วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ก่อแก้ว ขอประกันตัวรอบ 3 ยันสำนึก แต่ไม่ขอโทษตุลาการ




เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้ไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการหรือ ปนช. จำเลยที่ 5 คดีร่วมกันก่อการร้าย หลังจากเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายก่อแก้ว เนื่องจากเห็นว่า นายก่อแก้วกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขนาดที่อาจทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยต่อบ้านเมือง และไม่สำนึกในการกระทำ ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม ทนายความของนายก่อแก้ว ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายก่อแก้วต่อศาลอีกครั้ง โดยศาลนัดไต่สวนพยานปากนายก่อแก้ววันนี้

            ทั้งนี้ นายก่อแก้ว ได้เบิกความสรุปว่า ที่ผ่านมาศาลเห็นว่า ตนไม่ได้สำนึกในการกระทำผิด แต่จริง ๆ แล้ว ตนให้ความเคารพในดุลยพินิจของศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งเพิกถอนประกันดังจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาได้ใช้สิทธิ์ยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราวเป็นการยื่นแสดงเหตุผล ไม่มีเจตนาโต้แย้งดุลยพินิจของศาล และตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2555 ถึง 29 เมษายน 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับเอกสิทธิ์การเป็น ส.ส. ก็ได้ตระหนักถือคำสั่งศาลที่เพิกถอนการประกันตนเพียงคนเดียว ทั้งยังได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ให้กับจำเลยคนอื่น ๆ ด้วย 

            อย่างไรก็ตาม นายก่อแก้ว เบิกความต่อว่า แต่ตนไม่สามารถที่จะกล่าวคำขอโทษต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งความดำเนินคดีตนไว้ หากกล่าวขอโทษ เช่นเดียวกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอก จิก จำเลยที่ 7  ก็จะเป็นเครื่องผูกมัดว่าได้กระทำผิดจริง ที่ผ่านมาได้แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หากขอโทษ จะไม่สามารถมองหน้าเพื่อนสมาชิกได้และขัดต่อจุดยืนทางการเมือง

            นายก่อแก้ว เบิกความด้วยว่า ตนได้ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด เป็นพ่อของลูกเล็ก ๆ การกักขังไว้เป็นการเสียโอกาสในการช่วยเหลือสังคมและทำหน้าที่ของ ส.ส. อีกทั้งเป็นภาระของกรมราชทัณฑ์ พร้อมยืนยันด้วยว่า จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลทุกประการ หากการเคลื่อนไหวของนปช. ขัดต่อเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวตนจะหลีกเลี่ยง  จึงขอให้ศาลเมตตาปล่อยชั่วคราวด้วย ทั้งนี้ ศาลจึงนัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้นายก่อแก้วปล่อยชั่วคราวหรือไม่วันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น