกผลงานเพลงมา 2 ชุด มีเพลงดังอย่าง รสปูอัด และ เจ็บแปลบ ที่โด่งดังระหว่างปี พ.ศ. 2541-2542 นอกจานี้ ฮาเวิร์ด หวัง ยังเคยมีส่วนร่วมในการถ่ายทำรายการ MTV Whatever Things ทางช่องเอ็มทีวี หลังจากนั้นเขาก็ได้กลับไปเกณฑ์ทหารที่ไต้หวัน 1 ปี
          จากนั้นในปี พ.ศ. 2552 ฮาเวิร์ด หวัง มีผลงานโฆษณา และออกผลงานอัลบั้มเพลง คอนเวอร์เจนซ์เลิฟวัน กับค่ายไอ มิวสิค ร่วมกับศิลปินอื่นอย่าง อเล็กซานเดอร์ เรนเดลล์ หญิงแม้น และยิปซี โดยร้องเพลง จะพยายาม นอกจากนี้ ฮาเวิร์ด หวัง ยังได้รับรางวัล 50 หนุ่มคลีโอ 2009 หนุ่มโสดในฝัน สาขา The Most Sporty Guy by Sports Mall และมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง บางคนแคร์ แคร์บางคน คู่กับ วุ้นเส้น วิริฒิพา ทั้งยังมีผลงานเพลงเดี่ยวกับค่าย ไอ มิวสิค ในซิงเกิล เจ็บแปลบอีกครั้ง และ Anyone แค่ใครสักคน

           สำหรับเรื่องอื้อฉาวของ ฮาเวิร์ด หวัง เขาเคยถูกจับในปี พ.ศ. 2552 ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นหลังจากที่มีปากเสียงกัน หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 ฮาเวิร์ด หวัง ถูกตำรวจควบคุมตัว เนื่องจากมีกัญชาไว้ในครอบครอง ต่อมาในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ฮาเวิร์ด หวัง ก็ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือ หมวย แม็กซิม อดีตแฟนสาว ซ้ำยังมีข่าวในต้นปี พ.ศ. 2555 ว่า ฮาเวิร์ด หวัง เคยได้พา หมวย แม็กซิม แฟนเก่าไปทำแท้ง แถมในเดือนเมษายนปีเดียวกัน ฮาเวิร์ด หวัง และเพื่อนได้ถูกจับกุมในข้อหามั่วสุมเสพยาไอซ์อีกต่างหาก

           ล่าสุด ฮาเวิร์ด หวัง ถูกแฟนเก่าสาว เอมี่ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมี่ แม็กซิม แจ้งความเนื่องจาก ฮาเวิร์ด หวัง ได้บุกรุกปีนบ้านของเธอ พร้อมเขียนข้อความ I Love U ด้วยเลือดไว้ที่ระเบียง จนเป็นข่าวใหญ่โต ต่อมาในวันที่ 23 เมษายน 2556 ฮาเวิร์ด หวัง ก็ได้ถูกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จับกุมและเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ โดยจะส่งกลับไต้หวัน เนื่องจากเขาอยู่ในแบล็กลิสต์ เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศไทย เพราะเคยถูกดำเนินคดีอาญาถึง 3 คดี โดยสาเหตุที่ ฮาเวิร์ด หวัง เข้าไทยมาได้ก่อนหน้านี้ เพราะเขาเปลี่ยนชื่อและทำพาสปอร์ตใหม่ ก่อนจะเข้ามาโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวนั่นเอง

นิชคุณ ร้องไห้กลางคอนเสิร์ต สัญญาจากนี้จะทำให้ดีที่สุด

แม้จะมีภาพลักษณ์ที่ดีมาตลอด สำหรับ นิชคุณ หรเวชกุล หนุ่มไทยหนึ่งเดียวในวง 2PM แต่ก็มีเหตุให้ต้องถูกพักงานพร้อมทั้งเกิดกระแสแอนตี้จากชาวเกาหลีใต้บางส่วนอยู่พอสมควร เนื่องจากเหตุการณ์เมาแล้วขับเมื่อปีก่อน

          ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา นิชคุณ และเพื่อน ๆ วง 2PM ก็ได้ร่วมกันขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ "Legend of 2PM in Tokyo Dome" ที่ประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางแฟนคลับที่มาร่วมสนุกกันอย่างล้นหลาม ประมาณ 110,000 คน จนนิชคุณถึงกับต้องหลั่งน้ำตากลางเวทีด้วยความรู้สึกผิดและซาบซึ้งใจที่แฟน ๆ ยังคอยห่วงใยและเคียงข้างเขาอยู่เสมอ

          "ทุกคนคงจะลำบากกันมากเพราะผม ขอบคุณจริง ๆ ครับ ที่ยังเชื่อมั่นในตัวผมและมอบความรักให้กับผม ตอนนี้ถ้าผมกลับไปเกาหลี ผมจะตอบแทนทุก ๆ คนด้วยภาพลักษณ์ที่ดีจริง ๆ ครับ ผมรักคุณครับ" ...นี่คือคำกล่าวของนิชคุณ ที่ส่งผ่านไปยังแฟนคลับทุกคน และยืนยันว่าเขาจะเป็นคนดีเพื่อแฟน ๆ ที่เขารัก



