วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แมน การิน โว รักเกล ยังหวาน รับให้ต่างหู


 แมน การิน โว รัก เกล ยังหวาน รับให้ต่างหูเป็นของขวัญวันเกิด ลั่น ยังไม่พร้อมแต่ง พ่อแม่เข้าใจไม่เร่ง



          ควงคู่กันออกงาน ย้ำความหวานถี่สำหรับคู่ของหนุ่ม แมน การิน และสาวเกล  เวธกา จนแฟน ๆ แอบลุ้นว่า เมื่อไรคู่นี้จะมีข่าวดีสักที พอเจอหนุ่มแมน เจ้าตัวเลยออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า

          "ตอนนี้ ยังไม่ได้มองตรงนั้นครับ แต่ก็มองไปไกลประมาณสัก 3-5 ปี เพราะตอนนี้น้องก็ละครเยอะ และก็เรียนโทต่อด้วย ตัวเราเองก็มุ่งมั่นหาเงิน เพราะว่าคุยเล่น ๆ กับคุณแม่น้องเค้าว่า ค่าตัวน้องแพง เลยต้องทำงานหนัก ผมเองก็ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับน้องเลยครับ ผมไม่อยากเร่งน้อง คืออยากให้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วรอตรงนั้นดีกว่า ตอนนี้ยังครับ อยากให้น้องทำงานไปก่อนน่าจะอีกสักพักเลยครับ ไม่ใช่ใกล้นี้แน่ ๆ ทางครอบครัวทั้งผมและก็น้องก็ไม่ได้เร่งอะไรเลย ทั้ง 2 ฝ่าย เข้ากันได้ดี ทางครอบครัวน้องเองก็น่ารักมากครับ ส่วนของขวัญวันเกิดน้องเค้าก็เป็นต่างหูรูปตัวเลข เพราะผมอยากให้น้องเค้าใส่อะไรที่เป็นมงคลต่อตัวเองเวลาไปไหน ไปทำงานไปพบผู้ใหญ่ เพื่อความมั้นใจในตัวน้องเองด้วยครับ เค้าเองก็ชอบครับ เวลาก่อนออกจากบ้าน ก็จะคอยถามผมและว่าวันนี้ใส่เลขไหนดี" 

แจ๊ส ชวนชื่น ถ่ายพรีเวดดิ้งกับแฟนสาว พร้อมแต่ง 24 ส.ค.นี้

 แจ๊ส ชวนชื่น ประกาศแต่งแฟนสาว 24 สิงหาคมนี้ พร้อมเผยภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง คอนเซ็ปต์คอมมาดี้แมน 


 
            ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2555 มีข่าวว่า แจ๊ส ชวนชื่น ดาราตลกชื่อดังทะเลาะกันรุนแรงกับอดีตแฟนสาวที่ชื่อ เมย์ พร้อมออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่องานนี้ไม่ขอเจอะเจอกันอีก หลังจากข่าว แจ๊ส ชวนชื่น กับแฟนสาวก็เงียบหายไป
 

            อย่างไรก็ตามล่าสุด (26 พฤษภาคม 2556)  มีข่าวว่า แจ๊ส ชวนชื่น ได้ประกาศแต่งงานกับแฟนสาวนอกวงการคนใหม่ในวันที่ 24 สิงหาคม 2556  พร้อมกับมีภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง คอนเซ็ปต์คอมมาดี้แมน สลับชุดกันใส่กับเจ้าสาวออกมาให้ชมกันแล้ว  
 

หนุ่ม กรรชัย ปัด เมย์ เฟื่องอารมย์ ท้อง แจงแค่อ้วนขึ้น


 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เผย ผวาโดนหมายหัวทำรายการปากโป้ง ปัดเมย์ท้อง แจงแค่อ้วนขึ้น รับอยากมีลูก



            หลังจากหันมารับหน้าที่พิธีกรเต็มตัวในรายการปากโป้ง รายการที่เอามาสังคมเด็ด ๆ มาตีแผ่ สะท้อนให้เห็นถึงความจริง เล่นเอา หนุ่ม กรรชัย กำเนินพลอย เผยว่า มีกลุ่มคนไม่พอใจจนเจ้าตัวโดนหมายหัว ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ว่า

            "สำหรับเรื่องทำรายการปากโป้งทำให้เราโดนหมายหัว เพราะรูปแบบรายการมันต้องมีเราทำสะท้อนปัญหาสังคม ก็เลยมีฟีดแบกจากอีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจบ้าง ที่ไปกล่าวหาเขา จริง ๆ ผมทำก็กลัวเวลาทำรายการ ไม่หวั่นใจเลยที่ทำรายการนี้ ผมได้ทำหน้าที่นี้ ภูมิใจได้ช่วยเหลือคนอื่นมากกว่า ส่วนวันเกิดคุณเมย์ ก็ไม่ได้ให้อะไรเลย พอดีก่อนหน้านั้นติดงาน แต่เอาเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิด สิ่งผมให้เค้าทุกโอกาสอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องวันเกิด 

              "ส่วนเรื่องที่หลายคนทักว่าเมย์ท้องหรือเปล่านั้น ตอนนี้เมย์กินเยอะ อาจจะอ้วน คนเลยมองว่าท้อง ถ้าท้องก็บอกไม่ปิดอยู่แล้วครับ เพื่อน ๆ หลายคนก็เชียร์ ปีนี้อาจจะมีข่าวดี ต้องรอลุ้นครับ เป็นไปได้เราอยากมีลูกแล้ว ท้องก่อนแต่งก็ดี มีไปหาหมอตรวจร่างกายละครับ จริงๆ อยากมี 2 คน ด้วยอายุ เมย์ก็มีไปผ่าซีสต์ อาจมีลูกยาก ตอนนี้ปรึกษาคุณหมดหลาย ๆ เรื่อง จะพึ่งทุกอย่างให้มีลูก ส่วนเรื่องคนมองท้องก่อนแต่งนั้น ก็ไม่กลัวคนมองท้องก่อนแต่ง ผมไม่แคร์ขี้ปากคน แค่พ่อแม่เมย์ยอมรับก็พอ คนอื่นเป็นแค่ส่วนประกอบ"

