วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

เริ่มแล้ว! ไทยแจงศาลโลก ชี้ คำร้องกัมพูชารับฟังไม่ได้

  

เริ่มแล้ว! วีรชัย พลาศรัย ขึ้นในการศาลโลก ชี้ เขมรร้องขอให้ตีความโดยมิชอบ เป็นการขัดข้อบังคับ ยัน เขมรยอมรับพื้นที่นี้มากว่า 50 ปี 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 เมษายน นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนฝ่ายไทยสู้คดีปราสาทพระวิหาร ได้ขึ้นให้การทางวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก เป็นคนแรกของฝ่ายไทย โดยระบุว่า คำร้องขอของกัมพูชานั้นรับฟังไม่ได้ เพราะขัดต่อข้อบังคับ และเป็นการกระทำโดยมิชอบ พร้อมกับระบุด้วยว่า ทางกัมพูชาได้ยอมรับว่า ดินแดนรอบปราสาทพระวิหารนั้นเป็นของไทยมาตลอด 50 ปี เนื่องจากไม่เคยทักท้วงใด ๆ 


ไทย เตรียมยก 4 ยุทธศาสตร์ สู้คดีเขาพระวิหาร

           ไทย ชู 4 ยุทธศาสตร์ ชี้แจงต่อศาลโลกบ่ายวันนี้ (17 เมษายน) สู้คดีเขาพระวิหาร มั่นใจ ศาลไม่มีอำนาจตัดสินเขตแดน ด้านทีมสู้คดีเตรียมปรับเนื้อหาบางส่วนให้มีน้ำหนักมากกว่าที่กัมพูชาพูด

           เมื่อวันที่ 16 เมษายน นายไกรรวี ศิริกุล รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการต่อสู้คดีเขาพระวิหารว่า คณะดำเนินด้านกฎหมายต่อสู้คดีของไทย จะใช้ 4 ยุทธศาสตร์ ในการชี้แจงต่อศาลโลกในวันที่ 17 เมษายนนี้ ประกอบด้วย

           1. พยายามชี้ให้ศาลโลกเห็นว่า ศาลโลกไม่มีอำนาจพิจารณา และกัมพูชาไม่มีอำนาจฟ้อง

           2. กัมพูชาไม่สิทธิยื่นศาลเพื่อขอตีความคำตัดสินคดีเดิมในรูปแบบการอุทธรณ์ที่ซ่อนมาในรูปของคำขอตีความ ซึ่งขัดต่อธรรมนูญของศาลโลกและขัดต่อแนวคำพิพากษาเดิม ในคดีปี 2505

           3. ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกครบถ้วน และไทยและกัมพูชา ไม่มีข้อพิพาทเรื่องการตีความคำพิพากษา

           และ 4. คำตัดสินเมื่อปี 2505 ศาลได้กล่าวถึงอธิปไตยเหนือตัวปราสาทพระวิหาร โดยไม่ได้ระบุถึงเส้นเขตแดน ดังนั้น พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่กัมพูชาเรียกร้องในปัจจุบัน ไม่ใช่บริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร 


           ทั้งนี้ มั่นใจว่า 4 ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะสามารถหักล้างข้อโต้แย้งของฝ่ายกัมพูชาได้ เพราะไทยจะพยายามชี้ว่า ศาลโลกไม่มีอำนาจพิจารณาและไม่อาจรับคำร้องของกัมพูชาได้ และถ้าศาลเห็นว่าศาลมีอำนาจรับคำขอได้ ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องตีความ เพราะศาลปฏิเสธการตีความเรื่องเขตแดนมาตั้งแต่คำพิพากษาเดิม หากศาลโลกมีอำนาจในการกำหนดเส้นเขตแดนก็คงตัดสินไปตั้งแต่ปี 2505 แล้ว ไม่ปล่อยให้ผ่านมาเนิ่นนานเช่นนี้


           นอกจากนี้ นายไกรรวี ยังระบุด้วยว่า ไทยมีหลักฐานพร้อมที่จะยืนยันว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เหตุใดกัมพูชาไม่เคยท้วงติงเรื่องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเลย แต่ปัจจุบันกลับมายื่นเรื่องให้ศาลโลกตีความ นั่นเพราะกัมพูชาต้องการจะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งมีพื้นที่อนุรักษ์กินเข้ามาในดินแดนไทยจำนวนมาก

