วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หญิงจีนรอดหลังติดใต้ซากรถที่ถูกซีเมนต์ถมทับ


หญิงจีนรอดชีวิตปาฏิหาริย์ หลังติดใต้ซากรถที่ถูกซีเมนต์ถมทับกว่า 40 นาที

          เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า หญิงจีนรอดชีวิตปาฏิหาริย์ หลังประสบอุบัติเหตุรถชน และซีเมนต์บนบรรทุกคู่กรณีได้เททับรถยนต์ที่เธอนั่งมา

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยนของจีน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายลก ว่าน วัย 39 ปี และนางหยิน มิน ไถ้ วัย 35 ปี ได้ขับรถไปด้วยกันบนทางหลวงที่มีรถมากมาย จนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายลก ว่าน ก็พบว่าตัวเองขับรถมาผิดทาง จึงชะลอรถเพื่อกลับรถโดยไม่ได้มองรถด้านหลัง ทำให้รถบรรทุกซีเมนต์ที่ขับตามมาเบรคไม่ทัน ชนเข้าบริเวณท้ายรถและซีเมนต์ที่ขนมาก็เทลงมากลบรถยนต์ของนายลก ว่าน ทันที

          หลังเกิดเหตุนายลก ว่าน สามารถหนีออกมาจากรถได้ ส่วนนางหยิน มิน ไถ้ นั้น เธอติดอยู่ภายในซากรถที่มีซีเมนต์ถมทับ ซึ่งเมื่อกู้ภัยมาถึง ก็ได้บอกว่าเธอมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก  ก่อนจะค่อย ๆ กวาดซีเมนต์และรื้อซากรถออกมา แต่แล้วระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงครวญครางของนางหยิน มิน ไถ้ จึงได้รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ก็รีบช่วยเหลือเธอออกมา แต่การรื้อซากรถที่มีซีเมนต์ถมทับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พวกเขาต้องใช้เวลาอีกกว่า 40 นาที กว่าจะนำตัวเธอออกมาได้ และพบว่าเธอบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

ผบ.พล.1รอ. ปัดข่าวทหารปะทะเดือด 4 จุด ยันการ์ดยิงไล่ขี้เมาป่วนม็อบ


ผบ.พล.1รอ. ปัดข่าวทหารปะทะเดือด 4 จุดกลางดึกกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ระบุเป็นการ์ด กปปส. ยิงไล่ขี้เมาป่วนม็อบ วอนสื่ออย่าเสนอข่าวเกินความเป็นจริง

          เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังทหาร กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงปะทะ 4 จุด ประตูน้ำ ราชประสงค์ ปทุมวัน จุฬาฯ เมื่อคืนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ไม่ได้มีการยิงปะทะและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เพราะจากรายงานของทหารที่ดูแลพื้นที่ พบว่า เป็นเพียงการยิงไล่ เพราะความหวาดระแวงและมีการก่อกวนเท่านั้น

          โดยเหตุการณ์ที่แยกเฉลิมเผ่านั้น การ์ด กปปส. ได้ยิงไล่ชายที่เมาเหล้าที่เข้ามาโยนประทัดใกล้ในพื้นที่ชุมนุม จากนั้นชายเมาเหล้าจึงหนีไป และยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ที่ทหารไปช่วยการ์ด กปปส. ยิงปะทะกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายตามที่เป็นข่าว เพราะทหารไม่มีอาวุธ มีแต่สารวัตรทหารเท่านั้นที่พกปืนสั้น แต่เมื่อคืนเป็นช่วงที่มีกำลังทหารเข้ามาตั้งชุดปฏิบัติมวลชนเพิ่มเติมในพื้นที่ จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าทหารยิงต่อสู้กับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย

          ส่วนเหตุการณ์ที่สะพานมัฆวาน ตอน 24.00 น. มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาก่อกวนการชุมนุม ทำให้การ์ด กปปส. ไม่พอใจ จึงได้ยิงไล่กลับไป แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะที่สถานการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสนั้น มีเพียงการได้ยินเสียงปืนเท่านั้น ไม่ได้มีการปะทะและไม่มีผู้บาดเจ็บใด ๆ

          ทั้งนี้ อยากขอร้องสื่อ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ที่เสนอข่าวว่า มีการปะทะเดือดกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ขอยืนยันว่า ทหารเราอยู่ทุกจุดและไม่ได้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ขอร้องว่าอย่าเสนอข่าวเกินเลยความจริง เพราะจะทำให้ประชาชนหวาดกลัวมากขึ้น

มือปาดคอยายวัย 63 ที่แท้เป็นหลานสะใภ้ รับลงมือฆ่าต่อหน้าลูก

   พบแล้ว มือฆ่าปาดคอยายวัย 63 โดยมีเหลนวัยขวบเศษนั่งกอดศพไม่ห่าง ที่แท้เป็นหลานสะใภ้ แม่ของเด็ก รับลงมือต่อหน้าลูก หลังทะเลาะแย่งโฉนดที่ดินกัน

            จากกรณีฆาตกรโหด ฆ่าปาดคอ นางเปง แจ้คำ ยายวัย 63 ปี ดับจมกองเลือด โดยมีเหลนวัยขวบเศษนั่งกอดศพไม่ยอมห่าง โดยเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเป็นการฆ่าชิงทรัพย์และการแก้แค้น ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

            ล่าสุด วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนที่ลงมือฆ่ายาย แท้จริงแล้วคือ น.ส.ภรทิพย์ อุ่นศิริ อายุ 24 ปี หลานสะใภ้ โดยก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในบ้านผู้ตาย และเห็นหลานสะใภ้เปิดประตูถือมีดพร้อมอุ้มลูกออกมา ก่อนเอามีดเสียบไว้หน้าบ้าน

            หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.ภรทิพย์ อุ่นศิริ หลานสะใภ้ผู้ตาย มาสอบปากคำอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าจริง ๆ ก่อนเกิดเหตุยายถือมีดเข้ามาขู่เพื่อทวงโฉนดที่ดินบ้านหลังนี้ซึ่งตนเป็นคนถือเอาไว้ จึงเกิดการโต้เถียงและแย่งมีดกัน ก่อนที่ตนจะคว้ามีดปาดคอยายและฟันตามร่างกายต่อหน้าต่อตาลูกตัวเอง จากนั้นก็อุ้มลูกออกมาและออกอุบายตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วย ทำทีว่าเพิ่งมาเห็นเหตุการณ์

            นอกจากนี้ จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า ยายและหลานสะใภ้มีเรื่องผิดใจกันมาก่อนแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทของยายหายไป จึงสงสัยว่าหลานสะใภ้เป็นคนเอาไป จึงไปฟ้องหลานชาย หลานชายซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ภรทิพย์ จึงซื้อสร้อยทองเส้นใหม่ให้ แต่นับจากนั้นยายและหลานสะใภ้ก็ไม่ค่อยกินเส้นกัน จนมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เผยเป่านกหวีดใส่ พจมาน เพราะเป็นคนที่หยุดทักษิณได้

 
 ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ โพสต์เฟซบุ๊กเผยสาเหตุที่ทำให้กล้าเป่านกหวีดใส่ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร กลางห้างดัง บอกเชื่อว่าเป็นคนเดียวที่ทำให้ทักษิณหยุดความรุนแรงได้

            เมื่อวานนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2557) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Nataphol Teepsuwan - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เพื่อเผยถึงสาเหตุที่ทำให้กล้าเป่านกหวีดใส่ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ที่ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียมในวันเดียวกัน โดยข้อความทั้งหมดมีเนื้อหาดังนี้...

            "วันนี้ที่กล้าเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานกลางเอ็มโพเรียม เพราะเชื่อว่าเป็นคนเดียวที่ทำให้ทักษิณหยุดความรุนแรงได้ ถ้าประเทศไทยโชคดีหวังว่าคุณหญิงจะไปบอกให้ทักษิณเลิกทำร้ายประชาชน ถ้าไม่เข้าใจสัญญาณ ประเทศเราคงต้องแตกแยกกันต่อไป"

เสื้อแดงนครพนม ยกขบวนล้อมผับดัง จี้ยกเลิกจัดคอนเสิร์ต โจ นูโว


เสื้อแดงนครพนม นำมวลชนกดดันผับชื่อดัง หลังจัดมินิคอนเสิร์ต โจ นูโว 2 มีนาคมนี้ ชี้เป็นท่อน้ำเลี้ยง กปปส. เหยียบย่ำคนรากหญ้า

            เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดง และ นปช. นครพนม กว่า 200 คน นำโดย นางสมศรี ซอมเมอร์คอน วัย 56 ปี นำมวลชนไปปิดล้อมกดดันที่ร้านตะวันนา 2004 ผับเพื่อชีวิตชื่อดังในตลาด ป.เป็ด ในเขตเทศบาลฯ หลังทราบว่า โจ นูโว หรือ โจ จิรายุส วรรธนะสิน พร้อมทีมงานรวม 6-7 คน จะมาแสดงมินิคอนเสิร์ตที่ร้านดังกล่าว

            โดยคนเสื้อแดงได้ชูป้ายขับไล่ โจ นูโว พร้อมประกาศว่า จะไม่ให้กลุ่มศิลปินนักร้องนักแสดงที่ขึ้นเวทีและสนับสนุนช่วยกลุ่ม กปปส. ก้าวเท้าเข้าสู่พื้นที่ จ.นครพนม และจังหวัดข้างเคียงโดยเด็ดขาด  เพราะ โจ นูโว เคยดูถูกคนเสื้อแดง เหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนนครพนม รวมถึงคนรากหญ้าทั่วประเทศ แต่หากผู้ประกอบการร้านนี้ไม่ให้ความร่วมมือ และไม่ยอมยกเลิกการเล่นคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม ทางคนเสื้อแดงและมวลชนกว่า 500 คน จะมากดดันและขับไล่

            อย่างไรก็ตาม นายพัฒนากร เจาะจง ผู้จัดการร้านวัย 43 ปี ได้ออกมาเจรจากับผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่า นางเบญจมาศ ธรรมจง หรือ เจ๊ไก่ เจ้าของร้าน ไม่ทราบจริง ๆ และไม่ได้ติดตามข่าวของ โจ นูโว ที่สนับสนุนและเป็นท่อน้ำเลี้ยง กปปส. หากกลุ่มคนเสื้อแดงนครพนมไม่ต้อนรับ ก็จะยกเลิกคอนเสิร์ตวงนี้ที่จะมาทำการแสดงในวันที่ 2 มีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับคำตอบที่พอใจ จึงพากันสลายตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน

กวป. ประกาศให้เจ้าหน้าที่ออกจาก ป.ป.ช. ขู่เทปูนปิดประตู

กลุ่มผู้ชุมนุม กวป. ยังปักหลักชุมนุมหน้า ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ประกาศให้เจ้าหน้าที่ออกจากสำนักงาน ขู่ถ้าไม่ออกก่อนเที่ยงจะเทปูนปิดทุกประตู



            วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 08.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เริ่มปราศรัยโจมตีการทำงานของฝ่ายค้านตลอดช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงกลุ่ม กปปส. ในการปิดประเทศชัตดาวน์กรุงเทพมหานคร พร้อมประกาศให้เจ้าหน้าที่ทุกคนออกจาก ป.ป.ช. ในเวลาก่อน 12.00 น. วันนี้ ถ้าหากไม่ฟังก็จะนำปูนมาเทปิดทุกประตูของสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องแล้ว และเตรียมการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม

กวป. ประกาศให้เจ้าหน้าที่ออกจาก ป.ป.ช. ขู่เทปูนปิดประตู

            ส่วนบรรยากาศภายในสำนักงาน ป.ป.ช. นั้น ยังคงเงียบเหงาโดยมีเจ้าหน้าที่เดินทางมาทำงานเพียงจำนวนไม่มากเท่านั้น ขณะที่การแถลงข่าวรับทราบข้อกล่าวหาของทางนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ ได้เปลี่ยนสถานที่จากที่สำนักงาน ป.ป.ช. แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสถานที่ ที่จะมีการรายงาน รวมไปถึงรับทราบข้อกล่าวหาที่ทาง นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เตรียมตัวส่งทนายความ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปิดครอบครัว กบ สุวนันท์ ต้อนรับสมาชิกใหม่


เปิดครอบครัว กบ สุวนันท์ พ่อแม่ลูกแสนอบอุ่น รอรับสมาชิกใหม่กำลังจะลืมตาดูโลก

กบ สุวนันท์ หลายคนบอกว่าเธอเป็นสาวที่โชคดีมากในเรื่องของคู่ครองที่ได้เป็นสะใภ้เล็กแห่งตระกูลเก่าแก่อย่าง ปุณณกันต์ แถมสามี บรู๊ค ดนุพร ยังแสนดีอบอุ่นเป็นต้นแบบของผู้ชายที่สาวทั่วไปหมายปอง เรียกว่าครอบครัวอบอุ่นมากยิ่งมีสายใย น้องณดา ลูกสาววัยกำลังน่ารักเป็นโซ่ทองคล้องใจยิ่งมีสีสันมากขึ้น

ล่าสุด ครอบครัวปุณณกันต์ของ บรู๊ค และ กบ  กำลังจะมีสมาชิกใหม่ตัวน้อยลืมตามาดูโลก  กำลังเป็นที่ลุ้นของ ปู่ ย่า ยาย ลุง น้า ว่าสมาชิกคนใหม่นี้จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง รอลุ้นกำหนดคลอดประมาณเดือนกรกฎาคมนี้

ในบทบาทของคุณแม่ลูกสอง แฟนคลับมีโอกาสได้เห็นแม่กบไปรับ ไปส่ง น้องณดา อยู่เป็นประจำพร้อม ๆ กับพ่อบรู๊ค เรียกว่าเป็นความสุขตามประสาพ่อแม่ลูก

เปิดภาพ!! จุ๋ย วรัทยา - หนาม รวิ ฉลองวันพบรัก ครบรอบ 1 ปี


เป็นอีกหนึ่งนางเอก ซุป'ตาร์ ที่งานก็รุ่ง รักก็พุ่ง จริง ๆ สำหรับสาว "จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา" เพราะนอกจากงานละครเรื่องแรกหลังจากย้ายช่องจะได้รับฟีดแบคจากคนดูดีเกินคาดแล้ว ล่าสุดในงานแถลงข่าว "FIRST CLASS Innovation of Sun Protection by La Roche-Posay" สาวจุ๋ยก็ได้ออกมาอัพเดทสถานะ เลิฟ เลิฟ กับหวานใจนักเรียนนอก "หนาม รวิ ธนดล อิทธิระวิวงศ์" ให้ฟังว่า เมื่อไม่นานมานี้ทั้งคู่เพิ่งจัดงานฉลอง "วันพบรัก" ครบรอบ 1 ปีเต็ม เพื่อเติมความหวานให้หัวใจซะด้วย...