โปเตโต้ หวัง เพราะเธอ เป็นสื่อบอกรัก

โปเตโต้ ทำเพลง เพราะเธอ เอาใจแฟนละครด้วยเนื้อหาเพลงดี มีความหมาย หวังใช้เป็นสื่อแทนใจบอกรักได้ (แกรมมี่)


           แม้ละคร มายาตวัน จะลาจอไปแล้วก็ตาม แต่กระแสความแรงของเพลง เพราะเธอ ยังมีแฟนเพลงเรียกร้องและถามถึง ซึ่งทางต้นสังกัดเวิร์คแก๊ง ซึ่งดูแลวงโปเตโต้ก็จัดให้ตามใจแฟน ๆ ลงมือถ่ายทำเส้นร้องที่จัดเต็มด้วยเครื่องดนตรีครบครันแบบเต็ม ๆ พร้อมกับคัดเลือดภาพบทรักหวานซึ้งของคู่พระคู่นางในละครมาประกอบการถ่ายทำมิวสิคฯ นี้ได้อย่างลงตัว

          "เพลง เพราะเธอ เป็นเพลงที่ทำขึ้นมาเพื่อประกอบละครโดยเฉพาะเลยครับ เพราะโจทย์ที่ได้รับมาเป็นเพลงที่ใช้แทนความรู้สึกของพระเอกที่มองนางเอกที่เป็นหญิงสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่สามารถที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงมุมมองความคิดหรือเปรียบเหมือนเป็นแสงสว่างให้ก้าวเดินต่อไปได้ และพร้อมที่จะผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้อย่างสวยงาม และสุดท้ายก็กลายเป็นความรักที่มีความห่วงใยซึ่งกันและกัน ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้ดีมากครับ ผมคิดว่าสามารถใช้กับชีวิตจริงนอกจอได้ หรือถ้าคนไหนสนใจที่จะใช้เพลงนี้ไปบอกรักสาวได้นะครับ ผมว่ามันแฮปปี้ดี" ปั๊บกล่าวทิ้งท้าย
          เพราะเธอ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ *1230008 แล้วโทรออก ก็จะได้เพลงที่มีเนื้อหาดีมีความหมาย พร้อมกับบอกความในใจกับสาว ๆ ได้ หรือติดตามมิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้ช่อง Gmm Music พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของวงโปเตโต้ได้ที่ www.facebook.com/potatoband นะคะ

ซึ้งกินใจ! ข้อความดี ๆ จาก ญาญ่าญิ๋ง ในเทศกาลหนังเมืองคานส์

กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปเลยทีเดียว สำหรับการเดินพรมแดงของ "ญาญ่าญิ๋ง" หรือ หญิง รฐา โพธิ์งาม ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะนักแสดง จากภาพยนตร์เรื่อง "Only God Forgives" ซึ่งนอกจากญาญ่าญิ๋งจะปรากฏตัวด้วยชุดสวยชนิดสะกดสายตาคนดู ไม่ว่าจะเป็นงานกลางวัน หรืองานกลางคืนแล้ว ญาญ่าญิ๋งยังได้ยกมือไหว้ด้วยกิริยาอ่อนน้อม... สร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติ และความภาคภูมิใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
          ทั้งนี้ หลังจากที่ญาญ่าญิ๋งทำภารกิจเสร็จสิ้น เธอก็ได้โพสต์ข้อความบอกเล่าความประทับใจที่ได้มีโอกาสเดินพรมแดงในงานระดับโลกครั้งนี้ รวมไปถึงข้อความที่บอกว่า เธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เกิดมาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร.



 "เสร็จสิ้นภารกิจรอบสื่อกับภาพยนตร์ Only God Forgives ที่เมืองคานส์เรียบร้อยไปเมื่อวาน หญิงอยากบอกทุกคนว่า การมาครั้งนี้ไม่ใช่แค่หญิงที่เป็นนักแสดงไทยในเรื่องนี้คนเดียว ยังมีพี่ปู วิทยา ปานศรีเอี่ยม ที่ทำหน้าที่ นักรับ-นักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม เราสองคนไม่ได้มาในฐานะนักแสดงไทยในต่างแดนเท่านั้น หญิงคิดเสมอว่าการก้าวไปครั้งนี้ ถ้าชีวิตนี้เราไม่ได้เกิดเป็นทหารถือปืนคอยปกป้องประเทศ ในฐานะที่เกิดเป็น "หญิง" เราพอจะทำอะไรบ้างเพื่อประเทศของเรา หญิงหอบเอาความรัก ความเคารพ ความเป็น "เรา" ในฐานะของนักรบ-นักแสดงไทยในพรมแดงค่ะ... ดีใจที่ได้เกิดอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารค่ะ"

พร้อมพงศ์ ปัด ทักษิณ จวกทีมงานเพื่อไทยโง่ ปล่อยหน้ากากขาวด่าหน้าเพจ

  เพื่อไทย ปัดทักษิณ จวกทีมงานโง่ ปล่อยหน้ากากขาวด่าหน้าเพจ อ้างถูกสวมรอย  พร้อมเตรียมถกทีมกฎหมายฟ้องพวกหน้ากากขาวหลังโจมตีรัฐบาล และเตือนชาวโซเซียลเน็ตเวิร์ก อย่าหลงเชื่อ 


 

            สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2556 ชาวเฟซบุ๊กบางกลุ่ม ได้ร่วมกันรณรงค์ให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ตัวเอง เป็นรูปหน้ากาก กาย ฟอคส์ (Guy Fawkes) จากภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta พร้อมโพสต์ข้อความ  "ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย" ในเฟซบุ๊กทุกเพจที่เป็นเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ สอดคล้องกับนักแสดงคนหนึ่งในหนังที่สวมหน้ากากขาว เรียกตนเองว่า V พร้อมเป้าหมายในการโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการ  ขณะที่ทีมงานพรรคเพื่อไทยได้ทำการลบข้อความดังกล่าวออกไปแล้ว 