           ด้าน นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะเผยแพร่ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ให้สัมภาษณ์จากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่า หลังจากได้ฟังการชี้แจงทางวาจาจากกัมพูชาแล้ว ก็พบว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ไทยประเมินไว้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่กัมพูชาขยายเพิ่มเติม ดังนั้น ทางทีมก็จะได้ปรับเนื้อหาบางประเด็นเพื่อให้เข้ากับเนื้อหาที่ฝ่ายกัมพูชาพูด เพื่อให้มีน้ำหนักที่ดีกว่า 

           ในส่วนของคณะล่ามที่แปลการชี้แจงทางวาจาระหว่างการถ่ายทอดสดนั้น นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร ระบุว่า ต้องขออภัยที่มีความขลุกขลักบางส่วนในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา แต่ในวันที่ 17 เมษายนนี้ ได้ปรับปรุงแก้ไขและให้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม เพื่อให้ล่ามสามารถถ่ายทอดได้ดีขึ้น
           ขณะที่ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ก็ได้กล่าวก่อนขึ้นชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลก ว่า สิ่งที่กัมพูชาขึ้นชี้แจงไปเมื่อวันที่ 15 เมษายนนั้นส่วนใหญ่อยู่ในข้อเขียน มีเรื่องใหม่น้อยมาก คือมีเพียงแค่ 2 ประเด็นเท่านั้น คือ 

           1. เรื่องแผนที่ที่นอกเหนือจากแผนที่ภาคผนวก 1 หรือแผนที่ 1 : 200,000 ซึ่งเป็นผนวกคำฟ้องเมื่อปี 2505 แต่ไม่ใช่ผนวกคำพิพากษา ทั้งนี้ กัมพูชาได้ยึดแผนที่อันเดียวมาตลอด แต่เขาบอกว่ามีแผนที่อื่น ๆ อีก ซึ่งในการพิจารณาคดีเก่ามีการนำแผนที่มาใช้อ้างอิง 60 ฉบับ และศาลโลกได้นำมาผลิตแนบเข้ามาในประมวลคดี 6 ฉบับ

           2. เรื่องข้อเท็จจริงหลังคำพิพากษา คือพฤติกรรมของคู่คดีจากปี 2505 ถึงปัจจุบัน 

           ทั้งนี้ นายวีรชัย ยังบอกด้วยว่า ทางไทยเตรียมจะนำเสนอแผนที่หลายฉบับต่อศาลโลก ซึ่งนั่นก็ทำให้กัมพูชากล่าวต่อศาลโลกว่า ไม่เข้าใจว่าไทยต้องมาเสนอเอกสารอะไรมากมาย เป็นการไม่เคารพศาลโลก แต่เราก็เตรียมจะโต้แย้งเขาในวันนี้ โดยไม่ได้ใช้เหตุผลเรื่องแผนที่เพียงอย่างเดียว ยังจะมีประเด็นอื่น ๆ ด้วย

           นายวีรชัย กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 17 เมษายน ตนจะขึ้นพูดเป็นคนแรก ตามด้วย ศ.โดนัล เอ็ม แม็คเรย์ และ น.ส.อลินา มิรอง ซึ่ง น.ส.มิรอง นี้ จะพูดเรื่องแผนที่ เพราะเป็นผู้ที่ทำงานเรื่องแผนที่โดยเฉพาะกว่า 60 ฉบับ ตามด้วย ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด และสุดท้ายคือ ศ.แปลเล่ต์ พร้อมยืนยันว่าจะต่อสู้เต็มที่ และสนุกแน่

           สำหรับกำหนดการที่ไทยจะขึ้นแถลงต่อศาลโลกวันนี้นั้น รอบแรกจะมีขึ้นในเวลา 15.00-18.00 น. และจะพัก 2 ชั่วโมง ก่อนจะขึ้นชี้แจงเป็นรอบที่ 2 ในเวลา 20.00-21.30 น.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น