พลอย เฌอมาลย์ เลิก นาวิน ต้าร์ แล้ว แจงไปกันไม่ได้

 หลังจากที่มีกระแสข่าวมาแว่ว ๆ ว่า พลอย เฌอมาลย์ กำลังระหองระแหงอยู่กับ นาวิน ต้าร์ อย่างในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ต่างคนก็ต่างไปเที่ยวไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเยอะเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังไม่มีการคอนเฟิร์มในเรื่องนี้ ล่าสุด (23 เมษายน) พลอย เฌอมาลย์ ก็ได้ออกมายอมรับอย่างเต็มปากว่า ข่าวเลิกรากับ นาวิน ต้าร์ นั้นเป็นเรื่องจริง
          ทั้งนี้ พลอย เฌอมาลย์ กล่าวว่า ตนเองเพิ่งเลิกกับนาวิน ต้าร์ เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ สาเหตุยังไม่อยากพูดถึงมาก ขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน เหตุผลที่เลิกกันไม่เกี่ยวกับมือที่สาม ฝ่ายชายเองเป็นคนดีและดูแลตนเองดีมาตลอด แต่เพียงแค่ไลฟ์สไตล์ไปด้วยกันไม่ได้ ตอนนี้ก็ยังคุยเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่รู้สึกไม่เหมือนเดิม และพลอยเองก็กำลังถ่ายทำละครเรื่องใหม่ เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่ด้วยกัน

          นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวอีกว่า นาวิน ต้าร์ ได้หยุดติดตามอินสตาแกรมของพลอยไปแล้วด้วย

          อย่างไรก็ตาม กระปุกดอทคอม ของเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนด้วยนะจ๊ะ สู้ ๆ



ตั๊ก บงกช โชว์ท้องโต หลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน

ท่าทางจะตื่นเต้นไม่เบา สำหรับว่าที่คุณแม่มือใหม่ ตั๊ก บงกช คงมาลัย ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับอุ้มลูกน้อยในครรภ์เข้าพิธีสำคัญครั้งนี้ด้วย ซึ่งทั้งตั๊กและเจ้าสัวบุญชัย ได้ตั้งชื่อหนูน้อยคนนี้ว่า น้องต้นข้าว และล่าสุด ตั๊ก ก็ได้ออกมาเปิดหน้าท้อง โชว์ครรภ์อ่อน ๆ อายุได้ 4 เดือนแล้วจ้า
          ทั้งนี้ ตั๊ก บงกช ได้โพสต์ภาพโชว์หน้าท้องลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เผยให้เห็นความสวยงามของคุณแม่ในขณะที่ตั้งครรภ์ ซึ่งตั๊กเองก็ดูจะตื่นเต้นกับลูกคนแรกเป็นอย่างมาก เห็นได้จากใบหน้าที่มีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะหนูน้อยในครรภ์โตวันโตคืนเลยทีเดียว

          เห็นแบบนี้แล้ว ก็ดีใจแทนคุณแม่มือใหม่จริง ๆ จ้า อยากเห็นหน้าลูกคนนี้ไว ๆ แล้วสิ


จุ๋ย โต้ข่าว หวนเซ็นสัญญาช่อง 7 พร้อมร่วมงานทุกคน

จุ๋ย วรัทยา โต้ช่อง 7 ดึงกลับเล่นละคร ปัดจ่อเซ็นสัญญา แจงแค่เข้าไปไหว้พี่ตุ๊กตา แต่ยินดีร่วมงานเสมอ
          มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า สาว จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา กำลังจะกลับไปซบช่อง 7 เพราะทางช่องเตรียมดึงลงละคร ในงานพระราชทานรางวัลเทพทอง จุ๋ย ก็ก็ออกมาปฏิเสธในเรื่องนี้

          ด้านจุ๋ย กล่าวว่า ไม่มีนะ ไม่มีข่าวนี้ เพราะว่าจุ๋ยยังไม่ทราบเรื่องเลย แต่ว่าถ้าถามจุ๋ย ก็รักทุกที่ทุกช่องค่ะ เพราะช่อง 7 ก็เป็นที่ที่จุ๋ยเกิดมา เรื่องทาบทามก็ยังไม่มีค่ะ แต่งานอะไรที่จุ๋ยสามารถทำให้พี่ตุ๊กตาได้ จุ๋ยก็ยินดี พี่ตุ๊กตาก็บอกแล้วว่าเรายังมีความสัมพันธ์อันดีกันอยู่ เรื่องละครอยู่ที่เวลาค่ะ แต่ถ้าต่อสัญญาคงไม่ได้แล้ว เพราะจุ๋ยอยู่เวิร์คพ้อยท์ไปแล้ว แต่สำหรับละครจุ๋ยจะเล่นที่ไหน ช่องไหนก็ได้ เพียงแต่ต้องดูเรื่องของเวลา และความเหมาะสม

          นอกจากนี้ สาวจุ๋ย เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ก็เพิ่งถ่ายเรื่องบ่วงวันวารจบไปแล้ว ก็มีเรื่อง สามีตีตรา ก็หนักเอาการเหมือนกันค่ะ เป็นเรื่องที่ยากสำหรับจุ๋ยเหมือนกัน เหนื่อยมาก เล่นเสร็จแล้วเป็นไมเกรนเลย เป็นอะไรที่เครียดมาก นอกจากนี้ยังไม่ทราบค่ะ จริง ๆ หลังจากจบเรื่องบ่วงวันวาร กับเอ็กแซ็กท์ไป ก็มีการพูดคุยกันอยู่ แต่ว่าก็คงต้องดูเรื่องเวลาด้วย ตัวจุ๋ยเอง ก็อยากร่วมงานกับทุกที่ทุกคนค่ะ