 
           อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อเช้าวันนี้ (26 พฤษภาคม 2556) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความ ด่าทีมงานเพจ Pheu Thai Party ว่าเป็น "พวกโง่ ๆ เพจ พรรคแท้ ๆ ยังปล่อยให้พวกสวะมันเข้ามาหยาม" หลัง ชาวเฟซบุ๊ก หน้ากากขาว ต้านระบอบทักษิณ โพสต์ถล่มทลายทุกเพจ ที่เป็นเครือข่ายทักษิณ 
 
           ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กตำหนิทีมงาน ดูแลเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า เป็นการสวมรอยของกลุ่มคนที่ต่อต้านรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ที่ใช้รูปในเฟซบุ๊กเป็น หน้ากากสีขาว หรือ กาย ฟอว์คส (Guy Fawkes) โดยใช้ช่องทาง โซเชียลเน็ตเวิล์ค ในการโจมตีรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย อย่างไม่มีจริยธรรม  

           นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า วันพรุ่งนี้ (27 พฤษภาคม 2556) พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมทีมกฎหมาย เพื่อตรวจสอบว่า การกล่าวหาของกลุ่มคนดังกล่าว เข้าข่ายการกระทำผิดทาง พ.รบ.คอมพิวเตอร์ หรือ ทางอาญาหรือไม่ เพื่อเอาผิดทางกฎหมายกับกลุ่มคนเหล่านี้ และกระทรวงไอซีที ต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าอาจมีกลุ่มการเมืองหนุนหลังกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ 
 
           ทางด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกโรงเตือนชาวโซเซียลเน็ตเวิร์ก อย่าตกเป็นเหยื่อขบวนการนี้ เพราะปกติก็หาความจริงยากอยู่แล้วจากกลุ่มคนพวกนี้ ยิ่งใส่หน้ากากเข้าไปยิ่งต้องระวัง เพราะคนกลุ่มนี้ไม่มีความจริง และอยากฝากเตือนคนที่ทำด้วยว่า อย่ามาสร้างกระแสให้เกิดความวุ่นวายในสังคมไทย  

จับอดีตส.อบต.คีรีราษฎร์ ขนยาบ้า 6 แสนเม็ด มูลค่า 200 ล้านบาท


 ป.ป.ส จับอดีต ส.อบต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ขนยาบ้า 600,000 เม็ด มูลค่าร่วม 200 ล้านบาท คาด ยาบ้าทั้งหมดเป็นของเครือข่าย พันโทยี่เซ





           วันที่ 26 พฤษภาคม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษา บช.ปส. และ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขตร ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกันจับกุม นายหลี่ แซ่ม้า อายุ 60 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก นายกีตาร์ แซ่ย่าง อายุ 34 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง จ.ลำปาง และนายศิลวัต อาชาวัฒนกุล ชาวเขาเผ่าม้ง จ.ตาก และนายวิธวัฒน์ แลเซ่อ อายุ 23 ปี ชาวเขาเผ่าอาข่า ต.ห้วยชมพู อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 600,000 เม็ด และยึดรถกระบะที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติดและนำทางอีก 3 คัน

           การจับกุมในครั้งนี้มีขึ้นที่บริเวณ บนถนนพหลโยธิน สายเชียงราย-พะเยา สี่แยกแม่กรณ์ ขณะที่ นายวิธวัฒน์ ขับรถยนต์ ทะเบียน บห-442 เชียงราย นำหน้า รถกระบะ ทะเบียน บร-6777 ลำปาง ที่มี นายกีตาร์ เป็นคนขับ โดยมี นายหลี่ ขับรถยนต์สีดำ ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียนตามมา โดยมี นายศิลวัต อาชาวัฒนกุล นั่งคู่มาด้านหน้า ตามหลังมา ซึ่งตรงกับลัษณะที่สายรายงานว่า เป็นรถคาราวานลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ จึงใช้รถกระบะที่เตรียมมากว่า 10 คัน เข้าประกบ และสกัดให้ให้รถทั้ง 3 คัน จอด จากการตรวจค้น พบยาบ้าห่ออย่างดีอยู่ในกระสอบ 2 ใบ วางอยู่ในเบาะหลังคนขับของรถยนต์คันที่ นายหลี่ ขับ รวมทั้งสิ้น 600,000 เม็ด จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

           สอบสวน นายหลี่ พร้อมพวก สารภาพ ได้รับการว่าจ้างขนยาเสพติดทั้งหมด จากชาวเขาเผ่าม้งใน อ.พบพระ ให้มารับยาบ้าที่บนดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นำไปส่งที่ กทม. โดยได้ค่าจ้าง 1 ล้านบาท และได้รับค่าจ้างแล้ว 90,000 บาท และก่อนถูกจับได้ ไปรับยาบ้ามาแล้วจะมานอนพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ก่อนจะเดินทางพรุ่งนี้เช้า สำหรับยาบ้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ หากนำไปสู่ปลายทางได้สำเร็จจะมีมูลค่าสูงถึงเกือบ 200 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ คาด ยาบ้าทั้งหมดเป็นของเครือข่าย พันโท ยี่เซ ที่ต้องการนำไปทดแทนยาเสพติดที่ถูกยึดในกรุงเทพมหานครไปจำนวนมาก

กฟผ. ชี้ชัดไฟดับภาคใต้ 14 จังหวัด เพราะฟ้าผ่าเสาส่งไฟ ที่ จ.เพชรบุรี

  กฟผ. ชี้ชัดสาเหตุไฟดับภาคใต้ 14 จังหวัด เพราะฟ้าผ่าเสาส่งไฟแรงสูง ที่ จ.เพชรบุรี ยันทุกฝ่ายเร่งแก้ไขอย่างเต็มที่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งตั้งศูนย์ประสานงาน และซื้อไฟจากมาเลเซีย 



