วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

จับไอ้หื่นแต่งตำรวจ อ้างตรวจค้นยา ลวงเด็ก 13 ต่อหน้าแม่ ไปข่มขืน


จับไอ้หื่นแต่งตำรวจ หลอกแม่-ลูกไปโรงพักตรวจหาสารเสพติด บังคับเด็กสาววัย 13 ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ก่อนเร่งเครื่องหนี พาไปข่มขืน

            วานนี้ (21 เมษายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้แถลงข่าวการจับกุม นายอำนวย บัวเกา อายุ 28 ปี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า นาโน ทะเบียน ฬรก 206 กทม. ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุ 13 ปี, แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น, พาผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน

            สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงตีสามของวันที่ 21 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจาก นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ว่า ลูกสาวอายุ 13 ปี ถูกชายแต่งกายคล้ายตำรวจ อ้างตนว่าเป็นตำรวจและขอค้นหายาเสพติด ก่อนที่จะบังคับให้ลูกสาวซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แล้วขับออกไป

            โดยนางแก้ว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับลูกสาว 2 คน อายุ 13 ปี และ 11 ปี มาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ บริเวณหน้าร้านบุญถาวร ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ระหว่างนั้น ก็มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจขี่รถจักรยานยนต์มาปาดหน้า และบังคับให้ตนจอดรถเพื่อขอตรวจค้นยาเสพติด ซึ่งตนก็ยอมให้ตรวจ แต่ก็ไม่พบอะไร แต่ชายคนดังกล่าวบอกให้ตนไปตรวจสอบสารเสพติดที่โรงพัก โดยบังคับให้ลูกสาววัย 13 ของตน ซ้อนจักรยานยนต์ของเขา ส่วนตนกับลูกอีกคนหนึ่งก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปติด ๆ แต่จู่ ๆ ชายคนดังกล่าวก็เร่งเครื่อง และขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

            ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง ก็ได้ตรวจสอบสัญญาณ GPS จากโทรศัพท์มือถือของเด็กหญิงคนดังกล่าว และพบสัญญาณว่าอยู่ที่บ้านเช่า ซ.ทรายทอง 14 ต.ท่าทราย จึงนำกำลังเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบเด็กหญิงผู้โชคร้าย กำลังนั่งร้องไห้อยู่ในห้อง ส่วนนายอำนวยอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม นายอำนวยก็รับสารภาพว่า ตนเองได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กจริง และจากการตรวจสอบประวัติของนายอำนวย ทราบว่า เพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ออกมาเมื่อปลายปี 2555

            อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฝากเตือนว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้อ้างตัวเป็นตำรวจ ทำให้ตำรวจเสื่อมเสียชื่อเสียง และหากประชาชนพบชายที่น่าสงสัย อ้างตัวเป็นตำรวจ ให้ขอดูบัตรประจำตัวก่อนทุกครั้ง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น