ใบเตย อาร์สยาม แจงภาพแนบชิด ดีเจแมน แค่รับงานร่วมกัน

 สร้างเสียงฮือฮาให้ผู้ชมได้ตลอด สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว ใบเตย อาร์สยาม เจ้าของคอนเซ็ปต์"ไม่สั้นเสมอหู อย่าเรียกหนู ใบเตย" ที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ใบเตย ได้โพสต์ภาพขณะไปเที่ยวสวีทกับหวานใจหนุ่ม ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ที่หัวหิน แถมฝ่ายชายยังโพสต์ภาพด้านข้างของหญิงชายคู่หนึ่งที่กำลังสวีทกันสุด ๆ โดยฝากชายยกตัวฝ่ายหญิงขึ้นกอดแบบแนบชิด ซึ่งภาพดังกล่าวไม่ว่าจะดู ยังไง๊... ยังไง ก็คือ ใบเตย กับ ดีเจแมน ชัด ๆ เมื่อเทียบกับภาพอื่นที่ ใบเตย และ ดีเจแมน โพสต์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเหมือนว่างานนี้ทั้งคู่จะโชว์หวานกันแบบไม่แคร์สื่อเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวกับเจ้าตัวสาว ใบเตย อาร์สยาม ก็ได้คำตอบว่า ภาพที่ออกมานั้น เป็นเพียงการรับงานคู่กันของ ใบเตย กับ ดีเจแมน เพื่อเซอร์ไพรส์แฟน ๆ เท่านั้นเอง พร้อมแจงว่า ถึงเธอจะแต่งตัวเซ็กซี่ แต่ก็ไม่ใช่คนชอบโชว์อีกด้วย



ใหม่ สุคนธวา สลัดผ้า ทวงบัลลังก์เซ็กซี่ - สุดช้ำโดนมองเสี่ยเลี้ยง

กลับมาสร้างกระแสให้ร้อนสนั่นวงการอีกครั้ง กับการสลัดผ้าโชว์เรือนร่างสุดสะบึม ของนางร้ายสุดเซ็กซี่  ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร พร้อมปาดน้ำตาโต้ประเด็นเสี่ยเลี้ยง งานนี้ อ.ยิ่งศักดิ์ รับหน้าที่ขยี้ทุกประเด็นในรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง สตาร์แม็กซ์ ซึ่งจะออนแอร์ในวันที่ 24  เมษายน 2556

          ด้าน ใหม่ กล่าววา บอกตรง ๆ ถ่ายเซ็กซี่ครั้งนี้ คือการกลับมาทวงบัลลังก์ของใหม่ค่ะ จะเห็นได้จากภาพที่ออกมา บอกเลยว่าถอดจริงอะไรจริง คอนเซ็ปต์ของใหม่คือ ถ้าผู้ชายซื้อต้องร้องซี้ด ผู้หญิงซื้อต้องร้องโอ้ว ทึ่งในหุ่นของเรา และเล่มนี้ใช้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก แต่เราดูแลความเซ็กซี่ของเราให้เพอร์เฟคอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นเวลามีงานติดต่อเข้ามา จะไม่ได้รับคำว่าปฏิเสธจากสุคนธวา


          "ส่วนเรื่องมีเสี่ยเลี้ยง บอกตรงนี้เลยนะค่ะ ว่าไม่จริงเลย ถึงตัวใหม่จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็หาเงินจากการทำงานเองใหม่ภูมิใจกับบทบาทของนางร้าย และความเซ็กซี่มาก เพราะนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้ พ่อแม่เหนื่อยมามากแล้ว ทุกคนที่รู้จักใหม่จะรู้ว่าใหม่เป็นคนกตัญญูและรักครอบครัว การทำตัวแบบนั้นเหมือนเป็นการดูถูกพ่อแม่ตัวเอง และใหม่ก็เกลียดมาก เกลียดคนที่เม้าท์บ้า ๆ  เม้าท์ปัญญาอ่อน เม้าท์ไม่มีสติ คือพอเถอะ คุณอย่าดูถูกคนอื่น ถ้าคุณเองยังไม่รู้จักกับตัวตนเขาจริง ๆ อยากให้ทุกคนเข้าใจและมองว่า บางครั้งความเซ็กซี่กับความเป็นนางร้าย มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องง้อพวกเสี่ย ถ้ามีเสี่ยสักคนเดินเข้ามา ใหม่ก็จะขอบคุณ แต่จะมองตั้งแต่หัวจรดเท้าและจะจำไว้ว่าสักวัน ฉันจะมีให้ได้มากกว่าคุณ" ใหม่ สุคนธวา กล่าว

โตโน่ ปลื้ม จะหยุดเวลาได้ไหม แรง พร้อมส่ง MV ใหม่



หลังจากปล่อยเพลงช้าเนื้อหาดี จะหยุดเวลาได้ไหม มาให้แฟนเพลงได้ฟังเป็นซิงเกิลที่ 2 ก็ได้กระแสตอบรับแรงเกินคาด จนทำให้เพลงนี้เข้าไปอยู่ในชาร์ตในหลายจังหวัด ซึ่งโตโน่และเพื่อน ๆ วง The Dust ปลื้มและขอบคุณแฟนเพลงที่ให้การสนับสนุนอย่างดี จึงลุยถ่ายมิวสิควิดีโอเวอร์ชั่นที่ 2 มาให้ชมกัน เป็นพิเศษจากเวอร์ชั่นแรกที่เน้นให้เห็นการร้องและการเล่นดนตรีอย่างชัดเจน แต่เวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดอารมณ์เศร้ากินใจ ซึ่งโตโน่เล่าให้ฟังว่า

          "ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณ พี่ตุ๊ก วรัชยา พรหมสถิต และพี่เปี๊ยก ธนเดช ผาสุขธรรม ที่สร้างเพลงเพราะ ๆ เพลงนี้มาให้ผมร้อง และทำให้ผมอินไปกับอารมณ์ของเพลง ยิ่งตอนที่ผมไปถ่ายมิวสิควิดีโอที่บางปู บรรยากาศสวยมากครับ ถึงแดดจะร้อนมากแต่ภาพก็ออกมาสวยสมใจผู้กำกับ พี่กบ สุรางค์รัตน์ เมฆพัด

          เอ็มวีนี้ได้น้องฐา กิตติ์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ มาแสดงเป็นนางเอกให้  โดยเรื่องราวกล่าวถึงความรักของคน 2 คนที่ไม่อยากให้จบลง จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม จะต้องทำวิธีไหน? หรือต้องหยุดเวลาด้วยนาฬิกาเรือนไหน? ถึงจะหยุดหรือเหนี่ยวรั้งไม่ให้คนที่เรารักจากเราไป