            วานนี้ (26 พฤษภาคม) นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ประเทศไทย (กฟผ.) ได้แถลงข่าวถึงการตรวจสอบสาเหตุปัญหาไฟดับทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเวลา 18.52 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า เกิดจากฟ้าผ่าเสาและสายไฟฟ้าแรงสูง บริเวณ ต.บ้านทาน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีไฟฟ้าจอมบึง ประมาณ 74 กิโลเมตร ที่เสาต้นที่ 200/3 โดยสภาพของลูกถ้วยเป็นรอยอย่างชัดเจน 

            นายธนา กล่าวว่า และด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เกิดไฟฟ้าขัดข้องในระบบส่งไฟฟ้าภาคใต้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไขหลายชั่วโมง เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้มีแหล่งผลิตไฟฟ้าน้อยกว่าความต้องการของประชาชน จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการจ่ายกระแสไฟจากภาคกลางไปสู่ภาคใต้ รวมถึงต้องการเพิ่มการซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซีย มาเสริมระบบในคืนเกิดเหตุคิดเป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท นอกจากนี้ยังต้องเดินเครื่องการผลิตไฟฟ้าจากที่มีทั้งหมดในภาคใต้มาใช้อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้โดยเร็วที่สุด จนการไฟฟ้าสามารถผลิตไฟให้ได้เกือบทั้งหมดในเวลา 23.37 น. ของวันเดียวกัน
 
            พร้อมกันนี้ นายธนา ยังกล่าวอีกว่า ทาง กฟผ. เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง และก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหานับตั้งแต่ที่เกิดเหตุ โดยผู้ปฏิบัติงานของ กฟผ. ทุกคนพยายามเร่งแก้ไขในทันที พร้อมตั้งศูนย์สื่อสารภาวะวิกฤติเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทันทีด้วย

เรือลากบานาน่าโบ๊ท ชนนักท่องเที่ยวที่พัทยา ตัดกกหูขาด-เสียชีวิต


             เรือลากบานาน่าโบ๊ท ชนนักท่องเที่ยวชาวพิษณุโลก ตัดกกหูขาด ร่างลอยติดมากับเรือ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยชีวิต แต่ไม่ทัน เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

             วานนี้ (25 พฤษภาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเทียวถูกเรือลากบานาน่าโบ๊ทชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณชายหาดจอมเทียน ตรงข้ามโรงแรมเนเชอรัล ปาร์ค รีสอร์ท ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเจ้าของเรือและเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว

             ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา พบว่าผู้บาดเจ็บชื่อ นายพิทักษ์ แอดออน อายุ 36 ปี เป็นชาวพิษณุโลก นอนอยู่ในสภาพสลบไม่ได้สติ ที่กกหูซ้ายมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ เลือดไหลอาบไปทั่ว ด้านหลังมีรอยช้ำเต็มไปหมด ซึ่งทางแพทย์เร่งปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่ภายหลังผู้เจ็บไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

             จากการสอบปากคำ นายอธิชัย บุญจิต อายุ 22 ปี คนขับเรือลากบานาน่าโบ๊ท ขนาด 1 เครื่องยนต์ 40 แรงม้า ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงน้ำทะเลกำลังขึ้น ตนจึงขับเรือเพื่อนำมาจอดลอยใกล้ ๆ ชายหาด จนกระทั่งก่อนถึงฝั่งประมาณ 150 เมตร ก็ได้ยินเสียงเหมือนไปชนอะไรสักอย่างจนเรือกระดกขึ้น เมื่อหันกลับไปมองก็พบร่างของ นายพิทักษ์ ลอยอยู่กลางทะเลตัวขาวซีดไปทั้งตัว และถูกใบพัดเรือเฉือนเข้าที่กกหูซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ตนจึงตะโกนให้พ่อช่วยกันนำร่างนายพิทักษ์ขึ้นมาบนฝั่ง ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้นำตัวส่งโรงพยาบาล

             นายอธิชัย กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่ตนขับเรือ ตนไม่เห็นนายพิทักษ์ และไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจมน้ำอยู่ก่อนแล้วหรือไม่
 
             ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านายพิทักษ์มีอาชีพเป็นคนขับรถ และได้พานายจ้างชาวญี่ปุ่น 2 คน ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง มาเที่ยวพัทยาในช่วงวันหยุดยาว จนกระทั่งวันเกิดเหตุนายพิทักษ์และเจ้านายได้นั่งพักผ่อนที่ร่มเตียงชายหาดหน้าโรงแรม และหลังจากนั้นนายพิทักษ์ก็ได้ลงไปเล่นน้ำทะเล จนใบพัดตัดกกหูและเสียชีวิตดังกล่าว
             อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ระบุสาเหตุเสียชีวิตที่แน่ชัดว่ามาจากถูกชน หรือก่อนหน้านี้นายพิทักษ์เกิดจมน้ำหมดสติ แล้วถูกเรือชน ซึ่งหลังจากนี้จะส่งศพผู้ตายไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนนายอธิชัย ทางตำรวจได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหากระทำการประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
 
             นอกจากนี้ มีรายงาน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาประชุมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเมืองพัทยา ในกรณีแผนการรักษาความปลอดภัยและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หลังจากที่เกิดอุบัติภัยทางทะเลบ่อยครั้ง แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุอันน่าสลดเช่นนี้อีกจนได้

ประมูล Apple-1 คอมฯ รุ่นแรกของแอปเปิ้ล ราคากว่า 20 ล้าน


  วันที่ 26 พฤษภาคม เว็บไซต์นิวยอร์ก ไทม์ รายงานว่า คอมพิวเตอร์รุ่นก่อตั้งของบริษัทแอปเปิ้ล ซึ่งทำขึ้นจากฝีมือของสตีฟ วอซเนียกและสตีฟ จ็อบ ถูกนำออกประมูลในประเทศเยอรมนี โดยผู้ชนะการประมูลคว้าเครื่องคอมพิวเตอร์ไปครอบครองด้วยเงินสูงกว่า 20 ล้านบาท