ล่าสุดเห็นเราเพิ่งจะลงภาพฉลองครบรอบอะไรสักอย่างลงในอินสตาแกรม ?
"เป็นแค่วันวาเลนไทน์ค่ะ ซึ่งเป็นวันแรกที่เราได้เจอกันเท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่ใช่วันครบรอบที่คบกันนะ แต่เป็นวันครบรอบที่เราได้เจอกัน 1 ปี ค่ะ"

มีการแลกของขวัญอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ?
"มีค่ะ ก็เป็นช็อคโกแลต แล้วก็พี่หนามเขาก็เขียนข้อความอะไรบางอย่างไว้"

แสดงว่าเรากับพี่หนามก็เจอกันเมื่อวันวาเลนไทน์ปีที่แล้ว ?
"ใช่ค่ะ เราก็เลยถือโอกาสนับว่าเป็นวันที่เจอกันดีกว่า ซึ่งมันก็จำง่ายด้วย แล้วก็เป็นวันพิเศษดี"

อย่างนี้วาเลนไทน์ของเราสองคนก็พิเศษกว่าคู่อื่นสิ ?
"ไม่หรอกค่ะ เขาบังคับให้ไปกินข้าวกับเพื่อนเขา เพราะว่าเพื่อนเขามาจากอเมริกา จุ๋ยก็เลยโดนบังคับไป แต่หลังจากนั้นเราก็ได้มีโอกาสไปไหว้พระตรีมูรตินะ (ยิ้ม)"

ละครเราออนแอร์อยู่ตอนนี้พี่หนามเขาว่ายังไงบ้าง ?
"พี่หนามเขาเอาภาพลงไอจีให้ (หัวเราะ) เขาบอกว่าเขาดูวันแรกแล้วสงสาร เพราะจุ๋ยต้องร้องไห้เยอะ"

เขากลัวไหมเห็นเราร้ายขนาดนี้ ?
"ไม่กลัวสิ (หัวเราะ) ชีวิตจริงหนูไม่เคยทำอะไรแบบนั้น ส่วนใหญ่เขาจะขำ ๆ แล้วก็ให้กำลังใจในการทำงานมากกว่า"

อดีตนักร้องลูกทุ่ง “นุจรี ศรีราชา” เผยชีวิตตกอับ อุบัติเหตุทำหน้าเปลี่ยน ไม่มีงาน บ้านโดนยึด


ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน หลายคนคงรู้จักนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง "นุจรี ศรีราชา" ที่กำลังโด่งดังจากผลงานเพลง "หมาหยอกไก่" แต่ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้นุจรีเสียโฉม จนต้องทำศัลยกรรม ทำให้ชีวิตช่วงนั้นถึงขั้นตกอับ งานหด ไม่มีรายได้ แถมบ้านที่อยู่อาศัยก็กำลังจะถูกยึด ล่าสุดทีมข่าวบันเทิงได้มีโอกาสเจอสาวนุจรีอีกครั้งในรายการ "คนดังนั่งเคลียร์" สาวนุจรีจึงได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาให้แฟนๆได้ฟังกัน

หายจากการออกอัลบั้มไปนานแค่ไหน
"ก็สิบปีเต็มๆค่ะ เพิ่งมาได้ออกอัลบั้มประมาณปี 2556 ที่ได้เจอกับพี่อานนท์ อาร์สยาม เขาถามว่ามีสัญญากับค่ายไหนหรือเปล่า เลยตอบไปว่าไม่มีสัญญากับค่ายไหนแล้ว พี่เขาเลยบอกว่าเขามีเพลงให้อยู่ 2 เพลงนะ แต่ต้องเปลี่ยนแนวนิดนึง จากลูกทุ่งจ๋า มาเป็นลูกทุ่งเพื่อชึวิต"

สาเหตุที่หายไปสิบปีเป็นเพราะอะไร
"ไปประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ตอนนั้นคือปี 2545 ขับรถเอง ช่วงกำลังดังในเพลงที่ร้องแก้กับพี่ทศพล คือพี่ทศพลร้องกาคาบพริก นุจรีก็ร้อง หมาหยอกไก่ แล้วช่วงนั้นพ่อป่วย พี่สาวป่วย เลยไม่มีใครไปเป็นเพื่อน ขับรถออกจากกรุงเทพตีสอง ไปถึงจุดเกิดเหตุที่สิงห์บุรี ก็หลับใน ขับแซงขวา แล้วสลบไปไม่รู้เรื่องเลยค่ะ"

ถึงขั้นต้องทำศัลยกรรมด้วย
"ณ ตอนนั้นหน้าตามันไม่ได้คืนรูปแบบนี้ ตอนนั้นอยู่โรงพยาบาลสินแพทย์ 9 วันดูหน้าตัวเองแล้วมันบวมมาก ใต้คางใส่เหล็ก ฟันก็ใส่เหล็ก ตอนนี้ก็ยังใส่อยู่"

แต่ข่าวที่ออกมากลับบอกว่าที่หายไปเป็นเพราะนุจรีเสพติดกับการทำศัลยกรรมเลยทำให้หน้าเปลี่ยนไป
"ไม่ใช่ค่ะ ที่หน้าเละเพราะเกิดจากอุบัติเหตุ แล้วเพิ่งจะมาเริ่มดีได้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คุณหมอก็ช่วยทำให้หน้าปัจจุบันนี่ดีขึ้น ตอนนี้ที่ทำมาคือจมูก และกรีดกระบอกตาให้มันดูคมขึ้นค่ะ ส่วนคางดามเหล็กไว้ตั้งแต่ตอนประสบอุบัติเหตุใหม่ๆก็เคยถามคุณหมอตอนแรกๆคุณหมอบอกว่าไม่ต้องเอาออก"

โอกาสจะกลับมาเหมือนเดิมมีแค่ไหน
"ก็เคยถามหมอเหมือนกัน คุณหมอแนะนำว่าน่าจะทำคางอีกนิดนึง เพราะตอนเกิดอุบัติเหตุหน้ามันยุบเข้าไปเยอะ กระดูกจมูก กระดูกกรามยุบไปหมดเลย ก็มีผลกระทบกับงานค่อนข้างเยอะเหมือนกัน หน้าเปลี่ยนรูปไปเลย โดนยกเลิกงานด้วย ไม่มีใครติดต่องาน เพราะเราไม่ได้ออกอัลบั้มด้วย"

แล้วเรื่องบ้านที่กำลังมีปัญหา
"เรื่องบ้านก็ขอให้เป็นเรื่องของแม่กับพี่ชายดีกว่า เพราะนุจรีตอนนี้ทำหน้าที่หาเงิน เรื่องบ้านขอให้เป็นหน้าที่ของแม่และพี่ชายดูแลดีกว่าค่ะ รายได้ตอนนี้ก็เริ่มมีงาน และออกอัลบั้มแล้ว ชื่อชุด เสียดายผู้ชายไม่ได้ฟัง และมีเอ็มวี 3 เพลงแล้ว และงานอีกด้านนึงคืองานทำขวัญนาค"

ก็ยืนยันว่าที่ไปทำศัลยกรรมไม่ได้เพราะรักสวยรักงาม แต่เป็นเพราะประสบอุบัติเหตุ
"เป็นเพราะอุบัติเหตุค่ะ มีแค่จมูกกับตาที่ทำมาใหม่เท่านั้นเอง"

กับกระแสที่บอกว่าตอนนี้นุจรีกำลังตกอับ
"ก็ยอมรับในความเป็นจริงนะค่ะ ซึ่ง 8-9 ปีก่อนโน้น ที่ประสบอุบัติเหตุมาใหม่ๆแล้วก็หมดสัญญากับบริษัทเก่า คือโฟเอส แล้วไม่ได้ทำเพลงที่ไหนเลย คือศิลปินมันต้องมีผลงานเพลงใหม่ๆออกมาให้แฟนเพลงได้ชม พอหน้าเราเปลี่ยน แล้วไม่มีผลงาน เลยทำให้ไม่มีใครติดต่องานมาเลยค่ะ เลยทำให้ไม่มีรายได้ พอไม่มีรายได้ด้วยความไม่อยู่นิ่งเฉยก็ไปสมัครเรียนที่สวนดุสิต พอเรียนจบก็ไปของานพี่อ้วน ชีวิตต้องสู้ เขาก็ให้โอกาสได้ทำงานเป็นคนวางบิลที่บริษัท ค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ ไหนจะแม่ พี่สาวที่เป็นโรคไต น้องหมาอีก 5 ตัว ตัวเองด้วย ก็ใช้จ่ายเยอะ แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้น เริ่มมีรายได้เข้ามาบ้างแล้วค่ะ"

โดม ปกรณ์ ลัม เคลียร์ภาพหลุด เมทัล เมาปลิ้นต้องหิ้วกลับบ้าน ?


หลังจากที่ปล่อยให้มีภาพขณะอุ้มแฟนสาว "เมทัล สุขขาว" หลุดว่อนอินเตอร์เน็ต พร้อมกับกระแสข่าวลือว่า "ฝ่ายหญิงเมาหมดสภาพจนไม่สามารถเดินไหว!!" ล่าสุด ซุป'ตาร์ หล่อขั้นเทพ "โดม ปกรณ์ ลัม" ก็ได้ออกมาปฏิเสธถึงกระแสข่าวลือดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด และที่ตนเองต้องอุ้มสาวเมทัลก็เป็นเพราะ ฝ่ายหญิงถูกรองเท้าส้นสูงกัด จึงทำให้ไม่สามารถเดินต่อได้เท่านั้นเอง...

ล่าสุดมันมีภาพออกที่เมทัลขี่หลังเราออกมาในนิตยสารเล่มหนึ่ง เห็นรึยัง ?
"เห็นแล้วครับคือเราไปงานหนึ่งงานเซนเซชั่นครับน้องเขาใส่ส้นสูงไป พอสักประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ จะกลับแล้วคืองานไม่สนุกเลย แถมน้องเขาก็โดนรองเท้ากัด ส้นเท้าเป็นแผล ตอนแรกน้องเขาก็จะถอดรองเท้าเดิน แต่ก็เดินออกมาพักหนึ่งเรารู้สึกว่าเดี๋ยวกลัวโดนเศษแก้ว รถจอดไกลด้วย ก็เลยให้เขาขี่หลังซะเลย"

แต่ภาพที่ออกมาเหมือนอุ้ม หลายคนก็เลยคิดว่าน้องเมาแล้วพยุงตัวเองไม่ไหว ?
"ก็จริงๆบรรยากาศมันดูพาไปคนก็เลยมองว่าน้องเมา แต่จริง ๆ อยากจะบอกว่า ปกติน้องเมทัลไม่ได้ดื่มอยู่แล้ว เป็นคนไม่ดื่มเลย และวันนั้นเขาก็ไม่ได้เมาแน่นอน เพียงแต่ตัวผมเองก็อาจจะโชว์แมนเกินไปนิดหนึ่ง รูปก็เลยออกมาเป็นแบบนั้น"

ส่วนตัวเราเห็นภาพนี้ได้ยังไง ?
"น้องเป็นคนส่งมาให้ผมดูครับ เขาก็ถามว่าทำไมเป็นแบบนี้ แล้วก็แบบคนถ่ายเก่งเหมือนกัน มองไม่เห็นเลยว่าถ่ายมาจากไหน"

คุณพ่อคุณแม่ ของน้องว่ายังไงบ้างกับภาพที่ออกมา ?
"คุณแม่คุยกับผมแล้วครับ คือท่านอยากรู้ว่าน้องดื่มจริงรึเปล่า เพราะปกติไม่เห็นน้องดื่ม ผมก็เลยบอกไปว่าแม่น้องไม่ได้ดื่มเลย อีกอย่างวันนั้นเราไปอยู่แค่ชั่วโมงครึ่งก็กลับแล้ว"