          การทำงานในวันนั้นเราถ่ายกันหลายฉาก ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ต้องชมน้องฐาและทีมงานทุกคนที่มีความตั้งใจมาก ทำให้ทุกฉากผ่านไปได้เร็ว แล้วด้วยเนื้อหาเพลงนี้ก็ซึ้งมาก เวลาแสดงผมก็ยิ่งอินมาก ๆ ไปกับบทที่ได้รับ อยากให้ทุกคนติดตามชมเรื่องราวและภาพสวย ๆ ของเพลงนี้กันด้วยนะครับ"

          ติดตามความฟังเพลง จะหยุดเวลาได้ไหม จาก Tono & The Dust ได้แล้ววันนี้ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ และชมมิวสิควิดีโอทางรายการต่าง ๆ ในเครือแกรมมี่ , Youtube และช่อง GMM Music รวมทั้งสามารถดาวน์โหลดเพลงนี้ได้แล้ว โทร *123 4666 และ iTunes Store ติดตามความเคลื่อนไหวที่www.facebook.com/UPGband และ www.facebook.com/TONOandTheDUST


ใหม่ ดาวิกา รำแก้บนย่านาค หลัง พี่มากพระโขนง ทะลุ 500 ล้าน

รายได้ทะลุ 500 ล้านไปแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง พี่มากพระโขนง สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ไทยเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 24 เมษายน 2556 ใหม่ ดาวิกา ก็ได้ตื่นแต่เช้า มารำบวงสรวงแก้บนย่านาค พร้อมกับถ่ายรูปบรรยากาศตอนแก้บน มาฝากกันด้วยจ้า

          ส่วนพิธีแก้บนในครั้งนี้ สาวใหม่ก็อยู่ในชุดไทยนุ่งซิ่น ห่มสไบสีแดง เหมือนกับในภาพยนตร์เป๊ะ พร้อมกับไปฝึกซ้อมรำวงมาตรฐานมาก่อน เพื่อที่จะใช้ในการรำแก้บนโดยเฉพาะ ก่อนที่จะไปรำแก้บนที่ศาลแม่นาคพระโขนง โดยมีแฟนคลับตามไปให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

          เห็นกระแสหนัง พี่มากพระโขนง มาแรงขนาดนี้ บางทีสาวใหม่ อาจต้องมารำแก้บนอีกหลาย ๆ ครั้งก็ได้เนอะ อิอิ


พิษรักแรงหึง! หญิงเวียดนามถูกทุบตี-จับแก้ผ้า หลังถูกเข้าใจว่าเป็นชู้


 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 เว็บไซต์ thainguyentv.vn ได้เผยแพร่คลิปสุดอื้อฉาวที่กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมเวียดนามอยู่ในขณะนี้ โดยเป็นคลิปที่แม่รายหนึ่งพร้อมด้วยลูกชาย กำลังรุมทำร้ายและแก้ผ้าประจานหญิงอีกรายหนึ่ง เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นชู้ของสามีเธอ

            รายงานระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่นางเหวียนถิเตวียต อายุ 43 ปี กับ นายเลดี่งกวี๋ บุตรชาย วัย 16 ปี ช่วยกันทำร้ายและจับถอดผ้าออกจนหมด พร้อมกับตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า"แกแย่งผัวชาวบ้านทำไม" และแม้ว่าหญิงผู้เสียหายจะพยายามคว้าเสื้อผ้าปกปิดส่วนสงวนเอาไว้ ก็ไม่เป็นผล

            ทั้งนี้ หญิงผู้เคราะห์ร้าย ให้การว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่เธอขับรถจักรยานยนต์เพื่อไปทำงานที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกใกล้หมู่บ้านตามปกติ เมื่อผ่านหน้าบ้านนางเตวียตซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 3 หลังคา นางเตวียตได้เข้าขวางทางให้หยุด จากนั้นได้กำทรายจากพื้นถนนซัดใส่หน้าของตน และนายเลดี่งกวี๋บุตรชายได้ปรี่เข้ามากระชากผม ก่อนจะร่วมกันใช้กำลังถอดเสื้อผ้า ทั้งนี้ เธอยอมรับว่าสามีของนางเตวียตเคยแวะเวียนไปหา แต่เธอรู้ดีว่าเขามีครอบครัวแล้ว และมีความสัมพันธ์กันฉันเพื่อนบ้านเท่านั้น ซึ่งเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันต่างทราบดี แต่นางเตวียตยังคงหวาดระแวงและก่อเหตุร้ายขึ้น

            นอกจากนี้ เธอยังกล่าวด้วยว่า หลังคลิปถูกแพร่ออกไป เธอต้องลาออกจากงานด้วยความอับอายทันที และก่อนหน้านี้เธอก็เคยถูกนางเตวียตดักทำร้ายถึง 4 ครั้ง และแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการอะไร จนกระทั่งเกิดเหตุร้ายครั้งนี้ เธอจึงขอร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับสองแม่ลูกอย่างเด็ดขาด

คลิปแฉ นศ. ชนคนปางตายขอจ่าย 500 จบป่ะ ว่อนเน็ต!