             โดยการประมูลมีขึ้นที่เมืองโคโคจญ์ ประเทศเยอรมนี คอมพิวเตอร์เครื่องนี้คือรุ่น "แอปเปิ้ล วัน"  (Apple-1) เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นแรกของบริษัทแอปเปิ้ล ซึ่งประกอบโดย 2 ผู้ก่อตั้งคือสตีฟ วอซเนียก และสตีฟ จ็อบ ซึ่งมีมูลค่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 60,000 บาท) ในขณะนั้น ล่าสุด เครื่อง แอปเปิ้ล วัน ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงที่สุดในโลก โดยผู้ร่วมประมูลทางโทรศัพท์ ราคาเคาะครั้งสุดท้ายคือ 516,461 ยูโรหรือมากกว่า 20 ล้านบาท

             สำหรับคอมพิวเตอร์ Apple-1 เครื่องนี้เป็น 1 ใน 6 เครื่องที่ยังสามารถใช้งานได้ และเป็นส่วน 1 ของคอมพิวเตอร์ชุดแรกที่ผลิตขึ้นมาทั้งหมด 200 เครื่อง ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 46 เครื่องเท่านั้น คอมพิวเตอร์ "แอปเปิ้ล วัน" ผลิตเมื่อปี 2519 โรงงานผลิตคอมพิวเตอร์ในตอนนั้นคือโรงรถของครอบครัวจ็อบ ก่อนบริษัทจะประสบความสำเร็จจนกลายเป็นบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์อย่างทุกวันนี้ 

แม่สาววัย 17 เข้าให้การ ยันลูกสาวถูกอาแท้ ๆ หลอกไปขายบริการจริง


คดีซ่องเกาหลีพลิกอีกรอบ!? แม่เด็กสาววัย 17 เข้าพบตำรวจร้องเรียนลูกสาวถูกอาแท้ ๆ หลอกไปขายบริการจริง สวนทางกับคำให้การของอา และบิดาของเด็กก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเด็กสมยอมไปเอง



              จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้เสนอข่าว ตำรวจเข้าช่วยเด็กสาววัย 17 พ้นซ่องนรก ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ หลังคุยผ่านเฟซบุ๊กให้ช่วยเหลือ เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยก็ได้ทำการสอบสวนจนทราบว่า ต้นตอคือ อาแท้ ๆ ของสาววัย 17 ปี ที่หลอกให้ไปขายบริการถึงประเทศเกาหลีใต้ แต่คดีกลับตาลปัตรอีก เมื่อ นางเพียงใจ คิม อายุ 37 ปี อาของเหยื่อซึ่งเป็นผู้ต้องหาเตรียมเข้ามอบตัว อ้างว่าหลานกุเรื่องเพราะอยากกลับไทย เพราะร้านนวดแผนโบราณไม่มีค้าประเวณีแน่นอน อีกทั้งบิดาและปู่ของสาววัย 17 ปี ออกมาให้การตรงกันว่า อาไม่ได้หลอกลวง แต่เด็กเต็มใจไปเองโดยครอบครัวรับรู้มาตลอด ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

              ล่าสุด วันที่ 26 พฤษภาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต. ชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ ผบก.ปคม. กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจาก ล่าสุด มารดาสาววัย 17 ซึ่งปัจจุบันแยกกันอยู่กับสามี ได้เข้าพบตำรวจขอเป็นผู้กล่าวหาที่ 2 โดยยืนยันว่าลูกสาวถูกล่อลวงไปขายบริการทางเพศที่เกาหลีจริง โดยยืนยันว่าอาแท้ ๆ เป็นผู้หลอกลวงไป สวนทางกับคำให้การของฝ่ายอาสาวและบิดา ทำให้ตำรวจค่อนข้างหนักใจในคดีนี้

              อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะเป็นกรณีขัดแย้งและกล่าวหากันภายในครอบครัว เนื่องจากบิดามารดาแยกทางกันแล้ว อาจมีความขัดแย้งส่วนตัว รวมทั้งแย่งเลี้ยงดูลูกสาว หากสอบสวนแล้วฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดให้การเท็จ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ทั้งนี้สาววัย 17 เป็นคนสำคัญที่สุดในการให้การข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ไฟไหม้คอนโด 10 ชั้น ย่านเมืองเอก จนท.คุมเพลิงได้แล้ว

เกิดเหตุไฟไหม้ ชั้น 8 เมืองเอกคอนโด อาคาร N ซึ่งเป็นอาคารตึก 10 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 208 ม.7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี  ล่าสุดเจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว  


 
            เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันนี้ (26 พฤษภาคม 2556) เกิดเหตุไฟไหม้ ชั้น 8 เมืองเอกคอนโด อาคาร n ตั้งอยู่เลขที่ 208 ม.7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เหตุดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตัวอาคารวิ่งหนีลงชั้นล่างอย่างชุลมุน และมีผู้ที่สำลักควันไฟจำนวน 5-6 คน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแล้ว 
 
             อย่างไรก็ตาม จุดที่เกิดไฟไหม้นั้นเป็นที่เก็บของและขยะบริเวณทางเดินชั้น 8 เจ้าหน้าที่พบที่นอนเก่าถูกไฟลุกไหม้ จึงช่วยกันสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม และสามารถคุมเพลิงได้แล้ว โดย เบื้องต้นนั้นคาดว่า อาจจะมีเปลวไฟ หรือก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงไปในบริเวณนั้นและเกิดปะทุจนลุกลามขึ้นมา ทั้งนี้จะทำการตรวจสอบอีกครั้ง

เรือด่วนเจ้าพระยา เล็งปรับขึ้นค่าโดยสาร 2 บาท ก.ค.นี้


  เรือด่วนเจ้าพระยา คาด ขึ้นค่าโดยสารทุกประเภท 2 บาท ได้กลางเดือน ก.ค. ชี้ หากกรมเจ้าท่าไม่อนุมัติ ปีนี้ อาจขาดทุน 16 ล้านบาท