พอมีภาพแบบนี้กลัวว่าจะมีผลกระทบกับคนรอบข้างไหม ?
"ไม่มีเลยครับ ผมก็แค่อุ้มผู้หญิงเนอะ แล้วอุ้มกับคนที่ผมคุยด้วยคบด้วย ถ้าไปอุ้มคนอื่นก็ว่าไปอย่าง"

รู้สึกนอยด์ไหมโดนจับตาแบบนี้ ?
"ไม่นอยด์ครับ ไม่อะไรเลย ถ้าผมเป็นคนอื่นผมก็คงยกมือถือมาถ่ายรูปเหมือนกัน คงอารมณ์แบบพี่โดมอุ้มใครอยู่เนี่ย"

หลังจากนี้ต้องระวังตัวมากขึ้นไหม ?
"ก็อาจจะต้องระวังตัวบ้างนิดหนึ่ง แต่ถ้าหากครั้งหน้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมก็ยินดีที่จะอุ้มเขาเหมือนเดิมครับ"

สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ตอนนี้ เรียกว่าเป็นแฟนได้ไหม ?
"ผมให้น้องพูดดีกว่าครับ เราก็ดูกันไปเรื่อย ๆ ดูแลกันให้ดีครับ"

ชาวเน็ตแห่แชร์ คลิปน่าเวทนา เด็กติดเชื้อพิษสุนัขบ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจชื่อดัง YouLike (คลิปเด็ด) ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตแนะนำ คลิปที่ชื่อว่า "โรคพิษสุนัขบ้า น่ากลัวกว่าที่คุณคิด!" เป็นคลิปเตือนใจคนที่แสดงให้เห็นภาพน่าหดดูของผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้า ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจนกว่าจะเสียชีวิต

คลิปวิดีโอความประมาณ 1 นาทีเศษ เผยให้เห็นเด็กชายคนหนึ่งถูกชาวเน็ตแห่แชร์ คลิปน่าเวทนา เด็กติดเชื้อพิษสุนัขบ้าผูกมัดไว้กับเตียงโรงพยาบาล ในสภาพนอนดิ้นทุรนทุราย อยู่ไม่สุข มีอาการน้ำลายฟูมปากออกมาตลอดเวลา บางครั้งยังร้องหอนโหยหวนออกมาจากน่าเวทนา ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นผลพ่วงมาจากโรคพิษสุนัขบ้าที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์

สำหรับ โรคพิษสุนัขบ้า หรือ โรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสมาจากพาหะ จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด ผู้ป่วยโรคนี้จะมีชีวิตอยู่ในสภาพทนทุกข์ทรมาน ก่อนจะเสียชีวิตอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ด้วยอาการเป็นอัมพาตที่กล้ามเนื้อและระบบทางเดินหายใจ

อย่างไรก็ตาม คลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ต่างมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันว่ารู้สึกสงสารและน่ากลัวกับโรคดังกล่าว ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย และต้องทุกข์ทรมานจนกระทั่งเสียชีวิต อีกทั้งน้ำลายยังเป็นพาหะทำให้เชื้อติดต่อกันได้

โฉมหน้า! ไอ้หื่นหวังข่มขืน พรีม กัญณภัทร ที่แท้ช่างก่อสร้าง

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเข้าบ้านดาราสาวค่ายเอ็กแซกท์ พรีม กัญณภัทร วรบวรภัทร์ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนกระทำชำเราแต่เหยื่อขัดขืนต่อสู้ คนร้ายจึงหลบหนีไป ดาราสาวได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลทั่วร่างกายตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ได้เปิดเผยว่า สามารถจับกุมตัว นายประจวบ ภูบัวลม อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนดาราสาว พรีม กัญณภัทร เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยและสืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องหา จึงได้เข้าควบคุมตัวในช่วงเวลาเดียวกับที่สื่อต่างๆ เริ่มเสนอข่าวดาราสาว พรีม กัญณภัทร ถูกพยายามข่มขืนจนเข้าโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.)

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายประจวบ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเหตุได้ตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อนคนงานก่อสร้างที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกับบ้านดาราสาว ต่อมาเริ่มรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศ จึงได้คิดเคลิ้มถึงดาราสาว เพราะเคยเป็นคนงานก่อสร้างถนนในหมู่บ้าน เคยเห็นกำลังออกกำลังกายในบ้านและจดจำได้ว่าเป็นหญิงสาวสวย ต่อมาจึงได้ขอแยกตัวกับเพื่อน ก่อนจะแอบย่องปีนเข้าบ้านดาราสาว สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า เดินขึ้นไปบนบ้านได้อย่างง่าย เมื่อถึงห้องนอนพบว่าประตูไม่ได้ล็อก จึงฉวยโอกาสเปิดเข้าไปก่อเหตุ ขึ้นนั่งคร่อมบนร่างดาราสาวที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่เพียงลำพัง ดาราสาวกรีดร้องและกัดเข้าที่แขน จึงได้ใช้กำลังต่อยเข้าที่หน้า เมื่อเห็นท่าทีไม่ดีจึงได้หลบหนีออกมา และกลับไปร่วมนั่งวงเหล้ากับเพื่อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขณะที่ทางด้าน พรีม กัญณภัทร เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุเพิ่งจะเข้านอน จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดและคนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งก็กระโดดขึ้นมานั่งคร่อมร่าง ตนจึงบอกว่า "กระเป๋าอยู่หัวเตียง อยากได้อะไรเอาไปเลย ขอร้องอย่าทำอะไรหนู" แต่คนร้ายไม่ฟัง พยายามลวนลามข่มขืน ตนพยายามขัดขืนแต่สู้แต่ไม่ไหว เมื่อคนร้ายเผลอจึงได้ดิ้นหลุดออกมาจากเตียง วิ่งออกไปที่ระเบียงและตะโกนให้เพื่อนบ้านได้ยิน คนร้ายวิ่งตามมาปิดปาก ตนจึงกัดเข้าที่แขน คนร้ายจึงชกเข้าที่ใบหน้าและกระหน่ำต่อยตามร่างกาย ก่อนที่ตนจะกระชากหมวกไอ้โม่งเห็นหน้าคนร้าย จึงจำได้ว่าเป็นคนงานก่อสร้างที่เคยมาทำถนนหน้าบ้าน คนร้ายตกใจจึงหลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายประจวบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมชี้จุดที่โยนหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุทิ้งในป่าข้างทาง และนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนอาการบาดเจ็บของ พรีม กัญณภัทร เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ มีเพื่อนในวงการบันเทิงเข้ามาเยี่ยมตลอดทั้งวัน

สุดทนฉีกป้ายขอแบ่งแยกประเทศล้านนา

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 26 ก.พ.2557 ร.ต.ต.ยศพงศ์เดชา เนียมจันทร์ รอง สวป.สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 4 บ้านจูงนาง ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก ว่ามีผู้มาแอบติดป้ายไวนิล สีแดง เขียนข้อความว่า "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ไว้ที่บริเวณสะพานลอย ข้ามถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ ทั้งขาเข้าและขาออก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ ก็พบว่าป้ายดังกล่าวมีขนาด กว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร จำนวน 2 ผืน ติดไว้บริเวณดังกล่าว และมีประชาชนใช้มีดกรีดป้ายจนขาด เนื่องจากทนกับข้อความดังกล่าวไม่ได้

จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น ได้ความว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้ยินเสียงสุนัขเห่าไปทั่วบริเวณ คาดว่าจะมีมือดีมาแอบติดป้ายดังกล่าว จนกระทั่งช่วงเช้าก็เห็นป้ายข้อดังกล่าว แล้ว ทำให้ชาวบ้านบางรายทนไม่ได้นำมีดไปกรีดป้ายข้อความดังกล่าว และต่างวิพากษ์วิจารณ์ การกระทำดังกล่าวว่าไม่เหมาะสมไม่ คนทำไม่น่าเกิดเป็นคนไทย ซึ่งมีความคิดเห็นต่างได้ แต่ไม่แยกประเทศอย่างแน่นอน เบื้องต้นทาง ร.ต.ต.ยศพงศ์เดชา เนียมจันทร์ รอง สวป.สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บป้ายดังกล่าว พร้อมกับจะนำไปเป็นหลักฐานในการสืบหาตัวผู้กระทำดังกล่าว ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดทางด้านความมั่นคงของประเทศ จากนั้นก็จะรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป

ที่มา - http://www.phitsanulokhotnews.com/

ใบเตย อาร์สยาม ควง กิ๊ฟซี่ โยกย้ายส่ายสะโพกยับ

ใบเตย อาร์สยาม แท็กทีมสาวร่างเล็ก กิ๊ฟซี่ สะบัดสะโพกโยกย้ายสุดเซ็กซี่  

เป็นการมารวมกันแบบเฉพาะกิจจริง ๆ สำหรับสองสาว ใบเตย อาร์สยาม และ กิ๊ฟซี่  เจอกันทั้งทีงานนี้ขอบอกว่าไม่ธรรมดานะเนี่ย เพราะดูจากชุดแล้วทั้งแหวกทั้งเว้าทั้งสั้นเสมอหูตามคอนเซ็ปต์ได้เป๊ะจริง ๆ งานนี้ไม่ได้มโมตามชื่อของมิวสิกวีดีโอไปเองแน่ ๆ  เพราะสองสาวมาแบบเซ็กซี่ของจริง 

โจรบุกบ้านหวังข่มขืน พรีม กัญณภัทร ดาราค่ายดัง

นักแสดงจากละครเรื่อง จ้าวพายุ ค่ายเอ็กแซ็ก พรีม กัญณภัทร ถูกโจรบุกบ้าน หวังจะข่มขืน สุดท้ายรอดมาได้แต่ถูกทำร้ายเย็บคิ้ว 40 เข็ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีคนร้ายบุกขึ้นบ้าน นักแสดงจากละครเรื่อง จ้าวพายุ ค่ายเอ็กแซ็ก พรีม กัญณภัทร วรบวรภัทร์ แต่ดาราสาวรู้ตัวจึงขัดขืน และตะโกนให้บ้านข้างๆช่วย คนร้ายจึงรีบหนีออกไป แต่ได้ทำร้ายนักแสดงสาวจนคิ้วแตกเย็บไป 40 เข็ม ขณะนี้กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลนนทเวช

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 มีผู้โพสภาพ พรีม กัญณภัทร ในสภาพบอบช้ำอย่างมาก บนเตียงของโรงพยาบาล โดยบอกว่า "พรีมโดนขโมยขึ้นบ้าน ทำร้ายร่างกาย โจรพยายามจะรังแกน้องแต่น้องสู้กลับ ร้องให้คนช่วย โชคดีที่ข้างบ้านได้ยินมาช่วยทัน ตอนนี้จับโจรใจสัตว์ได้แล้ว น้องคิ้วแตกเย็บ40เข็ม สภาพจิตใจ ขวัญเสียมาก ต้องการกำลังใจจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน ตอนนี้พรีมพักที่ รพ นนทเวช"  

พรีม กัญณภัทร ชื่อเดิมคือ พลอย อารดา ไกรพีรพรรณ อายุ 26 เคยผ่านการประกวดเคพีเอ็น อวอร์ด เมื่อปี 2011 หลังจากนั้นมาเซ็นสัญญากับเอ็กแซ็กท์ มีละครอย่าง จ้าวพายุ นัดกับนัด และ เฮงเฮงเฮง

บ๊วย เชษฐวุฒิ โต้ปิดร้านไก่ทอดเดชา แจงเข้าใจผิด

"บ๊วย เชษฐวุฒิ" โต้ปิดร้าน ไก่ทอดเดชา แจงเข้าใจผิด รับ 'ซอย เตี๋ยว ติม' ร้านร่วมเคน เวียร์ มีปัญหาเรื่องเงิน ขอบคุณคนเชียร์คืนดีตุ๊ก รับน้อยใจชีวิต

หลังจากที่ร้านอาหาร 'ซอย เตี๋ยว ติม' ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมหุ้นกันของ เคน ภูภูมิ, เวียร์ ศุกลวัฒน์ และ บ๊วย เชษฐวุฒิ ปิดตัวลงไป ล่าสุดก็มีข่าวมาอีกแล้วว่า ไก่ทอดเดชา ของหนุ่มบ๊วย และหนุ่มเวียร์ เตรียมจะปิดกิจการ งานนี้ หนุ่มบ๊วย ก็ออกมาชี้แจงว่า

"ข่าวนี้เคลียร์แล้วครับ คือมันเป็นการเข้าใจผิดกัน คือนักข่าวสัมภาษณ์ เคน ภูภูมิ ซึ่งเขาทำธุรกิจกับเวียร์ และในนั้นก็มีผมด้วย จริง ๆ ในนั้นมี 6 คน แต่ทุกคนเป็นซูเปอร์สตาร์หมดเลย เลยไม่มีคนทำ ไม่มีคนอยู่ร้าน ก็เลยปิดตัวลง พอเคน ให้สัมภาษณ์ว่า ธุรกิจที่ทำกับเวียร์ปิดตัวแล้ว พอพูดถึงเวียร์ ไก่ทอดเดชา ก็จะชัดกว่า นักข่าวก็เขียนข่าวว่าเป็นไก่ทอดเดชา ทีนี้ทางหาดใหญ่ที่เป็นกงสีถือหุ้น 40% ก็รับโทรศัพท์ไม่ได้หยุดเลย ผมเลยเอาไก่ทอด ไปให้นักข่าวที่ลงข่าว และชี้แจงว่า ยังไม่ได้ปิดนะ ที่ปิดไปคือ ซอย เตี๋ยว ติม ถามว่าที่ปิดเพราะมีปัญหาเรื่องเงินไหม คือมันก็เป็นเพราะเรื่องเงินแหละครับ มันไม่ได้เงินตามที่ได้มันก็ต้องปิดไป แต่เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิม"