แชร์ว่อนเน็ต คลิปนักศึกษาสาว ม.ดัง ป้องแฟนหนุ่มหลังขับรถชนหญิงชราจนบาดเจ็บ ขอจ่าย 500 จบป่ะ สร้างความโกรธแค้นให้ครอบครัวผู้เสียหายอย่างยิ่ง

            เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์และส่งต่อ "คลิปชนคนปางตายขอจ่าย 500 จบป่ะ.. " ซึ่งคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นภาพของเหตุการณ์ที่ครอบครัวของหญิงชราซึ่งถูกรถของเด็กนักศึกษาชน โดยผู้เสียหายกำลังต่อว่าหญิงสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอออกโรงปกป้องแฟนหนุ่ม หลังขับรถชนหญิงชราจนได้รับบาดเจ็บปางตายว่า "ขอจ่าย 500 จบป่ะ" โดยใต้คลิปมีข้อความระบุด้วยว่า

            "คลิปนี้ทำมาเพื่อประจาน จิตใจของเด็กที่อยู่ในคลิปนี้
            แฟนหนุ่มเธอขับรถชน แม่ฉันปางตาย หญิงมหาวิทยาลัย...
            ตระโกนใส่คนในครอบครัวผู้เสียหายว่า "ก็ยังไม่ตายนี้... แค่ 500 บาท จบป่ะ"

            สร้างความเจ็บปวด และแค้นใจให้แก่ผู้ถูกชนและครอบครัวอย่างมากมายกับพฤติกรรมต่ำทราม
ไร้มนุษย์ศีลธรรมของเด็กสาวในคลิป ซึ่งหลังจากถ่ายภาพเธอก็ไม่ได้ออกมาขอโทษใด ๆ กับ
คำพูด โดยอ้างว่า เธอเป็นคนนอก แค่เนี้ย ไม่เกี่ยว ทางครอบครัวผู้เสียหายเลยบอกว่า แล้วถ้าเป็นคนนอก มึงเสือกทำไม มาพูดเพื่ออะไร ??? ปากหาเรื่อง"


            อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังว่าไม่เหมาะสม และเห็นด้วยที่ทางผู้เสียหายต่อว่านักศึกษารายดังกล่าว ขณะที่บางส่วนมองว่าทางครอบครัวผู้เสียหายก็รุมด่าฝั่งนักศึกษาจนเกินเหตุ

รวบคนขับรถตู้ลวนลาม-ชิงทรัพย์ ผู้โดยสารหญิง พบเพิ่งพ้นคุกหลายคดี


ตำรวจนนทบุรี แถลงข่าวการจับกุมคนขับรถตู้สายจตุจักร-หมู่บ้านบัวทองธานี ที่พยายามคุกคามทางเพศผู้โดยสารหญิงแต่ไม่สำเร็จ ก่อนชิงทรัพย์หลบหนีไป พบประวัติก่อคดีอื้อ และเพิ่งพ้นคุกมาได้ไม่นาน

          เมื่อวานนี้ (23 เมษายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้เปิดแถลงข่าวจับกุมตัว นายวรรณะ จ้อยศรีเกตุ อายุ 33 ปี คนขับรถตู้โดยสารประจำทาง ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ รวมทั้งพยายามลวนลามผู้โดยสารหญิงรายหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ได้รับแจ้งจาก น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่ง ที่ร้องเรียนว่าถูกคนขับรถตู้โดยสารประจำทางสายจตุจักร-หมู่บ้านบัวทองธานี หมายเลขทะเบียน 14-2875 กทม. ก่อเหตุชิงทรัพย์และพยายามลวนลาม

          ทั้งนี้ น.ส.ก้อย ให้การว่า หลังเลิกงานเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ตนได้เรียกรถตู้คันดังกล่าวขึ้นจากป้ายรถเมล์หน้าสำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อกลับบ้านย่านบางใหญ่ ซึ่งรถตู้คันดังกล่าวไม่มีผู้โดยสารคนอื่นเลย ทั้งที่เพิ่งออกจากท่ารถจตุจักร ต่อมารถตู้ได้มุ่งหน้าไปยังที่หมายด้วยความเร็วสูง โดยไม่ได้จอดแวะรับผู้โดยสารอื่น จนกระทั่งถึงป้ายรถบริเวณหน้าหมู่บ้านเกล้ารัตนา ถนนรัตนาธิเบศร์ ตนจึงบอกคนขับรถตู้ให้จอดที่ป้ายดังกล่าว พร้อมกับยื่นค่าโดยสารให้ แต่นายวรรณะได้คว้าข้อมือตนไว้ ก่อนกระโดดจากหน้ารถมาประชิดตัวตน พร้อมกับข่มขู่ให้ตนอยู่นิ่ง ๆ แล้วใช้ผ้าขนหนูมาปิดปาก โดยพยายามลวนลามทางเพศแต่ไม่สำเร็จ ตนกลัวมาก จึงพยายามขัดขืน ก่อนจะบอกว่าตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่ 400 บาท ถ้าไม่พอจะกดเอทีเอ็มให้อีก คนร้ายจึงบอกให้ตนไปกดเพิ่ม 1,500 บาท ก่อนรีบชิงทรัพย์และขับรถหลบหนีไป

          อย่างไรก็ตาม หลังจากรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ออกแกะรอยติดตามเบาะแสรถตู้โดยสารคันดังกล่าว จนพบว่าเป็นรถตู้ที่มีนายวรรณะเป็นผู้ขับ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยเบื้องต้นนายวรรณะให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินค่าเช่ารถ แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อเหตุเป็นจำนวนมาก ทั้งคดีลักทรัพย์ คดีทำร้ายร่างกาย คดีจำหน่ายยาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกได้ไม่นาน ก่อนจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ

ฮาเวิร์ด หวัง ถูกจับ ติดแบล็กลิสต์ห้ามเข้าไทย - เตรียมส่งกลับไต้หวัน


สตม. งง ฮาเวิร์ด หวัง โผล่ตามสื่อทั้งที่ขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าไทย ตามรวบคาฟิตเนส พบลอบเปลี่ยนชื่อ ระบุไม่อายัดตัวคดี เอมี่ แม็กซิม เพราะแค่ลงบันทึกประจำวัน เตรียมผลักดันกลับไต้หวันทันที

            เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ สตม. ได้จับกุมตัว นายฮาเวิร์ด หวัง นายแบบหนุ่ม และอดีตนักร้องวงไจแอ้นท์ ได้ที่หน้าร้านฟิตเนส เซ็นทรัลพระราม 9 โดยการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก นายฮาเวิร์ด ได้ให้สัมภาษณ์ออกสื่อ กรณีที่ น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมี่ แม็กซิม อายุ 28 ปี เข้าแจ้งความบุกบ้าน ทุบกระจก จึงสงสัยว่า นายฮาเวิร์ด เข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร เพราะเจ้าตัวขึ้นแบล็กลิสต์เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในประเทศไทย เพราะเป็นภัยต่อสังคม เนื่องจากถูกดำเนินคดีอาญา ถึง 3 คดี คือ

            1. ข้อหาทำร้ายร่างกาย ศาลแขวงพระนครใต้ พิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555

            2. สน.บางขุนนนท์ คดีเสพยาบ้า ศาลตลิ่งชัน พิพากษาจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555

            3. สน.ห้วยขวาง คดีครอบครองกัญชา ศาลอาญา พิพากษาจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท รอลงอาญา 2 ปี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2555

            จากนั้น กก.3 บก.สส.สตม. ได้ดำเนินการผลักดัน ฮาเวิร์ด หวัง กลับไต้หวัน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556

            ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพาสปอร์ตพบว่า นายฮาเวิร์ด ได้ใช้วิธีการเปลี่ยนชื่อจึงเข้ามาในเมืองไทยได้ ซึ่งระหว่างการตรวจสอบว่าขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อนั้นผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ได้ควบคุมตัวไว้สอบสวนและคุมขังที่ สตม. ซอยสวนพลู หลังจากนั้น จะทำการผลักดันส่งตัว นายฮาเวิร์ด กลับประเทศไต้หวันทันที

            ด้าน พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า ทาง สน. ไม่จำเป็นต้องอายัดตัวนายฮาเวิร์ดไว้ดำเนินคดี เนื่องจาก น.ส.อมลวรรณ เพียงต้องการลงบันทึกประจำวัน ไม่ต้องการเอาเรื่อง ซึ่งทาง สตม. ก็คงผลักดันออกนอกประเทศได้ทันที

รวบแล้ว บุญช่วย ยานธูป ไอ้โหดฆ่าเผาสาวลพบุรี อ้างเป็นโรคประสาท


รวบไอ้โหดฆ่าเผาสาวลพบุรีชิงทรัพย์ได้แล้ว ชาวบ้านนับ 100 ล้อมโรงพัก ตำรวจคุมเข้ม หวั่นรุมประชาทัณฑ์ ด้านเจ้าตัวอ้างเป็นโรคประสาท สวนนักข่าว อย่าถามมาก แค่นี้ก็เครียดพอแล้ว

            เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายสุดโหด ฆ่าเผาสาวโรงงานวัย 43 ปี ดับสยองคาบ้าน ก่อนทำร้ายลูกสาวของผู้ตายวัย 9 ขวบจนสลบ ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว คือ นายบุญช่วย ยานธูป อายุ 35 ปี หลังหนีไปกบดานอยู่ที่วัดหนองปิง ต.โคกกระเทียม อ.เมืองลพบุรี จึงได้นำกำลังเข้าไปจับกุม ทั้งนี้ จากการตรวสอบพบว่า นายบุญช่วย ไม่มีงานการเป็นหลักแหล่ง เป็นคนในพื้นที่ และเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ต้องสงสัย ที่มีบ้านพักอาศัยใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาคนดังกล่าว มีประวัติเกี่ยวพันยาเสพติด และเคยต้องคดีฆ่าคนตายมาแล้ว

            ด้านผู้ต้องหาสารภาพว่า เบื้องต้นจะเข้าไปข่มขืนเหยื่อ แต่ขัดขืนจึงลงมือฆ่าทิ้ง และด้วยกลัวความผิด จึงเผา หวังอำพรางคดี โดยอ้างว่า ตนเองเป็นโรคประสาททำไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งระหว่างแถลงข่าวการจับกุมนั้น มีชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน เดินทางมาที่ สภ.ท่าวุ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องจัดกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพราะเกรงชาวบ้านจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา

พบช้างเผือก แก่งกระจาน กรมอุทยานฯ คุมเข้มหวั่นเดินข้ามชายแดน



พบช้างเผือก แก่งกระจาน กรมอุทยานฯ คุมเข้ม ช้างเผือก แก่งกระจาน หวั่นเดินข้ามชายแดน 

            วันนี้ (24 เมษายน) นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงภาพช้างป่าสีขาวนวลอมชมพู ซึ่งอาจจะเป็นช้างลักษณะสำคัญ หรือ ช้างเผือก ว่า จากรายงานและภาพที่ได้เห็นทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอ ยังเป็นภาพที่เห็นไกล และยังต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนเสียก่อน โดยเฝ้าดูและเก็บภาพรายละเอียดแบบใกล้ชิด เพื่อตรวจดูว่าต้องตามคชลักษณ์ในส่วนใดบ้างเพราะช้างสำคัญมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากช้างอื่น 7 ประการ แต่หากไม่ครบทั้งหมดก็ยังถือว่าเป็นช้างสำคัญเช่นกัน คือ เป็นช้างสีประหลาด ซึ่งหากพบว่าเข้าคชลักษณ์จริง ก็ถือเป็นเรื่องมหามงคลของประเทศ ขณะนี้เราได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเสริมในการลาดตระเวนดูแลความปลอดภัย รวมทั้งเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด ในส่วนว่าจะใช้เวลาแค่ไหนเพียงใด ยังคงตอบไม่ได้

