เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีที่นายปริญญา ธรรมวัฒนะ เจ้าของตลาดยิ่งเจริญ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.บุกค้นบริษัท เก้าไว ในตลาดยิ่งเจริญว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคม 2555 นางนฤมล มังกรพานิชย์ น้องสาวนายปริญญา ได้เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ว่าบริษัทที่นายปริญญาและพวกรวม 3 คน บริหารมีความไม่โปร่งใส ตาม พ.ร.บ.หุ้นส่วนบริษัท ทำให้เกิดมูลค่าความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท จากนั้นทางกองปราบปรามได้เสนอไปยังกองบัญชาการสอบสวนกลาง กระทั่งมีการแต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวน โดยมีตนเป็นหัวหน้า นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมด้วย
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวอีกว่า ต่อมาทางคณะพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานกระทั่งขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญา ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าวในตลาดยิ่งเจริญ จำนวน 4 จุด พร้อมทำการยึดเอกสารต่างๆ มาตรวจสอบจำนวน 20 กว่ากล่อง คอมพิวเตอร์ 3-4 เครื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ถูกกล่าวหาดูและให้เซ็นรับทราบด้วย ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดเราปิดผนึกไว้อย่างดี และไม่ได้ถ่ายเอกสารหรือให้ฝ่ายผู้ร้องถ่ายภาพแต่อย่างใด แต่ได้นัดให้ทั้งสองฝ่ายมาทำการเปิดเอกสารทั้งหมด ที่กองปราบปรามในช่วงบ่ายวันที่ 15 มกราคม แต่ทางนายปริญญาไม่ยอมเดินทางมาที่กองปราบฯ แต่กลับไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ระงับเรื่องไว้ ซึ่งตนก็ได้ยุติการเปิดกล่องเอกสารหลักฐานไว้ก่อน พร้อมทั้งเสนอไปยัง บช.ก.ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร นอกจากนี้ ได้เสนอให้ ผบช.ก.แต่งตั้งพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีหน่วยงานที่เป็นกลาง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี จากกระทรวงการคลัง มาร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดกล่องเอกสารมาตรวจสอบได้ภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ หากทางผู้ถูกร้องมีหลักฐาน ก็ขอให้นำมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนได้เลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใคร
"ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กลั่นแกล้ง เราทำไปตามหน้าที่และทำด้วยความเป็นกลาง เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์ ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งศาลอนุมัติหมายค้นบริษัทดังกล่าว ส่วนกรณีที่ผู้ถูกร้องบอกว่า เราใช้กำลังเจ้าหน้าที่มากเกินกว่าเหตุและมีการทำลายทรัพย์สินบริษัทนั้น ขอยืนยันว่าจุดที่ค้นมีทั้งหมด 4 จุด จึงต้องใช้กำลังมากเป็นพิเศษ และก็ไม่ได้มีการทำลายทรัพย์สินของบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งในวันตรวจค้น ทางทนายความของบริษัทก็ได้บันทึกภาพไว้ด้วย ส่วนหากฝ่ายนายปริญญาจะร้องขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุดที่ปฏิบัติการและเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ตนก็ยินดี เพราะว่าเราทำในรูปคณะทำงาน มีการแต่งตั้งโดย ผบช.ก.ชัดเจน และมีหลายหน่วยงานร่วมด้วย ซึ่งเราให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด" รอง ผบก.ป.กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น