หลายคนยังคงลุ้นให้กลับไปคืนดีกับ ตุ๊ก ชนกวนันท์ ซึ่งหนุ่มบ๊วย ก็บอกว่า "ผมก็อยู่กับความเป็นจริง ตอนนี้อยู่ในสถานะหย่าร้าง คนก็อยากให้กลับไปคืนดี ผมก็ขอบคุณมากเลยครับ มันก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ แต่ ณ ตอนนี้ ผมชัดเจนว่ามันเป็นแบบนี้ ตอนนี้ผมก็เข้าใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลามีคนมาพูดอะไรแบบนี้ ก็จะคิดว่าชีวิตของเราจะมายุ่งอะไร แต่พอได้มองอีกมุมเราก็เข้าใจ ว่าที่เขาพูดเป็นเพราะเขาหวังดีต่อเรา เป็นห่วงเรา ถามว่าน้อยใจชีวิตไหม มันก็มีน้อยใจ แต่น้อยใจไปแล้ว มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา"

ยิ่งลักษณ์ หลบออก ทอ.แล้ว ม็อบชาวนาบุกจี้ให้ช่วย

นายกรัฐมนตรี เดินทางออกที่ประชุม ครม.แล้ว งดสัมภาษณ์สื่อ ขณะชาวนาพยายามเดินทางเข้าไปประท้วงหน้ากองบัญชาการกองทัพอากาศ เจ้าหน้าที่ รปภ.เข้ม

บรรยากาศที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ ซึ่งสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางออกจากกองบัญชาการกองทัพอากาศแล้ว ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้เสร็จสิ้นลง โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่เดินทางมารอทำข่าวอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ในช่วงเช้า และไม่ได้แจ้งภารกิจให้สื่อมวลชนได้รับทราบแต่อย่างใด ทั้งนี้ มีรายงานว่าได้มีกลุ่มชาวนาจำนวนหนึ่งเดินทางมาบริเวณกองบัญชาการกองทัพอากาศ เพื่อขอพูดคุยกับ นายกรัฐมนตรี เรื่องโครงการรับจำนำข้าวด้วย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรี มีภารกิจเดินทางไปตรวจราชการและตรวจเยี่ยมประชาชนที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 26-28 ก.พ.นี้

ขณะที่ทางด้าน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การที่มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบกลางจำนวน กว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวนั้น จะทำให้การดำเนินการในโครงการมีความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงจะช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนโดยคาดว่าใช้ระยะเวลาในการดำเนินการจ่ายเงินไม่นานนัก แต่ทั้งนี้ต้องรอความเห็นจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ก่อนส่วนในการออกพันธบัตรของรัฐบาลนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาอีก 1 - 2 เดือน ซึ่งทางกระทรวงการคลัง โดยทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือสบน.จะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ พร้อมยืนยันว่าทางกระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาลมีการเจรจาในการระบายข้าวอย่างเต็มที่พร้อมทั้งมีการประมูล รวมถึงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ G2G โดยในขณะนี้ประเทศจีน ยังคงเหลือ บริษัท คอฟโก ซึ่งยืนยันในการซื้อข้าวจากไทย

ชาวเน็ตวิจารณ์ขรม! ป้ายต้อนรับ “ยิ่งลักษณ์“ ที่สระบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังวิพากษ์วิจารณ์ป้ายต้อนรับและให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่งานเปิดศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) เนื่องจากป้ายดังกล่าวถูกเขียนด้วยข้อความภาษาอังกฤษ มีคำสะกดผิดและความหมายเปลี่ยนหลายจุด

ตามรายงานระบุว่า ภาพถ่ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่น ซึ่งด้านหลังเป็นป้ายข้อความสีชมพู ระบุข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า "You are my idol don't be worry for anthing, Everything will be O.K. I love you my President." พร้อมกับลงท้ายคำว่า "Flighting" ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ เนื่องจากมีสะกดคำผิดอยู่หลายคำและเขียนรูปประโยคไม่ถูกต้อง

ชาวเน็ตหลายคนวิจารณ์คำว่า "Flighting" ที่ระบุอยู่ในป้ายดังกล่าว ซึ่ง Flighting คำนี้ไม่มีความหมาย หากเป็นคำว่า Flight จะแปลว่า เที่ยวบิน และถ้าเป็นคำให้กำลังใจที่ถูกต้อง ควรใช้ว่า "Fighting" ซึ่งจะแปลว่า "สู้ๆ" เช่นเดียวกันคำว่า I love my President ซึ่งแปลว่า ฉันรักท่านประธานาธิบดีของฉัน คำศัพท์ไม่ถูกต้อง โดยคำที่ถูกต้องควรจะเป็น "Prime Minister" ที่แปลว่า นายกรัฐมนตรี

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ณัฐวุฒิ จวก พุทธะอิสระ น่าบูชามากไช่ไหม?

(21 ก.พ.) จากกรณีที่พระพุทธะอิสระ แกนนำกปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ นำมวลชนไปยังโรงแรมเอสซีปาร์คเพื่อกดดันธุรกินในเครือชินวัตร และติดต่อขอข้าพักและสัมนาในโรงแรม แต่ผู้จัดการโรงแรมไม่สามารถให้มวลชนกปปส.เข้าพักได้ แม้จะจองเอาไว้แล้วก็ตาม โดยยอมจ่ายเงินเป็นจำนวน 120,000 บาท ให้พระพุทธะอิสระ เป็นค่าเสียหาย

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ได้โพสต์ข้อความประณามพระพุทธะอิสระ โดยอ้างว่าโรงแรมดังกล่าวเป็นบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจทั่วไป แต่ถูกหาเรื่องไถเงิน ระบุข้อความดังนี้...

"ขอเชิญมวลมหาประชาชนผู้ศรัทธาไปกราบพุทธอิสระกันให้เต็มที่ เพราะสิ่งที่ทำวันนี้คือ

ส่งสาวกทำทีเป็นลูกค้ามาติดต่อที่ SC PARK ตอนสาย อยากได้ห้องพัก ๔ ห้อง ห้องประชุม ๓๐๐ คน ๑ ห้อง วางมัดจำไว้ ๔,๒๐๐ บาท

โรงแรมบอกว่าห้องประชุมเตรียมไม่ทันจัดให้ได้แต่ห้องพัก ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงขบวนพุทธอิสระก็มาถึง ทางโรงแรมบอกลูกค้าตกใจจัดให้พักไม่ได้ พุทธอิสระโวยวายเรียกร้องค่าเสียหาย กำหนดยอดมาเองเสร็จ

ค่ารถบัส ๘ คัน คันละ ๑๐,๐๐๐ บาท รวม ๘๐,๐๐๐ บาท

ค่ารถเก๋ง ๔๐ คัน คันละ ๑,๐๐๐ บาท รวม ๔๐,๐๐๐ บาท

รวมโรงแรมต้องจ่าย ๑๒๐,๐๐๐ บาท

เขาเป็นเอกชนทำธุรกิจเหมือนผู้ประกอบการทั่วไป คุณตั้งใจไปหาเรื่องแล้วยังไถเงินเขาอีก มีที่ไหนจองโรงแรมมัดจำ ๔,๒๐๐ เรียกค่าเสียหาย ๑๒๐,๐๐๐ คนดีเขาทำกันแบบนี้หรือ?

ห่มผ้าเหลืองไปทำแบบนี้ น่าบูชามากใช่ไหม?

เอ้า... กราบกันเข้าไป"

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ชาวเน็ตแชร์ภาพคนแห่ถอนเงิน ธ.ออมสิน ไม่พอใจปล่อยกู้ ธ.ก.ส.


 ประชาชนแห่ถอนเงิน ธ.ออมสิน จนบางสาขาเงินสดหมด บางรายปิดบัญชี หลังไม่พอใจที่ปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส. หวั่นเกิดหนี้เสีย ด้าน วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผอ.ธนาคารออมสิน ยอมรับลูกค้าถอนเงินผิดปกติ ยืนยันไม่ได้ปล่อยกู้โครงการจำนำข้าว พร้อมสั่งแต่ละสาขาสำรองเงินสดเพิ่ม 1 เท่า

           สืบนื่องจากกรณีที่ธนาคารออมสินได้ปล่อยกู้เงินเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จนทำให้ประชาชนที่เป็นลูกค้าธนาคารออมสิน และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากหวั่นว่าจะเป็นหนี้เสียที่เกิดจากโครงการจำนำข้าว และแห่ไปถอนเงินกันเป็นจำนวนมากนั้น

           ล่าสุด วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ประชาชนก็ยังคงมีการถอนเงินจากธนาคารออมสิน สาขาต่าง ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง โดย นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ยอมรับว่า หลังจากมีการปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้กับ ธ.ก.ส. ไป ก็มีประชาชนแห่กันมาถอนเงินมากจนผิดปกติ ซึ่งคาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับกระแสว่าธนาคารปล่อยกู้ให้กับโครงการจำนำข้าว แต่ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการปล่อยกู้ในโครงการจำนำข้าว แต่เป็นการปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์แบบปกติกับ ธ.ก.ส. ที่เคยปฏิบัติมาหลายสิบปี และไม่เคยมีปัญหา

           อีกทั้งการกู้เงินครั้งนี้ ก็เป็นการกู้แบบระยะสั้น ไม่เกิน 30 วัน เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารพยายามชี้แจงและทำความเข้าใจกับลูกค้าให้เข้าใจว่าธนาคารจะดูแลเงินฝากของทุกคนให้ดีที่สุด แต่กระแสข่าวที่ออกไปและทำให้มีลูกค้ามาถอนเงินจำนวนมากนั้น เบื้องต้นธนาคารยังไม่สามารถรับมือได้ จึงได้มีการสั่งให้แต่ละสาขาสำรองเงินสดเพิ่มอีก 1 เท่า เพื่อรับมือทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

           ขณะที่ ธนาคารออมสิน หลายแห่งใน จ.สุราษฎร์ธานี ก็มีประชาชนทยอยมาถอนเงินจำนวนมาก บางรายก็ปิดบัญชีเงินฝาก และถอนคืนสลากออมสิน โดย น.ส.สมจิตร ทองจุ้น ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาถนนราษฎร์อุทิศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้ามีการถอนเงินไปแล้ว 30 ล้านบาท เนื่องจากอั้นมาจากช่วงหยุดยาว 3 วัน โดยกลุ่มที่มาถอนเงินตามข่าวจะเป็นลูกค้ารายย่อยและขนาดกลาง ทำให้สาขามีเงินสดไม่เพียงพอ จากเดิมที่มีเงินสดสำรองวันละ 10 ล้านบาท จึงได้ทำความเข้าใจกับลูกค้าและคาดว่าวันรุ่งขึ้นน่าจะมีการถอนเงินน้อยลง

           นอกจากนี้ ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ยังมีการแชร์ภาพของลูกค้าธนาคารออมสิน สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ว่ามีประชาชนแห่กันไปถอนเงิน จนสาขามีเงินสดไม่เพียงพอเช่นกัน

   ชาวเน็ตแชร์ภาพคนแห่ถอนเงิน ธ.ออมสิน สาขาพาราไดซ์ พาร์ค (ศรีนครินทร์) กว่า 57 ล้านบาท ไม่พอใจปล่อยกู้ ธ.ก.ส.

           เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์และส่งต่อภาพเอกสารแสดงรายการรับฝาก-ถอนเงินของธนาคารออมสิน สาขาพาราไดซ์ พาร์ค (ศรีนครินทร์) ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมากันเป็นจำนวนมาก

           โดยในเอกสารดังกล่าวมีการระบุยอดจำนวนลูกค้าที่มาถอนเงินที่ผิดปกติที่ธนาคารสาขา เป็นจำนวนถึง 80 ราย วงเงิน 57,691,238.96 บาท จากจำนวนรายการถอนเงินทั้งหมด 279 ราย วงเงิน 62,506,499.20 บาท โดยระบุสาเหตุการถอนที่ผิดปกติไว้จำนวน 2 สาเหตุ คือ

           1. ธนาคารเอาเงินไปปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.

           2. ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์

           นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสินได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ยกเลิกการปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยระบุว่า แม้ว่าการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงหรือเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้โครงการจำนำข้าวก็ตาม แต่เพื่อความโปร่งใสและถูกต้อง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน จึงขอเรียกร้องไปยังผู้บริหารธนาคาร 3 ข้อ

           1. หยุดการให้กู้อินเตอร์แบงก์ (Inter bank) แก่ ธ.ก.ส. โดยทันที เพราะ ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องสูงเพียงพอแล้ว ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อต่าง ๆ

           2. ขอให้ทวงถาม ธ.ก.ส. และให้ ธ.ก.ส. คืนเงินที่ขอยืมไปจากธนาคารออมสิน จากการกู้อินเตอร์แบงก์ (Inter bank) โดยทันที เพราะ ธ.ก.ส. ได้ออกข่าวว่า มีสภาพคล่องอย่างเหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องมากู้ธนาคารออมสิน ถือได้ว่าไม่มีความจำเป็นและไม่ตรงวัตถุประสงค์

           3. งดการให้กู้ใด ๆ ก็ตามที่จะลุกลามกระทบถึงความเชื่อมั่นต่อลูกค้า และประชาชนทั่วไป อันอาจจะเกิดความเสียหายต่อธนาคารออมสิน

สหภาพฯ ออมสิน แถลงการณ์ฉบับที่ 2 จี้ ทวงเงินคืนจาก ธ.ก.ส.


