กระทรวงการคลัง เล็งขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อหารายได้ในการใช้หนี้เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ชี้ภายใน 7 ปี ปรับขึ้นแน่! หวังเพิ่มรายได้รัฐอีกปีละ 5 หมื่นล้านบาท
สำนักงานเศรษฐกิจและกระทรวงการคลัง (สคค.) เตรียมเสนอปรับโครงสร้างภาษี เพื่อรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและหารายได้ให้กับภาครัฐ เพื่อใช้พัฒนาประเทศและชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท
โดย นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การลงทุนในระบบคมนาคมขนส่งของประเทศ จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 1% ต่อปี และจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มเฉลี่ย 4 หมื่นล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ รัฐบาลประเมินไว้ว่า เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทนั้น จะชำระดอกเบี้ยในช่วง 10 ปีแรก และจะทยอยชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ตั้งแต่ปีที่ 11 เป็นต้นไป จนถึงปีที่ 50 จะชำระหนี้ครบทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 5.16 ล้านล้านบาท ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า จะมีการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือ 23% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเอกชนไทย ให้นำกำไรไปลงทุนต่อได้ ต่างชาติก็จะอยากมาลงทุนในไทยมากขึ้น ทำให้ฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลก็จะกว้างขึ้น และทำรายได้มากขึ้นในระยะกลางและระยะยาว
ขณะที่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีความชัดเจนว่าถึงจุดหนึ่งก็ต้องปรับเพิ่มขึ้น ถึงแม้ปัจจุบันจะต้องคงอัตราไว้ที่ 7% แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดี และคนพร้อมจะเสียภาษีมากขึ้น ก็จะต้องปรับเพิ่มอัตราภาษีอีก 1% เพราะจะทำให้รายได้ของรัฐเพิ่มขึ้นอีก 5 หมื่นบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีจะไม่คงอยู่ที่ 7% ไปจนถึง 7 ปีอย่างแน่นอน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น