เวลา 19.00 น.วันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุกลุ่มนักเรียนหญิงของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านท้ายบ้านในสมุทรปราการ มีการคล้ายผีเข้าพร้อมกันถึง 8 คน ขณะที่นักเรียนและเพื่อนกลุ่มนี้กว่า 20 คน ใช้สวนหย่อมของสวนสาธารณะชื่อว่า ป้อมปีกกา ซึ่งอยู่บริเวณหัวถนนท้ายบ้าน เป็นที่ซ้อมเต้นเชียร์ลีดเดอร์ ก่อนย้ายมาซ้อมกันบริเวณลานต้านไทรซึ่งมีต้นโทรขนาดใหญ่อายุกว่า 200 ปีขึ้นอยู่ติดกับลานดังกล่าว
จากนั้นก็มีกลุ่มนักเรียนหญิงจำนวน 8 คน กรีดร้องขึ้นมาพร้อมกับมีอาการตัวสั่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพื่อนๆเห็นเข้าจึงรีบเข้ามาประคองพร้อมกับแจ้งให้อาจารย์ที่ควบคุมดูแลการซ้อมทราบ ด้วยความเชื่อว่านักเรียนกลุ่มนักเรียนหญิงทั้ง 8 คนโดนผีเข้า อาจารย์ และเพื่อนๆจึงให้กลุ่มนักเรียนหญิงทั้ง 8 คน รำถวายเป็นการขมา แต่อาการของนักเรียนกลุ่มนี้ไม่หายและกับมีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก ทางอาจารย์จึงได้นำนักเรียนจุดธูปและกล่าวขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังจากกล่าวคำขอขมาเสร็จ กลุ่มนักเรียนกลับกรีดร้องเสียงดังเพิ่มขึ้น
โดยนักเรียนหญิงคนหนึ่งร้องบอกกับอาจารย์พี่เลี้ยงว่า มีหญิงสาวแต่งกายด้วยชุดสีขาวยืนจ่องมองพวกเธออยู่ พร้อมกับบอกว่าหญิงคนดังกล่าวต้องการให้พวกเธอนำชุดไทยเกาะอกสีเขียว และชุดไทยสีแดงมาให้ แต่ทางโรงเรียนไม่มีชุดลักษณะดังกล่าวทางอาจารย์พี่เลี้ยงจึงให้เด็กนักเรียนพนมมือพร้อมกับกล่าวขอขมาและผ่อนผันว่าจะนำชุดไทยลักษณะดังกล่าวมาให้วันหลัง หลังพูดจบนักเรียนหญิงทั้ง 8 คน กลับมีอาการตกใจมากขึ้นพร้อมกับกรีดร้องและตะโกนออกมาตลอดเวลาว่า เขาไม่ออก ทางอาจารย์จึงโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลมานำตัวนักเรียนทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาตามอาการ
สอบถามทราบว่านักเรียนกลุ่มดังกล่าวได้เกิดอาการลักษณะนี้แล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเวลาเดียวกันของวานนี้ขณะที่ซ้อมเต้นอยู่ที่เดียวกัน แต่เป็นเพียงแค่ 2 คน เท่านั้น ทางอาจารย์ได้ให้จุดธูปและรำถวายเป็นการขอขมา นักเรียนทั้ง 2 ก็หายจากอาการดังกล่าวซึ่งทางอาจารย์บอกว่านักเรียนทั้ง 2 คน ที่เกิดอาการลักษณะนี้เป็นหลังจากที่กลุ่มนักเรียนได้ถอดชุดไทยที่ไปเช้ามาซ้อมเต้นไว้กับพื้น คล้ายกับว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ส่วนวันนี้ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักเรียนกลุ่มนี้ได้ซ้อมเต้นอยู่ที่สวนหย่อมใกล้กันส่วนลานต้นโทรนี้จะมีชาวบ้านมาใช้เต้นแอโรบิกกระทั่ง 19.00 น.ชาวบ้านที่มาเต้นแอโรบิกแยกย้ายกันกลับแล้ว กลุ่มนักเรียนจึงมาใช้ลานต้นโพธิ์ทำกิจกรรมต่อเพราะเป็นที่ที่ไฟสว่างที่สุด หลังจากที่นักเรียนกลุ่มนี้ย้ายมาก็มีการหยอกล้อคำหยาบคายและตะโกนด่า ทอ กัน ตามประสาเด็กวัยรุ่น กันบริเวณใกล้กับต้นโพธิ์ที่มีอายุกว่า 200 ปีต้นนี้ ซึ่งชาวบ้านละแวกนี้เชื่อกันว่านักเรียนกลุ่มนี้อาจละเมิด หรือ ลบหลู่สิ่งศักสิทธิ์ที่อยู่บริเวณนั้น โดยไม่ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ตามประสาเด็กๆ จึงได้เกิดเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในมุมมองจิตวิทยาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเครียดของเด็ก ทำให้เกิดอุปทานหมู่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น