  สหภาพฯ ออมสิน แถลงการณ์ฉบับที่ 2 ทวงเงินจาก ธ.ก.ส. ชี้ ธนาคารมีสภาพคล่องเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องกู้ และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นลูกค้าได้

          วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2557) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน มีการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ขอให้ธนาคารยกเลิกการปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร (อินเตอร์แบงก์) ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เนื่องจากเห็นว่า การปล่อยกู้ดังกล่าวเกิดผลกระทบในวงกว้างจากการไม่เข้าใจและเกิดข้อสงสัยของลูกค้าและสาธารณชน แม้ว่าการดำเนินการธุรกรรมนี้ จะไม่เกี่ยวโยงกับการปล่อยกู้โครงการจำนำข้าว อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน ก็มีข้อเสนอให้ธนาคารพิจารณา ดังนี้

          1. หยุดการปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ เนื่องจาก ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องสูงเพียงพอ

          2. ขอให้ทวงถาม ธ.ก.ส. ให้คืนเงินที่ยืมไปในทันที เนื่องจาก ธ.ก.ส. ประกาศว่า มีสภาพคล่องอย่างเหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องกู้ ดังนั้นการกู้ถึงไม่มีความจำเป็นและไม่ตรงวัตถุประสงค์

          3. งดการปล่อยกู้ใด ๆ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อลูกค้าและเกิดความเสียหายต่อธนาคารออมสิน

          4. ขอให้ธนาคารทบทวนเป้าหมายเงินฝากของสาขา จากวิกฤตในปัจจุบัน

          สุดท้ายสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน และพนักงานลูกจ้างทุกคน ขอยืนยันว่า จะปกป้องและรักษาธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นพระราชสมบัติของรัชกาลที่ 6 จนกว่าชีวิตจะหาไม่

สุเทพ เทือกสุบรรณ นำมวลชนเทปูนปิดตายทำเนียบ ขวางยิ่งลักษณ์เข้าทำงาน


  สุเทพ เทือกสุบรรณ นำมวลชน กปปส. ปฏิบัติการล้อมทำเนียบฯ ขวาง ยิ่งลักษณ์ เข้าทำงาน หลัง ศรส. ประกาศขอคืนพื้นที่ในสัปดาห์นี้ ล่าสุด 09.30 น. สุเทพ ขึ้นเวที คปท. ย้ำ ยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมบริหารประเทศแล้ว

             วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้นำมวลชน กปปส. เดินทางไปทำการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) ประกาศขอคืนพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลในสัปดาห์นี้ เพื่อให้นางสาวยิ่งลักษณ์ กลับเข้าทำงานในทำเนียบฯ

             ทั้งนี้ มวลชนได้ใช้ยุทธการกระจายกำลังปิดล้อมทำเนียบ ตั้งแต่บริเวณแยกสะพานมัฆวาน จนถึงแยกสวนมิสกวัน โดยนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นที่น่าหนักใจกับสถานการณ์ในขณะนี้ โดยเป็นการดีที่จะได้เร่งปิดเกมรัฐบาลรักษาการชุดนี้ ให้ได้โดยเร็ว

            ขณะที่ เมื่อเวลา 09.30 น. นายสุเทพ ได้นำมวลชนเดินเท้าถึงทำเนียบเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวที คปท. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ โดยประกาศปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลไม่ให้นายกฯ เข้าทำงานได้ตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมย้ำด้วยว่า นางสาวยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ไม่มีโอกาสนั่งทำงานในทำเนียบทั้งชาตินี้และชาติหน้า

            หลังจากนั้นได้นำมวลชน กปปส. เทปูนปิดตายทางเข้า-ออก ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้นายกฯ เดินทางเข้าปฏิบัติงานอย่างเด็ดขาด

ม็อบชาวนา ขู่ค้างคืนหน้า สนง.ปลัดกลาโหม จนกว่ายิ่งลักษณ์มาคุย


  ม็อบชาวนา ขับรถอีแต๋นพังรั้วลวดหนาม บุก สนง.ปลัดกลาโหม ขอพบนายกฯ ทวงเงินจำนำข้าว ด้านประธานเครือข่ายชาวนาไทย ประกาศค้างคืน หากนายกฯ ยังไม่ยอมลงมาคุย

          วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรชาวนากว่า 20 จังหวัด ราว 4,000 คน ที่เคลื่อนมาชุมนุมบริเวณหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เพื่อรอพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยต้องการให้ นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดคุยกันโดยตรงเรื่องเงินจำนำข้าว เนื่องจากหากพูดผ่านสื่อมวลชนอาจจะเข้าใจไม่ตรงกันนั้น

          ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11.57 น. กลุ่มชาวนาได้ขับรถอีแต๋น พยายามดันรั้วลวดหนามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางไว้ ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย และมีรายงานชาวนาได้รับบาดเจ็บจากรั้วลวดหนามหลายราย ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ภายในอาคาร ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์อาคารโดยรอบ

          ทั้งนี้ นายไชยชาญ มาตา แกนนำชาวนาภาคอีสาน เปิดเผยว่า ต้องการความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี ว่าจะสามารถจ่ายเงินจำนำข้าวได้เมื่อใด และการทยอยจ่ายเงินนั้น จะต้องไม่เลือกจ่ายเฉพาะฐานเสียงพรรคเพื่อไทย แต่ต้องจ่ายตามลำดับใบประทวนอย่างเท่าเทียมกัน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เดือดร้อนโดยตรง

          ด้านนายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย เปิดเผยว่า จะปักหลักค้างคืนที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จนกว่านายกรัฐมนตรีจะลงมาคุย

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สื่อฝรั่งเศสลือแรง! ปธน.โอบาม่า เป็นชู้กับ บียอนเซ่


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สื่อประเทศฝรั่งเศสกำลังประโคมกล่าวอ้างถึงข่าวความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่าง ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า กับ บียอนเซ่ โนวส์ นักร้องสาวชื่อดัง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของปมปัญหาชีวิตคู่ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

ตามรายงานระบุว่า นายปาสกัล โฮสแตง ช่างภาพชื่อดังชาวฝรั่งเศสได้ออกมาตอกย้ำข่าวลือมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยช่างภาพคนดังกล่าวคือผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความสัมพันธ์ลึกซึ่งระหว่าง ประธานาธิบดีฟร็องซัวร์ ออล็องด์ กับดาราสาว จูเลีย กาเยต์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นายปาสกัล อ้างว่า นอกจากเรื่องชู้สาวของประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ไม่ซื่อสัตย์กับสตรีหมายเลข 1 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เช่นเดียวกัน แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ นักร้องสาวชื่อดัง บียอนเซ่ โนวส์ สังเกตได้จากระยะห่างระหว่าง ประธานาธิบดี กับ นางมิเชลล์ โอบาม่า สตรีหมายเลข 1 ที่เว้นช่องว่างให้กันและกันมาสักพักหนึ่งแล้ว

ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ บียอนเซ่ โนวส์ กลายเป็นประเด็นให้สื่อสังคมและบันเทิงได้วิพากษ์วิจารณ์ ถึงแม้ว่าต่างคนต่างมีคู่สมรสอยู่แล้วก็ตาม แต่ครอบครัวประธานาธิบดีบารัค แสดงออกชัดเจนว่า เป็นแฟนคลับตัวยงของนักร้องสาว ทั้งนี้ข่าวลือดังกล่าวนี้ยิ่งตอกย้ำประเด็นปัญหาชีวิตคู่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ว่าหลายฝ่ายเริ่มออกมาแสดงความคิดและปฏิเสธข่าวลือนี้ว่าไม่มีมูลความเป็นจริงแม้แต่น้อย

เมียนักร้องอเวจี วอนจับมือฆ่าสามี ผวาคนร้ายกลับมาฆ่า


(11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวความคืบหน้าคดีฆาตกรรมโหด นักร้องอเวจี หลังจากที่ผ่านไป 1 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจับกุมคนร้าย หนำซ้ำคนในครอบครัวผู้เสียชีวิตยังต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดผวา

รายการข่าว เรื่องเล่าเช้านี้ ได้ติดตามความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นายสามองค์ ไตรศรัทธา อายุ 36 ปี นักร้องนำวงเซอร์เรนเดอร์ ออฟ ดิวินิตี้ หรือได้รับฉายาว่า อเวจี ที่ถูกคนร้ายฆ่าโหด เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2557 ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุผู้ที่ก่อเหตุได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก อ้างว่าไม่พอใจที่ผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมลบหลู่ลัทธิซาตาน จนกลายเป็นประเด็นข่าวโด่งดัง

นางจารุวรรณ สุรพล ภรรยาของนายสามองค์ ได้เปิดเผยว่า คดีสามีถูกฆาตกรรมผ่านไป 1 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทราบว่า นายปราการ หาญพันธุ์บุษกร เป็นผู้ก่อเหตุ แต่ก็ยังคงไร้วี่แววที่จะตามคนร้ายมาดำเนินคดี เป็นเหตุทำให้ทุกวันนี้ตนกับครอบครัวต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะกลัวคนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุกับผู้อื่น ตามที่เคยได้ประกาศเอาไว้ในเฟซบุ๊กว่า ต้องการก่อเหตุฆ่าผู้อื่นอีก 20-30 คน

นอกจากนี้ นางจารุวรรณ ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสามีว่า นายปราการ เป็นผู้ที่เชื่อในลัทธิซาตาน ผู้ที่เชื่อลัทธินี้จะไม่ศรัทธาในศาสนา ไม่แต่งงานหรือมีครอบครัว ซึ่ง นายปราการ ก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับที่ชื่นชอบวงของสามีตน ตนเคยเห็นหน้าเพียงครั้งเดียว ตอนที่จัดปาร์ตี้ในหมู่แฟนคลับ เมื่อ 3 ปีก่อน ครั้งนั้นสามีกับนายปราการมีปากเสียงกัน แต่ก็เคลียร์กันได้ไม่มีอะไรบาดหมางกัน

จนกระทั่งต่อมา สามีได้โพสต์รูปงานแต่งงาน พิธีการต่างๆ ทำให้ นายปราการ เกิดความไม่พอใจ หาว่าสามีของตนไม่จงรักภักดีต่อลัทธิ สามีของตนจึงต้องอธิบายว่า ไม่ได้นับถือลัทธิซาตาน เพียงแต่ชื่นชอบดนตรีแนวนี้เท่านั้น ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันดี ก่อนที่เมื่อวันที่ 9 มกราคม นายปราการ ได้มาหาที่บ้าน ตนก็เห็นว่าพูดคุยกันตามปกติ ก่อนจะลงจากบ้านไปเห็นสามีนอนจมกองเลือดอยู่กลางบ้านและเสียชีวิตในที่สุด

ทั้ง นางจารุวรรณ วิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้ใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นสุข หวาดระแวงทุกชั่วโมง ยังไม่ทราบว่าคนร้ายอยู่ที่ใดและต้องการจะทำอะไรในอนาคต อีกทั้งป้องกันไม่ให้คนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวกับผู้ใดอีก

ไฟไหม้โกดังเก็บข้าว โครงการรับจำนำข้าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟชบุ๊ค นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์ภาพ สภาพของโกดังเก็บข้าว โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี2555 อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ที่ถูกไฟไหม้ โดยบรรยายประกอบภาพว่า "โครงการรับจำนำข้าวผมเพิ่งจะแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า จากนี้ไปให้ระวังโกดังไฟไหม้ ไม่ทันขาดคำครับเช้านี้ไฟไหม้โกดังเก็บข้าวสารรัฐบาลแล้วครับ เป็นโกดังหลังที่พัง คลังสินค้ากลาง ลำนารายณ์หลังที่1 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี2555 อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี.......ไหม้แล้วจ้า โกดังข้าวรัฐบาล ตามคาดและเชื่อว่าจะตามมาเรื่อยๆครับ"

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงกองบัญชาการกองทัพอากาศ แล้ว เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีวาระการประชุมเร่งด่วนเพื่อหารือใน ครม. พิจารณาวงเงินช่วยเหลือชาวนาที่ตกค้างจากการจำนำข้าวฤดูการผลิตที่แล้ว ในเดือน ก.ย. 56 จำนวน 3,900 ราย วงเงิน 712 ล้านบาท เนื่องจาก มีชาวนาจำนวนหนึ่งที่รับจำนำข้าวเกินกว่าที่รัฐบาลกำหนดไว้ และยังไม่ได้รับเงินจากการรับจำนำข้าว ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้การเห็นชอบ รวมถึงยังมีประเด็นการหารือและประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ด้วย

ชีวิตของ เจสัน ยัง หลังสึกพระออกมาแล้ว


เจสัน ยัง ชีวิตหลังสึกออกมาเป็นฆารวาส คาดว่ากำลังจะมีผลงานละครมาเฟียเลือดมังกร

หลังจากใช้ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์มากว่า  1 ปี 9 เดือนของ เจสัน ยัง จนกระทั่งเรียนรู้ศึกษาพระธรรมจนถ่องแท้เจ้าตัวจึงตัดสินใจลาสิกขาบทเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2556

เจสัน ยัง ปรากฏตัวอีกครั้งและสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากเมื่อเขาโผล่ไปทำใบขับขี่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ต่อมา เจสัน ยัง ได้ออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ตอบข้อสงสัยทุกประเด็นเหตุใดจึงสึกแบบไม่ได้บอกกล่าวใคร ก็เรียกว่าเคลียร์ข้อข้องใจไปได้ทุกประเด็น

ทั้งนี้ หลายคนอาจจะจับตามองชีวิตของหนุ่ม เจสัน ยัง หลังสึกออกมาแล้วทำอะไรและจะหวนสู่วงการบันเทิงหรือไม่  ล่าสุดคาดว่าจะมีคำตอบออกมาแล้วเพราะในอินสตราแกรมของ "โทนี่ รากแก่น" ปรากฏเป็นภาพของ เจสัน ร่วมเฟรมถ่ายภาพกับกลุ่มในนักแสดงเรื่อง มาเฟียเลือดมังกร ตอน หงส์

นอกจากนี้ไลฟ์สไตล์ของ เจสัน ยัง เข้ามาอยู่ในแก๊งบิ๊กไบค์ของโทนี่อีกด้วย เรียกว่าใช้ชีวิตลูกชายได้คุ้มค่ามากจริง ๆ    

ก็ไม่รู้ว่า เจสัน ยัง จะมีโอกาสได้ร่วมเล่นละครเรื่องนี้ของผู้จัดแดง ธัญญา หรือไม่ หรือเป็นเพียงไปเยี่ยมเยียนกองถ่ายต้องติดตามให้ดี ๆ นะจ๊ะแฟนคลับ

เต้ย จรินทร์พร - อเล็กซ์ เรนเดล เตรียมสละโสดตอน อายุ 28 ?


