สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานความคืบหน้าจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า ทางการสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินขับไล่หลายลำ ไปยังเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา โดยยังให้เหตุผลว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ ขณะที่เกาหลีใต้เผย พร้อมตอบโต้เกาหลีเหนือทันทีหากมีการจู่โจมใด ๆ
รายงานระบุว่า สหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินขับไล่รุ่น เอฟ-22 แร็ปเตอร์ ไปยังฐานทัพอาการสหรัฐฯ ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากเกาหลีเหนือประกาศภาวะสงครามกับเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการได้ 1 วัน ซึ่งถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจซ้อมรบ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกาหลีเหนือแสดงท่าทีก้าวร้าว และข่มขู่สหรัฐฯ อีกครั้งอย่างแน่นอน ขณะที่ประธานาธิบดีปาร์ก กึน เฮ ได้ประกาศว่า หากเกาหลีเหนือจู่โจมเมื่อไร เกาหลีใต้ก็พร้อมจะตอบโต้ทันที
อย่างไรก็ดี ล่าสุดยังไม่มีรายงานว่า เกาหลีเหนือมีการเคลื่อนไหวทางการทหารในช่วงนี้ แต่สถานการณ์ก็ยังคงอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน และไม่อาจคาดเดาท่าทีของเกาหลีเหนือได้เลย
ขณะเดียวกัน ทางด้านกระทรวงแรงงานไทย ก็ได้เตรียมแผนอพยพคนไทยในเกาหลีใต้ หลังเกาหลีเหนือประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ ด้านกระทรวงการต่างประเทศ เตือนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ชี้ยังไม่สั่งประกาศแผนอพยพ เพราะจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้เกาหลีเหนือ
วานนี้ (31 มีนาคม) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอพยพคนไทยในเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ ว่า ตนได้สั่งให้ทูตแรงงานไปสำรวจจำนวนแรงงาน รวมถึงคนไทยที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งติดกับเกาหลีเหนือแล้วว่ามีจำนวนเท่าใด พร้อมทั้งได้ชี้แจงถึงแผนการอพยพให้กับคนไทยที่อยู่ในประเทศเกาหลีใต้ทั้งหมด ทั้งแรงงาน นักเรียน นักศึกษา รวมถึงหญิงไทยที่แต่งงานกับชาวเกาหลีใต้ ประมาณ 44,000 คน และในเบื้องต้นได้กำหนดจุดอพยพไว้ 4 จุด อาทิ เมืองปูซาน และได้เตรียมความพร้อมเรื่องเครื่องบินเช่าเหมาลำ เรืออพยพไปญี่ปุ่น ด้วย
ขณะที่ นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตนยังไม่อยากให้วิตกเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ซึ่งทางกระทรวงก็ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล โดยระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในกรุงโซล หรือพื้นที่ต่าง ๆ ก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ ส่วนขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ และมีแผนอพยพที่ใช้ในการดูแลคนไทยทั่วโลก โดยจะนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ในประเทศเกาหลีเหนือนั้น มีคนไทยทำงานอยู่ 10 คน เป็นพนักงานในบริษัทเอกชน
พร้อมกันนี้ นายมนัสวี ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ยังไม่ประกาศแผนอพยพในช่วงนี้ว่า เพราะไม่อยากให้เกิดความวิตกกังวล ซึ่งหากประกาศออกไปแล้วจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับประเทศเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ ตนก็อยากให้เกาหลีเหนือยับยั้งชั่งใจ เพื่อคำนึงถึงความสันติภาพและความสงบสุขของภูมิภาคด้วย
ส่วนทางด้าน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบหมายงานให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามและคอยดูแลคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเข้าไปประสานงานในแต่ละพื้นที่ แต่ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น