องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน หรือ รีพอร์ทเตอร์ วิทเอ๊าท์ บอร์เดอร์ (Reporters without Borders) เผยแพร่รายงานประจำปี 2012 ระบุเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับนักข่าว โดยมียอดตัวเลขนักข่าวผู้เสียชีวิตในขณะปฏิบัติงาน 88 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 66 คน ในขณะที่ นักข่าวพลเมืองและพลเมืองเน็ต เสียชีวิตทั้งหมด 47 คน จากในปีที่แล้ว 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย และการเป็นเป้าของกลุ่มติดอาวุธและรัฐบาลโซมาเลีย ปากีสถาน รวมถึงในเม็กซิโก และบราซิล ส่วนประเด็นที่ทำให้ชีวิตอาชีพของสื่อมวลชนสุ่มเสี่ยงมากที่สุด คือ รายงานข่าวปัญหาคอร์รัปชั่น การค้ายาเสพติด และกลุ่มอาชญากร โดย คริสตอฟ เดลัวร์ เลชาธิการองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน กล่าวว่า ที่มาของสถิติจำนวนนักข่าวที่เสียชีวิต ในปี 2555 ส่วนใหญ่มาจากสงครามในซีเรีย ความวุ่นวายในโซมาเลีย และความรุนแรงในปากีสถาน ทั้งนี้ สถิติดังกล่าว นับว่าเป็นสถิติที่การเสียชีวิตของนักข่าวทั่วโลกที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนได้จัดทำรายงานประจำปี เมื่อปี 2538 โดยในปี 2554 มีนักข่าวเสียชีวิตในขณะปฏิบัติงานทั่วโลก 67 คน ในปี 2553 มี 58 คน และในปี 2552 มี 75 คน รายงานดังกล่าว ระบุว่า จำนวนนักข่าวผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 โดยจากในปี 2554 มีนักข่าวเสียชีวิต 66 คน ส่วนในปี 2555 มี 88 คน โดยในซีเรีย มีนักข่าวเสียชีวิตจากการรายงานข่าวอย่างน้อย 17 คน และนักข่าวพลเมืองเสียชีวิต 44 คน จากการเป็นเป้าของรัฐบาลซีเรีย รวมถึงการตกเป็นเป้าของกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งพร้อมจะมองนักข่าวว่าเป็น สายลับ หากไม่รายงานตามมุมมองของพวกเขา และปี 2555 ยังเป็นปีที่นักข่าวถูกจำคุกมากที่สุด โดยเฉพาะในตุรกี และจีน มีนักข่าวทั้งหมด 193 คนทั่วโลกถูกจำคุกจากการรายงานข่าว ในขณะที่ มีพลเมืองเน็ตถูกจำคุกอย่างน้อย 130 คน จากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร โดยในตุรกี นับว่าเป็นคุกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักข่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น