มีเรื่องเม้าท์มอยให้ต้องเคลียร์อีกแล้ว สำหรับนางเอกสาว "เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ" เพราะจู่ ๆ ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า เจ้าตัวเตรียมจูงมือหวานใจสุดหล่อ "อเล็กซ์ เรนเดล" เข้าประตูวิวาห์ เมื่ออายุครบ 28 ปี บริบูรณ์!!! งานนี้บรรดาแมงเม้าท์ก็เลยไม่พลาดเข้าไปจ่อไมค์ถาม สาวเต้ย ในงานฉายภาพยนตร์รอบสื่อมวลชน "Timeline ความรัก ความทรงจำ" ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงให้ฟังเราฟังถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า...

ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าเราวางแผนจะแต่งงานตอนอายุ 28 ?
"ไม่ใช่ค่ะ จริง ๆ แล้วมันเป็นบทสัมภาษณ์ในหนังสือเล่มนึงเฉย ๆ ที่เขาให้เต้ยลองมองอนาคตว่าอยากให้เป็นยังไง เต้ยก็เลยบอกไปว่า ถ้าแต่งงานตอนอายุ 28 น่าจะโอเค แต่ว่าไม่ได้ลงรายละเอียดหรือเจาะจงอะไรเลยค่ะ"

ที่ผ่านมาเราเคยคิดเล่น ๆ บ้างไหมเรื่องแต่งงาน ?
"ไม่เคยเลยค่ะ เพราะว่าตอนนี้เราเพิ่งจะอายุ 24 แล้วอีกอย่างเราเองก็มีภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบค่อนข้างเยอะ ดังนั้นคงอีกนานเลยค่ะ"

ตอนนี้เห็นหนังสือที่เรากับอเล็กถ่ายคู่กันวางแผงแล้วด้วย ?
"ใช่ค่ะ ภาพหน้าปกเป็นอะไรที่ไม่คาดฝันมาก เพราะทางทีมงานเขาเลือกภาพขึ้นปกค่อนข้างสวีทหวานนิดนึง ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วตอนที่ถ่ายเราก็ไม่ได้สวีทอะไรมากมายเลยนะ ออกจะเขินด้วยซ้ำ เพราะว่าไม่เคยถ่ายแฟชั่นคู่กัน"

คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้างกับแฟชั่นที่ออกมา ?
"ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เพราะท่านเข้าใจว่าเป็นงาน"

มีโครงการถ่ายเล่มต่อไปแล้วหรือยัง ?
"คงยังไม่มีค่ะ เพราะต้องรอดูความสบายใจของเราทั้งคู่ด้วย"

ใกล้วาเลนไทน์แล้วมีโครงการไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ?
"ยังไม่มีเลยค่ะ อีกอย่างช่วงนั้นต่างคนต่างยุ่งด้วย เพราะอเล็กซ์ต้องไปต่างจังหวัด ส่วนเต้ยก็ติดงานค่ะ"

เสียดายไหมวันแห่งความรักแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ?
"ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอย่างที่บอกเต้ยเองก็ต้องทำงานด้วย แต่ไม่แน่นะคะหลังจากวันนั้นเราอาจจะมีนัดไปเที่ยวกันอะไรยังไง ต้องดูอีกทีค่ะ"

วาเลนไทน์นี้เราอยากได้อะไรเป็นพิเศษบ้างไหม ?
"ไม่ได้คิดไว้เลยค่ะ เพราะช่วงนี้ก็วุ่น ๆ กับการโปรโมทหนังพอสมควรค่ะ"

น้องเพลง อัศวเหม ออกงานคู่เพื่อนชายนามว่า เก้า


น้องเพลง อัศวเหม ออกงานคู่กับเพื่อนชายคนสนิทนามว่า เก้า เอ๊ะคนนี้เพื่อนหรือคนรู้ใจ

เรียกว่าโตเป็นสาวแล้วสำหรับน้องเพลง ชนม์ธิดา อัศวเหม ลูกสุดที่รัก แม่ตู่ นันทิดา และ พ่อเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ด้วยใบหน้าและรูปร่างที่เป๊ะแบบนางแบบ นอกจากนี้ยังเดินตามรอยเท้าคุณแม่ตู่เป็นนักร้องเสียงดีด้วย ครบสูตรของสาวสวยรวยเก่ง

แน่นอนว่าย่อมเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ที่อยากจะปีนเด็ดดอกฟ้า แต่ล่าสุดหนุ่มคนที่น้องเพลง ถ่ายรูปคู่ด้วยบ่อย ๆ นามว่า เก้า นั้น คนนี้จะใช่เพื่อนสนิทคนพิเศษของเธอหรือเปล่ายังไม่สามารถฟันธงได้

สมมติว่าใช่นั้น แม่ตู่ กับ พ่อเอ๋ คงการันตีว่าดีแน่นอนเพราะเปิดทางให้ลูกสาวคนนี้ได้ศึกษาดูใจกัน

ใช่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ดูแล้วน่ารักดีทั้งคู่นะจ๊ะ

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ยังประกันตัวไม่ได้ DSI เผย โอนเป็นคดีพิเศษแล้ว

 
ดีเอสไอ เผย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ถูกจับตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โอนเป็นคดีพิเศษแล้ว ด้านตำรวจโพธิ์แก้ว เข้าค้นบ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 4 แล้ว

            วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ตามที่ทาง ศรส. ได้จับกุมตัว นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส. ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และนำตัวไปควบคุมที่ ตชด.ภ.1 จ.ปทุมธานี นั้น ขั้นตอนต่อไปคือ การสอบสวนตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ต้องนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลตามขั้นตอนปกติ ตาม ป.วิอาญา เนื่องจากฎหมายให้อำนาจพนักงานสืบสวนในคดี สามารถควบคุมตัวไว้ได้เป็นเวลา 7 วัน และเมื่อครบกำหนด 7 วันแล้ว ก็ให้นำตัวไปฝากขังต่อศาลได้อีกครั้ง 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ซึ่งในช่วงนั้นผู้ต้องหาถึงจะสามารถใช้สิทธิ์ประกันตัวได้ หากศาลไม่ให้ควบคุมตัวต่อ

            ส่วนกรณีขอหมายจับ แกนนำ กปปส. ล็อตที่สอง จำนวน 13 คนนั้น ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ศาลนัดไต่สวนผู้ขอหมาย คือ ดีเอสไอ ซึ่งจะนำตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขึ้นเบิกความต่อศาล ก่อนที่ศาลจะนัดหมายฟังคำสั่งต่อไป

            ขณะที่ พ.ต.อ.อรรณพ นวมนาคะ ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม เผยว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นขอเข้าค้นบ้านพักของ นายสนธิญาณ ที่อยู่ในพื้นที่ถนนพุทธมณฑล สาย 4 แล้ว ซึ่งทางบุตรสาวของ นายสนธิญาณ ก็ได้โพสต์ข้อความว่า ขณะนี้มีตำรวจทั้งนอกเครื่องแบบและในเครื่องแบบ เกือบ 20 นาย ขอตรวจค้นบ้านพักจริง

ญาญ่าญิ๋ง โพสต์ภาพเสื้อทำช่วยเหลือชาวนายากไร้


ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม โพสต์ภาพเสื้อรูปรวงข้าว หาเงินช่วยชาวนาที่เดือดร้อน

ยังเป็นปัญหาระดับชาติอยู่ตอนนี้กับการเดือดร้อนของชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ล่าสุด ญาญ่าญิ๋ง ได้โพสต์บนอินสตราแกรม เป็นรูปเสื้อยืดลายรวงข้าวผูกโบว์ด้วยสีธงชาติ พร้อมกับระบุว่า เป็นการทำเสื้อขายเพื่อช่วยเหลือชาวนาผู้เดือดร้อน โดยกลุ่มคนอยากช่วยชาวนา  ซึ่งรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย เธอในฐานะตัวแทนได้นำข่าวสารมาประชาสัมพันธ์

แตงโม นุ่งบิกินี่อวดหุ่นเป๊ะ ควงโตโน่ สวีทมัลดีฟส์


เรียกได้ว่าข่าวเม้าท์ ข่าวฉาว เสียงวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ก็ไม่ทำให้ความหวานของคู่หมั้นสายฟ้าแลบ แตงโม ภัทรธิดา และ โตโน่ ภาคิน ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ล่าสุดได้ควงคู่กันบินไปเที่ยวเกาะมัลดีฟส์แบบส่วนตั๊วส่วนตัว โดยสาวแตงโม โพสต์ภาพหวานส่งตรงจากมัลดีฟส์ พร้อมข้อความว่า "เคยคิดมั้ย ว่าอยากจะไปมัลดีฟกับใครมากที่สุด ... ฝันของฉันเป็นจริง"

ซึ่งทริปนี้ทั้งคู่ดูแฮปปี้สุดๆ ดูได้จากภาพที่สาวแตงโมขยันโชว์ความหวานท่ามกลางทะเลสวย บรรยากาศดี แถมเจ้าตัวยังอวดหุ่นสวยในชุดบิกินี่ตัวจิ๋ว บอกเลยว่าเป๊ะสุดๆ

โชว์สวีทรับวาเลนไทน์แบบนี้ คนโสดก็อิจฉาแย่สิจ๊ะสาวแตงโม...

น้องจ๊ะ คันหู จริงหรือนี่!!


จ๊ะ อาร์สยาม หรือก่อนหน้านี้ที่เรารู้จักันในนาม จ๊ะ คันหู นักร้องลูกทุ่งคนดัง ล่าสุดเธอโชว์ภาพในอินสตาแกรมของเธอเอง ช่างแตกต่างจากภาพที่เราเคยเห็นกันเหลือเกิน ซึ่งภาพนี้เป็นภาพใสๆ ในชุดนักศึกษา และมีคุณแม่กำลังถักผมเปียให้ แสดงถึงวิถีชีวิตจริงๆ ที่คงจะเรียบง่าย แตกต่างจากหน้าไมค์อย่างสิ้นเชิง

“มดดำ คชาภา“ อวดภาพน้องชายและหลานๆ


ต้องเรียกว่าเป็นภาพหายากเลยทีเดียว กับการที่จะเห็นพิธีกรฝีปากกล้า "มดดำ คชาภา" อวดภาพครอบครัว เพราะปกติจะมีแต่ภาพหนุ่มหุ่นล่ำ อุ๊บส์!!! แต่เนื่องจากโอกาสดีๆ ที่น้องชาย "มดเล็ก ศุภติชา" ชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา "มดดำ คชาภา" เลยแชะภาพทั้งครอบครัว รวมถึงคุณพ่อ "สุชาติ ตันเจริญ" นักการเมืองชื่อดัง และหลานๆ อีก 3 คน ลงอินสตาแกรม ใครอยากเห็นภาพครอบครัวตันเจริญเชิญดูเลยจ้าาาาาา

“ฉัตรชัย - สินจัย“ บนปกนิตยสาร “รักประเทศไทย


ฉัตรชัย - สินจัย เปล่งพาณิช ควงคู่กันขึ้นปกนิตยสารดัง "แพรว" ในคอนเซปต์รักประเทศไทย ซึ่งทั้งคู่ถือได้ว่าเป็นสองนักแสดงที่เคยออกมาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. บ่อยครั้ง และมีความเห็นทางการเมืองค่อนข้างชัดเจน ล่าสุดแพรว เลยจับทั้งคู่มาขึ้นปกนิตยสาร พร้อมกับคู่รักอีก 8 คู่ ที่มาร่วมถ่ายแบบภายในเล่ม จะมีใครบ้างนั้นไปดูกันได้เลย

รวบแล้ว! สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส.


