(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านขายล็อตเตอรี่ "โชคอนันต์" เลขที่ 99/15 ถนนอุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังทราบว่าเจ้าของร้านถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 16 พฤศจิกายน จำนวน 42 ล้านบาท เมื่อไปถึงพบ นางนันทา ฟักขาว อายุ 51 ปี เจ้าของร้านยืนขายล็อตเตอรี่อยู่หน้าร้านกับลูกชาย และเปิดเผยว่า ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 จริง และได้นำล็อตเตอรี่ไปขึ้นรางวัลแล้ว แต่ได้ถ่ายเอกสารสีเอาไว้
นางนันทา นำเอกสารสีล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 16 พฤศจิกายน หมายเลข 639500 จำนวน 8 คู่ออกมาโชว์ โดยเป็นสลากการกุศล 5 คู่ๆละ 6 ล้านบาท เป็นเงิน 30 ล้านบาท และสลากกินแบ่งรัฐบาล 3 คู่ๆละ 4 ล้านบาท เป็นเงิน 12 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 42 ล้านบาท และเปิดเผยว่า ขายล็อตเตอรี่มากว่า 10 ปี โดยจะรับมาขายงวดละ 40-50 เล่ม ราคากว่า 6-7 แสนบาท บางครั้งก็ขายหมดเกลี้ยงแผง แต่บางครั้งก็เหลือมากบ้างน้อยบ้าง
นางนันทา เปิดเผยต่อว่า งวดประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นช่วงเทศกาลทอดกฐิน และชาวบ้านเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้ขายล็อตเตอรี่ได้น้อย และน้อยกว่าทุกปีในช่วงนี้ จนถึงวันออกรางวัลได้เปิดแผงขายตั้งแต่เช้า ถึงบ่ายจึงได้เก็บแผง ปรากฏว่าล็อตเตอรี่บนแผงเหลือราว 4 แสนบาท วางแผนไปกู้ยืมเงินจากธนาคารอีก 1 ล้านบาท ทั้งที่ตนเป็นหนี้อยู่แล้ว 10 ล้านบาท จนกระทั่งถึงเวลาหวยออก จึงรู้ว่าตนเองถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 8 คู่ มูลค่า 42 ล้านบาท และยังถูกรางวัลใกล้เคียงอีก 8 แสนบาท
"ครอบครัวดีใจที่สุดแต่ไม่กล้าบอกใคร เช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน ได้เดินทางไปขึ้นรางวัลที่กองสลาก กทม. วันนี้มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ จึงกล้าเปิดเผย โดยยืนยันว่าจะยึดอาชีพขายล็อตเตอรี่ต่อไป ส่วนการฉลองความโชคดีในครั้งนี้ ตามปกติจะทำบุญตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ในเช้าวันที่ 23 พฤศจิกายน ก็จะทำบุญเลี้ยงพระที่ร้าน ส่วนตอนเย็นจะจัดเลี้ยงโต๊ะจีนลูกค้าประจำ 15 โต๊ะ และมีหมอลำซิ่งมาแสดงให้ดู 3 คืน ตามที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 จะจ้างหมอลำซิ่งมาแสดง 3 คืน " นางนันทนาระบุ
นางนันทา นำเอกสารสีล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 16 พฤศจิกายน หมายเลข 639500 จำนวน 8 คู่ออกมาโชว์ โดยเป็นสลากการกุศล 5 คู่ๆละ 6 ล้านบาท เป็นเงิน 30 ล้านบาท และสลากกินแบ่งรัฐบาล 3 คู่ๆละ 4 ล้านบาท เป็นเงิน 12 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 42 ล้านบาท และเปิดเผยว่า ขายล็อตเตอรี่มากว่า 10 ปี โดยจะรับมาขายงวดละ 40-50 เล่ม ราคากว่า 6-7 แสนบาท บางครั้งก็ขายหมดเกลี้ยงแผง แต่บางครั้งก็เหลือมากบ้างน้อยบ้าง
นางนันทา เปิดเผยต่อว่า งวดประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นช่วงเทศกาลทอดกฐิน และชาวบ้านเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้ขายล็อตเตอรี่ได้น้อย และน้อยกว่าทุกปีในช่วงนี้ จนถึงวันออกรางวัลได้เปิดแผงขายตั้งแต่เช้า ถึงบ่ายจึงได้เก็บแผง ปรากฏว่าล็อตเตอรี่บนแผงเหลือราว 4 แสนบาท วางแผนไปกู้ยืมเงินจากธนาคารอีก 1 ล้านบาท ทั้งที่ตนเป็นหนี้อยู่แล้ว 10 ล้านบาท จนกระทั่งถึงเวลาหวยออก จึงรู้ว่าตนเองถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 8 คู่ มูลค่า 42 ล้านบาท และยังถูกรางวัลใกล้เคียงอีก 8 แสนบาท
"ครอบครัวดีใจที่สุดแต่ไม่กล้าบอกใคร เช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน ได้เดินทางไปขึ้นรางวัลที่กองสลาก กทม. วันนี้มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ จึงกล้าเปิดเผย โดยยืนยันว่าจะยึดอาชีพขายล็อตเตอรี่ต่อไป ส่วนการฉลองความโชคดีในครั้งนี้ ตามปกติจะทำบุญตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ในเช้าวันที่ 23 พฤศจิกายน ก็จะทำบุญเลี้ยงพระที่ร้าน ส่วนตอนเย็นจะจัดเลี้ยงโต๊ะจีนลูกค้าประจำ 15 โต๊ะ และมีหมอลำซิ่งมาแสดงให้ดู 3 คืน ตามที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 จะจ้างหมอลำซิ่งมาแสดง 3 คืน " นางนันทนาระบุ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น