            วันที่ 26 พฤษภาคม 2556 นาวาโทปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการเรือประจำทาง เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 ไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา เนื่องจาก การคำนวณอัตราค่าโดยสารจากโครงสร้างต้นทุน ระหว่างภาครัฐและเอกชน ยังไม่สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาใหม่ โดยกำหนดกรอบระยะเวลา ภายใน 90 วันนั้น ขณะนี้ได้เลยเวลาที่กำหนดแล้ว และตนเองได้ส่งหนังสือไปยัง อธิบดีกรมเจ้าท่าถึงเรื่องดังกล่าว รวมทั้งความจำเป็นในการปรับขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนทุกประเภท อีก 2 บาท ว่าถ้ายังไม่มีการอนุมัติจะส่งผลให้ปีนี้บริษัทขาดทุนถึง 16 ล้านบาท

            "เรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาทุกประเภท 2 บาท ตามที่ทางบริษัทได้ยื่นข้อเสนอไปก่อนหน้านี้ คาดว่า ทางกรมเจ้าท่า น่าจะเชิญคณะกรรมการมาหารือกัน ภายในเดือนมิถุนายน 2556 และประกาศใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ได้ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2556"

            นาวาโทปริญญา กล่าวต่อว่า ภายในสัปดาห์หน้าทางบริษัทจะส่งหนังสือเรื่องการปรับปรุงการให้บริการ  เรื่องเพิ่มความถี่และเรื่องการขยายระยะเวลาในการให้บริการจากเดิมเวลา 19.30น. - 20.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS

ชายสูงวัยจีนโหด ตบตีนักศึกษาหญิงบนรถเมล์ ไม่ยอมลุกให้นั่ง

 จีนเผยคลิปสุดโหด ชายสูงวัยจีนตบตี เตะนักศึกษาหญิงบนรถเมล์ หลังไม่ยอมลุกให้นั่ง ชาวเน็ตวิจารณ์สังคมจีนยังคงไร้น้ำใจกันอยู่มาก



            เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2556 เว็บไซต์ liveleak.com ได้เผยแพร่คลิปสุดฮือฮาของชายสูงอายุที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายทั้งตบตี และเตะหญิงสาวบนรถโดยสารประจำทางสายหนึ่งในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของประเทศจีน เนื่องจากเธอไม่ยอมลุกที่นั่งให้ ซึ่งคลิปดังกล่าวนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหมู่โซเชียลเน็ตเวิร์กของจีนอยู่ในขณะนี้

            สำหรับคลิปนี้เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบนโดยสารประจำทาง เผยให้เห็นภาพของชายสูงอายุรายหนึ่งกำลังยืนชี้หน้าต่อว่าหญิงสาวนักศึกษาที่นั่งอยู่อย่างไม่สุภาพ เนื่องจากไม่มีใครลุกให้นั่ง และพยายามใช้ตัวดันกระแทกใส่หญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนที่ทั้งคู่จะลงมือตบตีกันขณะที่ชายสูงวัยก็ยกเท้าขึ้นถีบด้วย ท่ามกลางผู้โดยสารเต็มคันรถ ก่อนที่ผู้โดยสารรายอื่นจะเข้ามาช่วยห้ามปราม ชายผู้ก่อเหตุจึงลงจากรถไป

            อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุ หญิงสาวผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดตามชายสูงวัยคนดังกล่าวมาดำเนินคดี ขณะที่คลิปวิดีโอดังกล่าวก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยบางส่วนเห็นด้วยกับหญิงสาวที่แจ้งความ เพราะชายสูงวัยทำร้ายผู้หญิงอย่างรุนแรง ซึ่งกระทำเกินกว่าเหตุ ขณะที่บางส่วนมองว่า เหตุการณ์คงไม่ลุกลามบานปลายหากหญิงสาวยอมลุกให้นั่งแต่โดยดี ซึ่งเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นสังคมชาวจีนไม่ค่อยมีน้ำใจให้กันเท่าใดนัก

กะเทยเต้นแน่นอกเปลือย ไม่รอด ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา



          ผบ.ปอท. จ่อแจ้งข้อหานักศึกษาสาวประเภทสอง เปลือยกายเต้นแน่นอก ว่อนเน็ต ชี้ข้ออ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฟังไม่ขึ้น ลั่นไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง


          เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2556 พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กล่าวถึงกรณีสาวประเภทสอง 2 คน ที่เต้นเปลือยกายประกอบเพลง รักต้องเปิด (แน่นอก) จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างหนัก ว่า ทาง ปอท. ได้รับและตรวจสอบแล้ว ทำให้ทราบว่า ผู้กระทำผิดเป็นนักศึกษาสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง อายุราว 20 ปี ทางปอท. จึงได้ทำการติดต่อให้มอบตัว และแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้กระทำผิดทั้ง 2 คน ทราบ โดยการกระทำของทั้งผู้ที่เต้น และอัพโหลด เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) คือการนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลอันลามกที่ประชาชนเข้าถึงได้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาการกระทำขายหน้าต่อธารกำนัล จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

          ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า ได้ดูคลิปที่ผู้กระทำผิดทั้ง 2 ออกมาขอโทษแล้ว แต่การจะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะบรรลุนิติภาวะแล้ว ทาง ปอท. จำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง


หนุ่มแทงภรรยาเก่าดับคาที่ ฉุนง้อไม่ยอมคืนดี-แชทกับชายอื่น

  หนุ่มหย่าขาดกับภรรยา เพราะฝ่ายหญิงแชทเฟซบุ๊กกับชายอื่น ต่อมาสงสารลูก เลยพยายามง้อขอคืนดี แต่ภรรยาไม่ยอม เลยบันดาลโทสะ แทงไม่ยั้ง ดับคาที่



            วานนี้ (26 พฤษภาคม 2556) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางยี่เรือ รับแจ้งเหตุว่า มีผู้หญิงถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 335 ถ.ริมทางรถไฟ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ

            ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบศพของ นางธนวรรณ อายุ 26 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามลำตัวถึง 6 แผล ที่หน้าอกขวา 1 แผล และหลังด้านขวาอีก 3 แผล ข้อศอกซ้ายและขวาอย่างละ 1 แผล ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่นางสาวธนวรรณทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

            หลังจากนั้น นายสุรเจตน์ ฉายสว่าง อายุ 32 ปี อดีตสามีของผู้ตาย ก็เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมสารภาพทั้งน้ำตา บอกว่า ตนเองเป็นคนลงมือแทงภรรยาเก่า เหตุเพราะขอคืนดีแต่ผู้ตายไม่ยอมคืนดีด้วย จึงบันดาลโทสะใช้มีดแทงไม่ยั้ง ก่อนที่จะหลบหนีไปตั้งสติ และด้วยความสำนึกผิดจึงเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

            นายสุรเจตน์ กล่าวต่อว่า ตนกับผู้ตายอยู่กินด้วยกันมากว่า 12 ปี และมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่เสียชีวิตไป 1 คนเหลือลูกสาววัย 8 ขวบ และลูกชายวัย 7 ขวบ โดยตนทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทย่านเจริญนคร ส่วนผู้ตายทำงานขายโทรศัพท์มือถืออยู่ย่านสนามเสือป่า แต่ระยะหลังภรรยาตนเปลี่ยนไป มักชอบแชทคุยกับผู้ชายในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนกลับบ้านก่อนเวลาก็เห็นว่าภรรยาของตนเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ จึงเกิดการทะเลาะกันและแยกกันอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นก็ทำการหย่าขาดจากกันเมื่อวันพฤหัสบดี (23 พฤษภาคม) พร้อมกับแบ่งลูกกัน

            พอหลังจากหย่าขาด ลูกของตนก็บ่นถึงแม่ และร้องไห้หาแม่ตลอดเวลา จนตนสงสารลูก จึงกลับบ้านไปหาภรรยาอีกครั้งเพื่อง้อขอคืนดี แต่ภรรยายืนยันไม่ยอม และด้วยความที่ตนเมาสุรา จึงบันดาลโทสะใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมาก่อเหตุและหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายสุรเจตน์ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บั้งไฟมรณะ! ตกใส่รถเก๋ง ไฟลุกท่วม ย่างสด 2 ศพ

 เกิดเหตุสยอง! งานบุญบั้งไฟหนองคาย บั้งไฟมรณะพุ่งใส่เก๋ง จนไฟลุกท่วม ย่างสด สท.ปะโค พร้อมเพื่อน รวม 2 ราย



         วานนี้ (26 พฤษภาคม) พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เกิดเหตุบั้งไฟหล่นใส่รถยนต์เก๋งโตโยต้า โคโรลล่า สีเขียว ทะเบียน กค 2142 หนองคาย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเหตุเกิดภายในงานบุญบั้งไฟประเพณี เดือน 6 บริเวณกลางทุ่งนาหนองตั๋ว บ้านจอมเสด็จ ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางเสงี่ยม สนธิรัตน์ อายุ 41 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลปะโค ถูกไฟคลอกร่างเสียชีวิต บนเบาะรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ส่วนคนขับรถคือ นายอนุวัฒน์ พินทุวงศ์ อายุ 47 ปี เสียชีวิตขณะส่งโรงพยาบาล

         ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ผู้ตายทั้ง 2 กำลังขับรถเข้ามาบริเวณภายในงานและหาที่จอดรถ บั้งไฟมรณะก็ได้พุ่งตรงเข้าใส่รถทำให้ไฟลุกท่วม ผู้เห็นเหตุการณ์สามารถนำตัว นายอนุวัฒน์ ออกมาได้ และเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล ส่วน นางเสงี่ยม ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

อึ้ง! แม่หมูติดสัดคลั่ง ขย้ำปู่วัย 71 เสียชีวิตคาบ้านพัก

 แม่หมูติดสัดคลั่ง กัดชายชาวสุรินทร์วัย 71 ปี จนเสียชีวิตคาบ้านพัก - ผู้ใหญ่บ้านงง ไม่คิดว่าหมูจะกัดคนตายได้



          เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทนมีย์ จ.สุรินทร์ รับแจ้งจาก นายประเชิญ ทายาหอม ผู้ใหญ่บ้านเปรียง หมู่ 14 ต.สำโรง อ.เมืองสุรินทร์ ว่า มีลูกบ้านถูกหมูทำร้ายถึงแก่ความตาย ที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 14 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์  จึงรุดไปตรวจสอบ

          โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว บนพื้นห้องครัวบ้านพบศพ นายสมศักดิ์ พลายบัว อายุ 71 ปีสภาพศพนุ่งผ้าขาวม้า ผืนเดียว ไม่สวมเสื้อ นอนหงาย ตามร่างกายและศีรษะมีดินโคลนติดเต็ม และมีรอยฟกช้ำจากการถูกกัดขย้ำ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 ชั่วโมง

          จากการสอบถาม นายปฏิภัทร จำมี อายุ 45 ปี เจ้าของหมู น้องเขยผู้ตาย กล่าวว่า 
แม่หมูที่ก่อเหตุอายุ 2 ปีกว่า กำลังติดสัด มันจะรื้อ ชน และกัดคอกตลอดเวลา แล้วแหกคอกออกมา ซึ่งไม่เคยคิดว่าหมูของตนจะทำร้ายคนถึงชีวิต ทั้งที่เป็นสัดอยู่ประจำ ครั้งนี้เพิ่งเป็นเมื่อวาน เป็นรอบที่ 8 แล้ว แต่ครั้งนี้หลุดออกมาแล้วเข้าไปทำร้ายนายสมศักดิ์ที่พักผ่อนอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว ส่วนลูกเมียไปทำงานที่พัทยากันหมด ก่อนเกิดเหตุทราบว่านายสมศักดิ์กำลังนอนบนเตียงนอนใกล้ห้องครัว จนมาพบว่าถูกทำร้ายแล้วดังกล่าว  