(10 ก.พ.) สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญา รัชดา นัดฟังคำสั่งออกหมายจับ 19 แกนนำ กปปส. หรือไม่ ภายหลังเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับ แกนนำ กปปส. จำนวน 19 คน ในข้อหากระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. นายสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม (อ่าน สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จากนักเลงหัวไม้ สู่นักธุรกิจ 100 ล้าน) หนึ่งในแนวร่วม กปปส. และอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์  ได้ถูกจับกุมแล้ว ได้ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว โดยตำรวจควบคุมไปสอบสวนที่ ตชด.ภ.1 จ.ปทุมธานี แล้ว

ทั้งนี้ แกนนำ กปปส. จำนวน 19 คน ที่ถูกออกหมายจับในข้อหากระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประกอบด้วย

1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
2.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
3.นายชุมพล จุลใส
4.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
5.นายอิสสระ สมชัย
6.นายวิทยา แก้วภราดัย
7.นายถาวร เสนเนียม
8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
9.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
10.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก
11.นายนิติธร ล้ำเหลือ
12.นายอุทัย ยอดมณี,
13.เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์
14.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
15.นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี หรือ นายอมร อมรรัตนานนท์
16.นายกิตติชัย ใสสะอาด
17.นายสำราญ รอดเพชร
18.นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
19.นายพานสุวรรณ ณ แก้ว

ทักษิณ โผล่แก้กรรมที่ประเทศพม่า


วันนี้(10 ก.พ.)บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังทำบุญ ซึ่งผู้ที่นำมาโพสต์อ้างว่ากำลังทำพิธีแก้กรรมที่ประเทศพม่า แต่ไม่ทราบว่าเป็นวัดใด ทั้งนี้ในภาพยังปรากฎ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ร่วมทำพิธีอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายยังมองว่าภาพนี้อาจมีมูลความจริง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับข่าวลือที่ว่าคณะรัฐมนตรี อดีต ส.ส.และ ส.ว. หลายคน ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองย่างกุ้ง ที่โรงแรม Chartrium ชั้น10

‘อ.เฉลิมชัย‘ ย้ำไม่เคยพูดเรื่องการเมือง ชี้ถูกนำข้อความไปตัดต่อ


'อ.เฉลิมชัย'ศิลปินแห่งชาติ เขียนแจงย้ำไม่เคยพูดเรื่องการเมือง ไม่เคยเล่นเฟซบุ๊ก ส่งข้อความหรือไลน์ชี้ถูกนำข้อความไปงตัดต่อฝ่ายตรงข้าม พร้อมระบุตนเองขออยู่ฝ่ายทุกคน ทุกฝ่าย ทุกสี ที่เป็นคนดี คนรักชาติเท่านั้น วอนอย่านำตนเองไปยุ่งกับการเมือง

กลุ่มคนรัก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โพสต์สารจากอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผ่านเฟซบุ๊กโดยข้อความภายในเอกสาร เขียนถึงกรณีที่มีผู้นำข้อความคำพูดของอาจารย์เฉลิมชัยไปตัดต่อเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม พร้อมย้ำไม่เคยพูดเรื่องการเมือง ไม่เคยเล่นเฟซบุ๊ก ส่งข้อความหรือไลน์ ทั้งนี้ รายละเอียดดังนี้

เรียน พี่ๆ น้องๆ และประชาชนชาวไทยทุกท่าน

เขียนเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2557 เวลา 14.47 น.

ผมถูกพวกการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายนำเอาคำพูดของผมไปตัดต่อ ใส่ความเห็นของเขาเพื่อด่าฝ่ายตรงข้าม ยกตัวอย่างเช่น คลิปล่าสุด ที่มันเอาผมไปด่าการปฎิรูป ผมไม่เคยพูดถึงเรื่องการเมืองเลย ผมพูดเกี่ยวกับเรื่องอาชีพ ว่าคนไม่มีใจ คือคนกระจอก มันก็เอาคำว่า กระจอก และเอารูปผมมาลง แล้วใส่ความคิดเห็นของมันลงไปเพื่อด่าพวกปฎิรูป

หลาย ๆ คลิปไม่ว่าจะเป็นเสียงผมที่ถูกตัดต่อและข้อความที่นำมาประกอบกับรูปถ่ายผมที่เคยลงล้วนเป็นการคัดต่อ แต่คำเองทั้งนั้น ผมไม่เคยพิมพ์ข้อความใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ผมไม่เคยรู้จักการเล่นไลน์ ส่งข้อความ หรือเฟซบุ๊ก อะไรทั้งสิ้น

ผมไม่เคยคิดที่จะแยกเพื่อจะอยู่ฝ่ายใด ผมขออยู่ฝ่ายทุกคน ทุกฝ่าย ทุกสี ที่เป็นคนดี คนรักชาติเท่านั้น

นักการเมืองมีคนดี คนเลวทั้ง 2 ฝ่าย ผมเลือกรักนักการเมืองเลือดดี ไม่ว่าจะเป็นพรรคใด สีใด และผมเกลียดนักการเมือง เลวๆ โกงชาติทุกคน ทุกสี ทุกพรรค ขออย่าได้นำผมเข้ามายุ่งกับการเมืองเลยครับ อย่าได้นำผมมาอ้างเพื่อจะได้พวกเห็นด้วยกับท่านเพิ่มเลยครับ

จงให้ผมอยู่เพื่อแสดงออกในการสร้างงานศิลปะที่งดงามให้แก่แผ่นดินดีกว่าครับ ขอให้เว้นผมสักคนเถอะ ไม่ใช่ว่าคุณเอาผมมาเล่นการเมืองเลยครับ ผมไม่ชอบการเมืองครับพี่น้อง
อย่าทำให้ผมเปื้อนและสกปรกไปกว่านี้เลยครับ

โปรดอย่าเชื่อเมื่อคุณได้อ่านหรือว่าฟังผมด่าการเมือง ด่าสีใดๆ
ขอบคุณครับ

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปิดคลิป บิ๊กทหาร-นักวิชาการรุ่นเก๋า ตั้งกลุ่มรัฐบุคคล หาทางออกประเทศ


  เปิดคลิป บิ๊กทหาร-นักวิชาการรุ่นเก๋า ประชุมตั้งกลุ่มรัฐบุคคล เพื่อหาทางออกประเทศ โดยในคลิปมีการพูดการทำหน้าที่ของทหารเกี่ยวกับการปฏิรูปและปฏิวัติประเทศ

            เป็นคลิปที่ถูกส่งต่ออย่างมากมายและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเลยทีเดียว สำหรับคลิปที่ใช้ชื่อว่า "การประชุมและประกาศจัดตั้งกลุ่มรัฐบุคคล 28 ม.ค. 57" ซึ่งคลิปดังกล่าว ถูกโพสต์ขึ้นโดย  "fmtv asoke" ของช่อง FMTV และได้ออกอากาศทางช่อง 13 สยามไท ทั้งนี้ คลิปได้บันทึกบทสนทนาระหว่างการประชุมหาทางออกประเทศ และได้จัดตั้งกลุ่ม "รัฐบุคคล" โดยมีอดีตนายทหารระดับบิ๊กและนักวิชาการหลายคนเข้าร่วมประชุม ที่สโมสรโปโลคลับ ลุมพินี

            ทั้งนี้ เนื้อหาภายในคลิปการประชุมดังกล่าว ผู้เข้าประชุมได้สลับสับเปลี่ยนกับแสดงความคิดเห็นและมีการถกเถียงกันเพื่อหาทางออกประเทศ โดยในบางช่วงบางตอนได้กล่าวถึงผู้นำเหล่าทัพที่ไม่แข็งแกร่งพออย่างที่ปรารถนา และที่ผ่านมาก็มีพวกทหารแตงโม มีการแบ่งรุ่นต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ เมื่อถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าทุกคนรักชาติและอยากให้เรื่องดังกล่าวจบเร็วที่สุด แต่จะทำอย่างไรนั้น เพราะว่าถ้าจบตอนนี้ก็จะเกิดความสุ่มเสี่ยง คงต้องรอเวลาที่จะให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ส่วนบางคนก็กล่าวไม่เห็นด้วย เนื่องจากต้องให้ประชาชนเป็นคนเรียกร้อง หรือต้องให้มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลล้มเหลวไม่สามารถบริหารงานได้ อย่างไรก็ตาม คลิปการประชุมดังกล่าว ยาวนานประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้มีบทสรุปของการประชุมในครั้งนี้

           ขณะเดียวกัน เว็บ siamintelligence ได้เปิดเผยรายชื่อของกลุ่มคนที่เข้าร่วมประชุมและตั้งกลุ่มรัฐบุคคล ซึ่งมีดังต่อไปนี้

ฝ่ายทหาร

 พล.อ.สายหยุด เกิดผล

          อดีต ผบ.สส. เกิด พ.ศ. 2465 ปัจจุบันอายุ 92 ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นผู้ร่วมจัดตั้ง "กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รอม.)" ในสมัยสงครามต่อต้านคอมมิวนิสต์ เมื่อ พ.ศ. 2508, ภายหลังเติบโตในสายทหารจนเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) หลังจากเกษียณอายุราชการแล้วยังมีบทบาทวิจารณ์การเมืองอยู่บ่อยครั้ง ถือเป็นทหารนักวิชาการที่มีผลงานเขียนหนังสือหลายเล่ม

          ความเคลื่อนไหวของกลุ่มอดีตนายทหารกลุ่มนี้เคยมีข่าวว่าเป็นแนวร่วมสนับสนุน "กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ" (กปท.) ที่มีบทบาทในการชุมนุมช่วงปลายปี 2556 โดยชื่อสมาชิกที่เคยมีข่าวคือ พล.อ.สายหยุด, พล.อ.วิมล, พล.อ.อ.กันต์ นอกจากนี้ยังมี พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน, พล.ต.ท. สมเกียรติ พ่วงทรัพย์, นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ, และนายสนธิ เดชานันท์ อดีตผู้ว่าราชการ จ.สงขลา อย่างไรก็ตาม พล.อ.สายหยุด ได้ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม กปท.

 พล.อ.วิมล วงศ์วานิช

          อดีต ผบ.ทบ. เกิด พ.ศ. 2477 ปัจจุบันอายุ 80 ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในสมัยรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน (ครั้งที่ 1 ในปี 2534) สมัยยังรับราชการถือเป็นรุ่นพี่ของ "ชุดปฏิบัติการพิเศษ" ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและองคมนตรี

 พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์

          อดีต ผบ.ทอ. เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศระหว่าง พ.ศ. 2535-2536 มีบทบาททางการเมืองโดยเป็นแกนนำของ นกปภ. (กลุ่มนายทหารนอกประจำการที่ภักดีต่อสถาบันฯ และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) ที่มีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงปลายปี 2556 โดย พล.อ.กันต์ เป็นหัวหน้ากลุ่ม และมีรองหัวหน้ากลุ่มคือ พล.อ.วิมล, พล.ร.อ. วิเชษฐ, พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ โดยกลุ่ม นกปภ. มีความเชื่อมโยงกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ "เสธ.อ้าย" อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม

 พล.ร.อ. วิเชษฐ การุณยวนิช

          อดีต ผบ.ทร. เป็นผู้บัญชาการทหารเรือระหว่าง พ.ศ. 2534-2536 และเคยเป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภาระหว่าง พ.ศ. 2535-2539 นอกจากนี้เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคไทยรักไทยในระบบปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่ 87 (อ้างอิง) ถือเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม นกปภ. ที่นำโดย พล.อ.กันต์

 พล.ร.อ. สุรวุฒิ มหารมณ์

          อดีต เสธ.ทร. เคยเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ และเกษียณราชการด้วยตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ

 พล.อ.อ. เทอดศักดิ์ สัจจะรักษ์

          อดีต เสธ ทอ. เป็นหนึ่งในบุคคลที่เคยมีชื่อว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่ม กปท. ถือเป็นหนึ่งในบุคคลแนวร่วม พธม. ที่บุกยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิใน พ.ศ. 2551 และยังถือเป็นจำเลยในคดีปิดล้อมสนามบินทั้งหมด 114 คนด้วย (อ้างอิง)


ฝ่ายพลเรือน

 ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์

          เกิดเมื่อ พ.ศ. 2473 ปัจจุบันอายุ 84 ปี เป็นนักกฎหมายชั้นครู จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาเอกด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยปารีส เคยเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรรมการในหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาคเอกชน สภามหาวิทยาลัยหลายแห่ง

          ศ.ดร.อมร ถือเป็นนักกฎหมายมหาชนผู้มีชื่อเสียง และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญมากคนหนึ่งของประเทศไทย

 ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ

          นักวิชาการรัฐศาสตร์ และอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เคยดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2517 และเคยร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง คือ พรรคพลังใหม่ ภายหลังถือเป็นนักวิชาการคนหนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

          ช่วงวิกฤตการเมืองไทย พ.ศ. 2548-2549 เขาเป็นผู้เปิดเกมปฏิญญาฟินแลนด์ ซึ่งภายหลังได้รับการปฏิเสธจากฝ่ายการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

 ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช

          นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่งของประเทศไทย อดีตผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

          จบปริญญาเอกทางรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เคยมีบทบาททางการเมืองโดยเป็นหนึ่งในผู้เรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2531 นอกจากนี้ยังเป็นคอลัมนิสต์ให้กับสื่อในเครือผู้จัดการมาโดยตลอด

         หลังจากเหตุการณ์วิกฤตการเมืองปี พ.ศ. 2553 ศ.ชัยอนันต์ ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ (ชุดของนายอานันท์ ปันยารชุน) ที่แต่งตั้งในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 คุณสุรพงษ์ ชัยนาม

          อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" มีศักดิ์เป็นหลานลุงของ นายดิเรก ชัยนาม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหลายสมัย

          สุรพงษ์ ชัยนาม เคยเป็นเอกอัครราชทูตของประเทศไทยประจำประเทศโปรตุเกส เวียดนาม และประเทศอื่นๆ รวม 5 ประเทศ ยังเคยเป็นอดีตอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

         มีบทบาทด้านการเมืองโดยเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ และเป็นหนึ่งในจำเลยที่ถูกฟ้องจากคดีปิดสนามบินเมื่อ พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ยังมีผลงานเขียนด้านนโยบายต่างประเทศของไทยอยู่บ่อยครั้ง

สื่อมะกัน ชี้ เฟซบุ๊ก มีส่วนกระตุ้นให้คนไทยแบ่งข้างการเมือง


  สื่อสหรัฐฯ ระบุ เฟซบุ๊ก มีส่วนกระตุ้นให้คนไทยแบ่งขั้วการเมืองมากขึ้น และส่งผลถึงขนาดผู้ที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกัน เริ่มอันเฟรนด์กัน

           วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานถึงกระแสการแสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กว่า คนไทยกำลังรวมกลุ่มกันพูดเรื่องการเมือง ที่กำลังเป็นข้อถกเถียงที่รุนแรงในปัจจุบัน และส่งผลถึงขนาดผู้ที่มีความเห็นทางการเมืองต่างกัน เริ่มมีการอันเฟรนด์กันและกัน ที่ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถมองเห็นรูป ความคิดเห็นและสถานะได้

           โดย ไมค์ ฟัสเซล ระบุว่า ความแตกแยกของสังคมไทยไม่เพียงเห็นได้บนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังเห็นได้จากบนโซเชียลมีเดียอีกด้วย โดยกรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองหลวงที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กกันอย่างแพร่หลาย จึงไม่แปลกที่จะมีการนำเรื่องการเมืองไปแสดงความเห็นกันบนโลกออนไลน์

           อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายสำนักได้ระบุตรงกันว่า ปรากฏการณ์อันเฟรนด์ดังกล่าว ไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมของการเมืองไทย เนื่องจากเมื่อผู้คนเริ่มขาดการสนทนากัน ทำให้การเมืองมีลักษณะแบ่งขั้วมากขึ้น

กนก โพสต์ขอบคุณมือปืนป๊อปคอร์น ยิงปะทะหลักสี่ ปกป้องประชาชน

กนก รัตน์วงศ์สกุล โพสต์กลอนขอบคุณมือปืนป๊อปคอร์นที่ปกป้องประชาชน จากเหตุยิงปะทะหลักสี่

          เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่เฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ของนายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรข่าวและผู้บริหารเครือเนชั่น ได้โพสต์คำกลอนขอบคุณชายชุดดำในเหตุการณ์ปะทะหลักสี่ โดยใช้ถุงข้าวโพด หรือถุงป๊อปคอร์น ปกปิดอาวุธสงครามสาดกระสุนใส่กลุ่มผู้สนับสนุนเลือกตั้ง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ดังนี้


                    "ยังไงก็สันติ อหิงสา
          ยิงถูกขามันบ้างก็ได้
          สวดอิติปิโสไว้ในใจ
          ใส่ไม่ยั้งขี้ข้าทรราช

                    พี่ ๆ ครับอารยะขัดขืน
          เขมรมีปืนพี่อย่ายิงพลาด
          โกตี๋บอกประยุทธ์จะพิฆาต
          มัจจุราชจัดการพวกเราเฉยไว้

                    ตำรวจถือปืนซุ่มยิงเห็น ๆ
          กำนันเค้นถาม "มึงยิงข้างไหน"
          นักรบป๊อบคอร์นไม่รู้กี่นาย
          ขอบคุณจากใจปกป้องประชาชน


พ่อตาขับรถไล่ยิงลูกเขยดับ สุดทนลูกสาวโดนซ้อมเป็นประจำ


พ่อตาขับรถไล่ล่าลูกเขย ก่อนกระหน่ำยิง 7 นัด ดับคารถ เนื่องจากแค้นที่ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ

          เมื่อเวลา 09.30 น. ของวานนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2557) พ.ต.อ.ภาสกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนถนนสายชุมพร-ปากน้ำ บริเวณสามแยกปากทางขึ้นจุดชมวิวเขามัทรี หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร

          เมื่อรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งอยู่กลางถนน หน้าป้ายทางขึ้นจุดชมวิวเขามัทรี พบรถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า สองตอน สีฟ้า ทะเบียน กข 2206 ชุมพร จอดอยู่ในลักษณะด้านหน้าข้างขวาของรถชนอยู่กลางคันด้านขวารถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กง 6131 ชุมพร แต่ในรถกระบะไม่พบคนขับ

          ส่วนที่ตัวรถยนต์ยาริส สีขาว พบรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน 7 นัด ที่กระจกด้านหน้า ในรถพบศพ นายธีรพงษ์ ชินลอง อายุ 37 ปี นั่งเสียชีวิตอยู่ตรงที่นั่งคนขับ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร เข้าที่แขนซ้ายและที่ลำตัวรวม 4 นัด โดยในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ตกอยู่ 7 ปลอกอีกด้วย

          ทั้งนี้ จากสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถทั้งสองคันขับแข่งกันมา พอถึงจุดเกิดเหตุรถกระบะได้ขับปาดหน้ารถเก๋ง จากนั้นคนขับรถกระบะทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายบุญชัย โยคาวจร บิดาแฟนสาวของนายธีรพงษ์ได้เดินลงมาจากรถแล้วใช้อาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร จ่อยิงนายธีรพงษ์ จำนวน 7 นัด แต่กระสุนเข้าเป้า 4 นัด เมื่อแน่ใจว่านายธีรพงษ์เสียชีวิตแล้ว นายบุญชัยจึงหลบหนีไปโดยไม่ได้นำรถไปด้วย

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุอาจมาจากความแค้นที่นายธีรพงษ์ชอบทุบตีทำร้ายแฟนสาว ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายบุญชัยอยู่เสมอ ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งติดตามจับกุมนายบุญชัยมาดำเนินคดีต่อไป

ศาลอาญาออกหมายจับ 19 แกนนำ กปปส. สั่งรายงานตัวภายใน 48 ชม.

 
ศาลอาญาออกหมายจับ 19 แกนนำ กปปส. ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งให้ไปรายงานตัวที่ ตชด.ภาค 1 ภายใน 48 ชั่วโมง

            เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำสั่งออกหมายจับ 19 แกนนำ กปปส. หรือไม่ ในเวลา 13.30 น. ภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับ แกนนำ กปปส. จำนวน 19 คน ในข้อหากระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประกอบด้วย

            1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
            2. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
            3. นายชุมพล จุลใส
            4. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
            5. นายอิสสระ สมชัย
            6. นายวิทยา แก้วภราดัย
            7. นายถาวร เสนเนียม
            8. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
            9. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
            10. นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
            11. นายนิติธร ล้ำเหลือ
            12. นายอุทัย ยอดมณี
            13. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์
            14. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
            15. นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี หรือ นายอมร อมรรัตนานนท์
            16. นายกิตติชัย ใสสะอาด
            17. นายสำราญ รอดเพชร
            18. นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
            19. นายพานสุวรรณ ณ แก้ว

            ทั้งนี้ การขอหมายจับแกนนำ กปปส. ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในครั้งนี้ เป็นการยื่นคำร้องของดีเอสไอครั้งที่ 2 หลังจากศาลอาญามีคำสั่งให้ยกคำร้องครั้งแรกในการยื่นขออนุมัติหมายจับ นายสุเทพ กับพวกแกนนำ กปปส. รวม 16 คน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งศาลเห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอ

            จากนั้น ในเวลาประมาณ 14.00 น. มีรายงานว่า ศาลอาญาได้อนุมัติให้ออกหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. รวม 19 คนแล้ว ฐานกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยสั่งให้ทั้งหมดไปรายงานตัวที่ ตชด.ภาค 1 ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนี้ และห้ามเจ้าหน้าที่นำหมายจับออกเผยแพร่

พิธีกรสาวงานตรุษจีนปากน้ำโพ ขอโทษด่านักท่องเที่ยว วอนให้อภัย


 พิธีกรสาวขอโทษ กรณีด่านักท่องเที่ยวงานตรุษจีนปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ วอนให้อภัย รับทำไปเพราะประสบการณ์น้อย ขาดสติ

            จากกรณีที่ นายเตชะ ทับทอง ที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และผู้ก่อตั้งเครือข่ายรักดี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตำหนิพิธีกรหญิงในงานเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้ใช้คำพูดหยาบคายไล่นักท่องเที่ยว รวมถึงนักข่าวและช่างภาพให้หลบไปห่าง ๆ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น

            ล่าสุด วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ต้นสังกัดจัดหาพิธีกรที่ได้ว่าจ้างให้ น.ส.สิ มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรในงานดังกล่าว ชี้แจงว่า งานเทศกาลตรุษจีนของปากน้ำโพทุกปี ทางคณะผู้จัดงานจะว่าจ้างพิธีกรจาก จ.พิษณุโลก มาทำหน้าที่ เพราะพิธีกรที่เป็นคนนครสวรรค์นั้นไม่เพียงพอ

            ขณะที่ น.ส.สิ พิธีกรสาวรายนี้ แถลงขอโทษประชาชนปากน้ำโพและนักท่องเที่ยว โดยยอมรับด้วยน้ำตาคลอว่า ตนต้องขอโทษมาก ๆ ประสบการณ์ยังน้อย จึงไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ได้ บทเรียนที่ได้ในวันนี้เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดในชีวิต นั่นคือ สติและหน้าที่ ขอความกรุณาของพ่อแม่พี่น้อง จ.นครสวรรค์ ให้อภัยในการทำสิ่งที่ไม่คิด และกิริยาที่ไม่สมควร นอกจากนี้ น.ส.สิ ยังได้ไปจุดธูปขอขมาที่ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ด้วยเช่นกัน


วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สถิติเลือกตั้ง 2557 คนใช้สิทธิ์ 68 จังหวัด โหวตโนพุ่ง 16.57%

 
 เปิดสถิติเลือกตั้ง 2557 แบบแบ่งเขต มีคนมาใช้สิทธิ์ 46.79% โหวตโนพุ่ง 16.57% เชียงใหม่แชมป์ออกมาเลือกตั้งมากสุด 75.05% ขณะที่ กทม. มีคนออกมาเลือกตั้งแค่ 16.78%

            เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ใน 68 จังหวัด ไม่รวม 9 จังหวัดภาคใต้ที่มีปัญหา คือ กระบี่ ชุมพร ตรัง พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สงขลา สุราษฎร์ธานี และบางเขตของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง โดยพบว่า...

             จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 43,024,042 คน

             มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 20,129,976 คน จาก คิดเป็น 46.79%

             บัตรดี จำนวน 14,368,962 ใบ คิดเป็น 71.38%

             บัตรเสีย จำนวน 2,425,673 ใบ คิดเป็น 12.05%

             โหวตโน หรือผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน จำนวน 3,335,334 ใบ คิดเป็น 16.57%

จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

             อันดับ 1 คือ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 827,808 คน คิดเป็น 75.05%
             อันดับ 2 คือ จังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 241,209 คน คิดเป็น 73.39%
             อันดับ 3 คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 104,119 คน คิดเป็น 65.21%

กรุงเทพมหานคร

             เปิดลงคะแนนได้ 6,155 หน่วย
             ไม่สามารถเปิดลงคะแนนได้ 516 หน่วย
             มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 733,196 คน คิดเป็น 16.78%
             บัตรดี 498,847 ใบ คิดเป็น 68.04%
             บัตรเสีย จำนวน 58,254 ใบ คิดเป็น 7.95%
             โหวตโน หรือผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน จำนวน 176,094 ใบ คิดเป็น 24.02%

หากจำแนกสถิติออกเป็นรายภาค จะพบว่า...

             ภาคเหนือ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 56.02% ไม่ประสงค์ลงคะแนน 21.18%
             ภาคกลาง มีผู้มาใช้สิทธิ์ 41.04% ไม่ประสงค์ลงคะแนน 23.31%
             ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ใช้สิทธิ์ 55.31% ไม่ประสงค์ลงคะแนน 9.56%
             ภาคใต้ มีผู้ใช้สิทธิ์ 36.75% ไม่ประสงค์ลงคะแนน 19.72% (ไม่รวม 9 จังหวัดภาคใต้)
       
            ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สถิติดังกล่าวหากเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 จะพบว่า ปีนี้มีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนสูงกว่า โดยเมื่อปี 2554 มีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต เพียง 2.72% ขณะที่ปี 2557 มีถึง 16.57% ส่วนบัตรเสีย เมื่อปี 2554 มี 4.90% แต่ปี 2557 มีบัตรเสีย 12.05%