สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลียังตึงเครียด สหรัฐฯ เตือนเกาหลีเหนือล้ำเส้นอันตรายมากไปแล้ว พร้อมยกระดับการเตือนภัยเกาะกวม-เกาหลีใต้ หลังคาดเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธภายในสัปดาห์นี้
วันนี้ (11 เมษายน 2556) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนเกาหลีเหนือว่า กำลังจะล้ำเส้นอันตรายมากขึ้นทุกขณะแล้ว หลังหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้รายงานตรงกันว่า ฝั่งเหนือเตรียมยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูก จากฐานยิงทางตะวันออกในเร็ววันนี้ ทำให้สถานการณ์ขณะนี้เป็นไปอย่างตึงเครียดและอึมครึมเป็นอย่างยิ่ง
โดยนายชัค ฮาเกล รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) แถลงร่วมกับพลเอกมาร์ติน เด็มป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ว่า ทหารทุกเหล่าทัพมีความพร้อมขั้นสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงประเทศพันธมิตรอย่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม หนทางเดียวที่จะสามารถหยุดยั้งความรุนแรงนี้ได้ ก็คือ รัฐบาลเปียงยางต้องยอมลดทิฐิ และหันหน้าเข้าสู่กระบวนการเจรจาในระดับสากลเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น สหรัฐฯ เชื่อว่า นานาชาติจะพร้อมกันอ้าแขนรับและให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนืออย่างเต็มที่แน่นอน
ทั้งนี้ สำหรับข่าวการข่มขู่ยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดนี้ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกดดันว่า อาจเป็นการโจมตีโดยไม่บอกกล่าวและเกิดขึ้นได้ทุกเวลาภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า อาจจะเป็นวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 101 ของนายคิมอิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ ขณะที่อีกกระแสหนึ่งคาดว่าอาจจะเป็นวันที่ 12 เมษายนนี้ ซึ่งตรงกับวันที่นายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายแอนเดอร์ส ฟ็อก ราสมุซเซ่น เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงโซลพอดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ ได้ยกระดับการเตือนภัยเกาะกวมเป็นระดับสีเหลืองซึ่งเป็นการเตือนภัยคุกคามระดับปานกลางของระบบการเตือนภัยแบบไฟจราจร ซึ่งประกอบด้วยระดับสีเขียว สีเหลือง และสีแดง ทั้งนี้ทางการจะยังคงปฏิบัติงานตามปกติ โดยมีหน่วยงานของทางการเข้าร่วมการเตรียมพร้อมและวางแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ทางการจะยังคงปฏิบัติงานตามปกติ โดยมีหน่วยงานของทางการเข้าร่วมการเตรียมพร้อมและวางแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบระบบเตือนภัยฉุกเฉินเมื่อเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (07.00 น. ตามเวลาไทย) โดยมีการเปิดเสียงไซเรนทั่วเกาะและขัดจังหวะการแพร่ภาพตามปกติของสถานีโทรทัศน์และวิทยุเพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชน รวมถึงแจกจ่ายเอกสารความรู้ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับประชาชนในการปกป้องครอบครัวของพวกเขา รวมทั้งการทำให้ประตูและหน้าต่างต้านทานแรงระเบิดได้ด้วยการใช้พลาสติกและเทปเผื่อในกรณีฉุกเฉิน
ขณะที่ทางฟากของประเทศเกาหลีใต้ก็ได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง (วอทช์คอน) จากเดิมที่อันดับ 3 เป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 5 อันดับ ซึ่งหมายความว่า สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นภัยคุกคามร้ายแรงถึงชีวิตจนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้กองทัพเกาหลีใต้ได้ส่งหน่วยรบพิเศษตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน และพร้อมตอบโต้ทันทีหากมีการยิงต่อสู้ขึ้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น