            สำหรับในกรณีตกเป็นเป้าหมายให้กลุ่มพราน ทั้งในและนอกพื้นที่เข้ามาไล่ล่านั้น นายโนพัศ กล่าวว่า ตอนนี้จัดกำลังเข้ามาคุ้มกันแล้ว เชื่อว่า กำลังมีมากกว่าพวกไล่ล่า หรือถ้าไม่พอก็จะเสริมเข้ามาอีก จะใช้มาตรการเข้ม คือ จับได้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังห่วงว่า หากเป็นช้างสำคัญจริง ในระหว่างที่ยังไม่สามารถนำออกมาตามราชประเพณีได้ เนื่องจากพื้นที่แถบนี้อยู่ติดกับชายแดน มีช้างข้ามไปมากับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ไม่อยากให้มีการข้ามไป จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเท่าที่เคยไปดูช้างเผือกในประเทศพม่า ก็พบว่าคล้องได้จากแนวชายแดนไทย-พม่า เช่นกัน

            ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุดจากการเฝ้าติดตาม ช้างลักษณะพิเศษ ที่พบในป่าเด็ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่อาจเข้าลักษณะเป็น "ช้างเผือก" ตามตำรานั้น ปรากฏชัดเจนแล้วว่า เป็น "ช้างพลาย" หรือช้างตัวผู้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นข่าวที่ดีมากหากสามารถคล้องมาได้ และเข้าตำราคชบาลการเป็นช้างเผือก จะเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยและคนไทยทั้งชาติอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่มีกระแสว่า ช้างสีชมพูที่พบนี้มีหางสีดำนั้น ข้อเท็จจริงตามตำรานั้น ระบุว่า ต้องมีขนหางยาว ไม่ใช่หางขาวแต่อย่างใด ซึ่งช้างเชือกนี้มีขนหางยาวด้วย

            อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ช้างลักษณะพิเศษเชือกนี้จะเดินข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้น น้อยมาก เพราะแหล่งหากินอยู่ในอุทยานฯ นอกเสียจากจะมีแก๊งล่าช้างนำตัวออกไป และในช่วงบ่ายวันนี้ นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และคณะ จะเดินทางมายังอุทยานฯ เพื่อปล่อยแถวในการดูแลช้างลักษณะพิเศษเชือกนี้ด้วย 

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

เอมมี่ Maxim โต้อยากดัง เผยแม่ ฮาเวิร์ด โทรขอเคลียร์


เอมมี่ อมลวรรณ หรือ เอมมี่ Maxim มิสแม็กซิม ปี 2012 โร่ สน.ลาดพร้าว แจ้งจับ ฮาเวิร์ด หวัง ข้อหาบุกรุกบ้าน เผย แม่ฝ่ายชายโทรเคลียร์ โต้อยากดัง
            เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (22 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแบบสาว เอมมี่ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ มิสแม็กซิม ปี 2012 เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกแฟนหนุ่ม ฮาเวิร์ด หวัง บุกบ้านทาวน์โฮมหมู่บ้านสราญรมย์ ย่านลาดพร้าว ปีนขึ้นบ้านชั้น 2 ทุบกระจกห้องนอนและใช้เลือดเขียนข้อความว่า I LOVE U หลังจากที่ได้บอกเลิกฝ่ายชาย
            โดยนางแบบสาวได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ตนไม่อยากเอาเรื่องและไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต พร้อมยอมรับว่า มารดาฝ่ายชายได้โทรมาเจรจาไกล่เกลี่ยขอยอมความและวอนจบเรื่องดังกล่าว แต่ฝ่ายชายกลับส่งข้อความมาต่อว่า ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ซึ่งตนกับฝ่ายชายนั้นรู้จักและคบหาดูใจกัน มากว่า 2 ปี และเคยบอกเลิกกันอยู่บ่อย ๆ และทุกครั้งที่บอกเลิก ฝ่ายชายก็จะเข้าทำร้ายร่างกายตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเรื่องดังกล่าว และไม่อยากให้ฝ่ายชายบุกเข้ามาที่บ้านหรือกระทำการไม่เหมาะสมอีก เพราะหวั่นว่าจะเกิดอันตราย จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความ

            เอมมี่ Maxim ยืนยันด้วยว่า ไม่เคยคิดจะสร้างกระแส หรือเกาะฝ่ายชายดังอย่างแน่นอน เพราะตนเองก็เป็นนางแบบของแม็กซิม เคยคบกับนักแสดงหล่อขั้นเทพมาแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร ที่ผ่านมาตนกับฮาเวิร์ดก็รักกันดี แต่เข้ากันไม่ได้ เพราะรูปแบบชีวิตต่างกัน จึงทะเลาะกันบ่อย ซึ่งเวลาที่ทะเลาะกันฮาเวิร์ดก็จะด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนก็รับไม่ได้เพราะกระทบพ่อกับแม่ ดังนั้น ก็เลิกกันไปดีกว่า

รวบสามีเดนคุก ราดน้ำมันจุดไฟเผาภรรยาทั้งเป็น แค้นตีตัวออกห่าง


ตำรวจอยุธยารวบสามีโหด ใช้น้ำมันเบนซินราดก่อนจุดไฟเผาภรรยาทั้งเป็น สารภาพเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุได้ซื้อน้ำมันใส่ขวดมาดักรอหวังปรับความเข้าใจ เมื่อผิดหวังจึงลงมือด้วยความแค้น
            เมื่อวานนี้ (22 เมษายน) เจ้าหน้าที่สืบสวนภูธรภาค 1 ได้บุกเข้าจับกุม นายอาทิตย์ จันทคำ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีพยายามฆ่าโดยเจตนา น.ส.นันทวัน ภาควิชัย อายุ 31 ปี ภรรยาของตัวเอง ด้วยความหึงหวง โดยใช้น้ำมันเบนซินที่ซื้อมาราดเข้าที่ใบหน้าก่อนจุดไฟเผาทั้งเป็น

            ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายอาทิตย์ได้ที่หอพักใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายอาทิตย์ได้หนีมาหลบซ่อนอยู่กับเพื่อน จากการค้นตัวพบเงินสด จำนวน 50 บาท และข้อความในโทรศัพท์มือถือที่ส่งไปขู่ฆ่า น.ส.นันทวัน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

            จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอาทิตย์ รับสารภาพว่า เคยถูกจับติดคุกมาแล้ว ในข้อหาข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อปี พ.ศ. 2547 หลังพ้นจากคุก ยังถูกจับในคดีจำหน่ายและครอบครองยาเสพติดอีก 2 ครั้ง และครั้งที่ 4 คือการก่อเหตุจุดไฟเผาภรรยา ส่วนสาเหตุคือตนหวาดระแวงว่า ภรรยาจะไปมีแฟนใหม่ เพราะหลังออกจากคุกมาตลอด 1 เดือน ภรรยาไม่เคยร่วมหลับนอนด้วยเลย ซ้ำตนยังถูกด่าทอต่าง ๆ นานา แม้พยายามขอคืนดี แต่ภรรยาก็ไม่ยอม ตนจึงได้ส่งข้อความขู่ฆ่าทางโทรศัพท์ แต่ภรรยาก็ไม่สนใจ โดยในวันเกิดเหตุตนได้ออกไปซื้อน้ำมันเบนซิน 1 ขวดลิตร จากตลาดเกียบ อ.บางปะอิน แล้วให้เพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาดักรอภรรยาที่เกิดเหตุ จากนั้นเมื่อเกิดมีปากเสียงกัน ด้วยความโมโหตนจึงใชั้น้ำมันที่เตรียมมาราดไปที่ศีรษะ ใบหน้า และลำตัว ก่อนจุดไฟเผาดังกล่าว

            อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอาการของ น.ส.นันทวัน ล่าสุดพบว่าอาการยังสาหัส ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลราชธานี เนื่องจากอาการยังสาหัส

พบช้างเผือกแก่งกระจาน - สั่งคุ้มกัน เสี่ยงถูกล่า ค่าหัว 6 ล้าน


พบช้างเผือก ในป่าเด็ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เผยอาจเป็นปมสำคัญที่กลุ่มพรานฆ่าแม่ช้าง เพื่อหวังช้างเผือก

            เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เดินทางเข้าพบ นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อรายงานถึงกรณีที่มีผู้พบเห็น และบันทึกภาพช้างที่มีลักษณะเป็นช้างสำคัญ "ช้างเผือก" ได้ที่หมู่ 3 บ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุพบซากช้างป่าตาย เมื่อวันที่ 9 เมษายน โดยคณะของผู้สื่อข่าวได้ขออนุญาตเข้าไปบันทึกภาพ ขณะที่โขลงช้างป่าลงกินน้ำในอ่างเก็บน้ำกะหร่างสาม และมี นายอภิชาต พวงน้อย เป็นผู้บันทึกภาพนิ่งช้างดังกล่าว ซึ่งภายหลัง นายอภิชาติ ได้ตรวจดูภาพที่ถ่ายและมีข้อสังเกตว่า เข้าลักษณะคชลักษณ์ว่าเป็นช้างสำคัญ เป็นภาพขณะที่ช้างขนาดเล็กอายุประมาณ 3-4 ปี ที่มีลักษณะพิเศษกล่าว คือ มีสีขาวนวลอมชมพู เหมือนสีหม้อใหม่ ขายาว ท่าทางสง่างาม กำลังจะลงเล่นน้ำที่ริมอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 โดยมีช้างสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช้างพี่เลี้ยงยืนคุมอยู่ด้านบนของภาพจึงได้ส่งภาพดังกล่าวใน นายชัยวัฒน์ ทราบ เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง

            ประกอบกับก่อนหน้านี้ นายอภิชาต ได้เคยทำสกู๊ปเกี่ยวกับการถวายช้างเผือกเมืองเพชร จำนวน 3 ช้าง คือ พระเศวตภาสุรคเชนทร์ฯ พระเทพวัชรกิริณีฯ และ พระบรมนขทัศฯ ในคราวเดียวกัน เมื่อปี พ.ศ. 2521 จึงทำให้สังเกตเหตุความแตกต่างของสีช้าง และเล็บ ที่แตกต่างไปจากช้างทั่วไป และประกอบกับมีข่าวจากชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องการพบเห็นช้างเผือกประปรายและเริ่มหนาหู

            นายอภิชาต กล่าวต่อว่า หากเป็นช้างสำคัญ หรือช้างเผือกจริง ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ จ.เพชรบุรี อาจจะได้มีโอกาสสนองพระกรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการถวายช้างเผือกอีก 1 เชือกเป็นช้างเผือกเชือกที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน ส่วนการติดตามหาช้างตัวดังกล่าวและการพิสูจน์ตรวจสอบ ตนเชื่อมั่นฝีมือนายชัยวัฒน์ว่า จะระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาได้ เพราะที่ผ่านมาได้ติดตามการทำงานมาโดยตลอดและพบเห็นความจริงในการทำงานที่เข้มแข็งเอาจริงเอาจังทุก ๆ ครั้ง

            ด้านนายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว ได้ภาพจากนายอภิชาต ตนได้ติดตามหาข่าวเชิงลึกและประสานข้อมูลจนทราบว่า กำลังเป็นที่ต้องการของพรานเป็นอย่างสูง โดยมีการเสนอให้ค่าตัวถึง 6 ล้านบาท เพื่อเอาลูกช้างดังกล่าวออกไปให้ได้ จึงได้รายงานให้นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทราบในเบื้องต้น และจัดกำลังเพื่อป้องกันไว้อย่างลับ ๆ และส่งภาพช้างลักษณะพิเศษ ที่นายอภิชาตบันทึกไว้ดังกล่าว ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เบื้องต้น พบมีคชลักษณ์ตามลักษณะช้างเผือกหลายประการ ขณะนี้ได้รับคำแนะนำให้ทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานเลขาธิการพระราชวัง เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญลงมาตรวจสอบ เพื่อความชัดเจนอีกครั้งแล้ว