วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

พบศพนักธุรกิจฮังการีถูกฆ่าโบกปูนที่เกาะสมุย นานนับปี


นักสืบเอกชนฮังการีตามแกะรอยจนพบศพนักธุรกิจฮังการี ถูกเพื่อนฆ่าโบกปูนฝังใต้ถุนคฤหาสน์หรูที่เกาะสมุย ตั้งแต่ปี 54 หลังขัดแย้งกันรุนแรง
            เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุพบศพ นายชาปาย ลาสโส อายุ 37 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับมหาเศรษฐี ชาวฮังการี ที่ถูกแก๊งมาเฟียฮังการีอุ้มหายตัวไปจากสนามบินเกาะสมุย เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 ถูกฝังดินอยู่ในคฤหาสน์หรูบนเนินเขาเฉวง หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงรุดไปตรวจสอบ

            โดยที่เกิดเหตุพบ นายบู๊ดด้า ผู้ดูแลบ้านอายุ 38 ปี สัญชาติฮังการี อยู่กับนักสืบเอกชนชาติเดียวกัน ที่บริเวณใต้ถุนบ้านซึ่งเป็นห้องเก็บของ พบว่าด้านบนถูกเทคอนกรีตทับด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ขุดลงไปลึก 4 เมตร ก็พบซากโครงกระดูกถูกดินฝังกลบอยู่ จึงนำขึ้นมาให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์จากโรงพยาบาลเกาะสมุยตรวจสอบ

            ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า การพบศพนักธุรกิจชาวฮังการีในครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนักสืบเอกชนจากประเทศฮังการี ว่า ได้รับการว่าจ้างจากครอบครัว นายชาปาย ลาสโส ให้ออกตามหา หลังถูกอุ้มหายตัวไปจากสนามบินเกาะสมุย ตั้งแต่ปี 2554 ทั้งนี้ นักสืบเอกชนได้ร่วมกับตำรวจฮังการีออกสืบสวน จนพบผู้ต้องสงสัยชื่อ นายมาต้า ไม่ทราบนามสกุล เคยร่วมงานกับ นายชาปาย จึงควบคุมตัวมาสอบสวน จนนายมาต้ายอมรับสารภาพและเขียนแผนที่ให้นักสืบเอกชนเดินทางมายังเกาะสมุย เพื่อขุดซากโครงกระดูกดังกล่าว

            จากข้อมูลของนักสืบเอกชนทราบว่า นายชาปายมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บนเกาะสมุย โดยมีนายเดวิด โมเช่ และนายมาต้าร่วมด้วย แต่เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จนทำให้ นายเดวิด โมเช่ และนายมาต้าวางแผนฆ่า ด้วยการจ้างคนงานมาขุดหลุมบริเวณห้องเก็บของใต้ถุนบ้านเพื่อฝังนายชาปาย จากนั้นได้ลวงนายชาปายเดินทางมาบ้านหลังนี้เพื่อตกลงธุรกิจกัน ก่อนที่นายเดวิด โมเช่ จะใช้ของแข็งฟาดเข้าศีรษะนายชาปายอย่างแรงจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้น นายเดวิด โมเช่ กับ นายมาต้า ยังช่วยกันลากศพโยนลงหลุม แล้วเทปูนปิดทับทำเป็นพื้นห้องเก็บของ ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งนายเดวิด โมเช่ ถูกตำรวจไทยจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพฯ ส่วนนายมาต้าหลบหนีกลับประเทศฮังการี กระทั่งถูกจับกุมตัวได้เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

            อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำซากโครงกระดูกส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจยืนยันบุคคลอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น