          ขณะที่ทางด้าน นายประเชิญ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนไม่เคยคิดมาก่อนว่าหมูจะกัดคนตายได้ ไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนผู้ตายเป็นคนนิสัยดีไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน อยู่บ้านคนเดียวและชอบดื่มเหล้าคนเดียว 
          เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า สาเหตุการเสียชีวิตเป็นการกระทำของสัตว์มากกว่าเป็นฝีมือของคน โดยดูจากสภาพโคลนที่เกาะติดตามศีรษะ ตัว และตามที่ต่าง ๆ บนร่างกายอย่างไรก็ตาม ต้องรอดูการชันสูตรพลิกศพของแพทย์นิติเวช และผลตรวจที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใดแน่ พร้อมกับเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของหมูตามกฎหมายต่อไป

รวบโจ๋หื่นข่มขืนเด็กหญิงวัย 11 ปี อ้างเมาแล้วเกิดอารมณ์

 ตำรวจรวบโจ๋หื่นวัย 16 ปีทันควัน หลังบุกข่มขืนเด็กหญิงวัย 11 ปี ซึ่งอยู่บ้านตามลำพัง แต่เหยื่อดิ้นสู้จึงถูกทุบตีอย่างหนัก อ้างเมาแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ



            เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเกิดเหตุเด็กหญิงบี (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ถูกทำร้ายร้างกายแล้วข่มขืนกระทำชำเรา ที่ ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ขณะนี้ผู้ปกครองนำตัวเด็กหญิงมารักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรแล้ว จึงรุดไปตรวจสอบ

            จากการตรวจร่างกาย แพทย์ระบุว่า เด็กหญิงบีอวัยวะเพศฉีกขาดจากการถูกข่มขืน ส่วนตามร่างกายถูกทำร้ายจนสะบักสะบอม เขียวช้ำไปทั้งตัว นอนอยู่ในสภาพอิดโรย และขณะนี้อยู่ในอาการหวาดระแวง แพทย์และพยาบาลต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

            จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เด็กหญิงบีถูกนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านใกล้กัน เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ตำรวจจึงเดินทางไปบ้านผู้ต้องสงสัย และเชิญตัวมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร เบื้องต้น ให้การปฏิเสธ แต่เนื่องจากต้นคอของผู้ต้องสงสัยรายนี้มีร่องรอยขีดข่วนหลายแห่ง ตำรวจจึงได้นำตัวไปตัวตรวจสอบร่างกายที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร พบว่าอวัยวะเพศชาย มีรอยฟันกัดอย่างแรง ส่วนรอยแผลที่ต้นคอของผู้ต้องสงสัยเกิดจากรอยเล็บจึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน

            ในที่สุดนายเอจนมุมต่อหลักฐาน จึงยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ข่มขืนเด็กหญิงบีจริง ขณะลงมืออยู่ในอาการมึนเมาจากการดื่มสุราแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 02.00 น. รู้ว่าเด็กหญิงรายนี้อยู่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากพ่อและแม่ต้องออกไปขายผักในตลาด จึงได้บุกเข้าไปในบ้านพยายามข่มขืน แต่เด็กหญิงดิ้นสู้ จึงทุบตีไปหลายครั้ง และบังคับให้เด็กหญิงอมอวัยวะเพศ แล้วลงมือก่อเหตุข่มขืนจนเด็กหญิงสลบไป เมื่อสำเร็จความใคร่จึงรีบหนีออกมาอยู่ภายในบ้านของตัวเองและถูกจับได้ในที่สุด 

ระเบิดรามคำแหง 43/1 คาดปัญหาแผงค้า ปัดโยงไฟใต้

 รอง ผบ.ตร. ตรวจสอบเหตุระเบิด ซ.รามคำแหง 43/1 ระบุเป็นระเบิดแสวงเครื่อง มีศักยภาพทำลายถึงชีวิตได้ คาดสาเหตุบึ้มรามคำแหง ปัญหาแผงค้าขายในพื้นที่ ปัดโยงไฟใต้ สรุปมีผู้บาดเจ็บ 7 ราย






            วันนี้ (27 พฤษภาคม) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าตรวจสอบเหตุระเบิด บริเวณ ซ.รามคำแหง 43/1 ถนนรามคำแหง ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรในพื้นที่ พบว่าเหตุระเบิดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.39 น. วันที่ 26 พฤษภาคม 2556 เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน เป็น หญิง 5 คน ชาย 2 คน ราย ส่วนเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือ EOD สามารถเก็บภาชนะบรรจุ, สายไฟ และเศษตะปู ได้จำนวนมาก เบื้องต้น ระเบิดดังกล่าวมีศักยภาพทำลายถึงชีวิตได้

            ส่วนประเด็นและสาเหตุในครั้งนี้ ยังต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นแผงค้าขายในพื้นที่ มั่นใจไม่เชื่อมโยงประเด็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพ รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด

            อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจสอบ จะประชุมร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว

            ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมชุดชุดพนักงานสืบสวน หลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าร้านทำผม "ออกัส" ปาก ซ.รามคำแหง 43/1 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. โดยระบุว่า ขณะนี้ได้ส่งฝ่ายสืบสวน เร่งหาสาเหตุ พร้อมทั้งมีการแบ่งหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 สน.หัวหมาก เร่งตรวจสอบอย่างละเอียด  

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Lady Antebellum กลับมาพร้อมอัลบั้มชุดใหม่ การันตี เพลงดี ดนตรีเพราะ

เลดี้ แอนเทเบลลัม กลับมาแล้วพร้อมอัลบั้มชุดใหม่ Golden การันตี เพลงดี ดนตรีเพราะ เหมือนเดิม (วอร์นเนอร์ มิวสิค)


           เลดี้ แอนเทเบลลัม Lady Antebellum เป็นวงทรีโอสองหนุ่มหนึ่งสาว เจ้าของผลงานเพลงฮิตมากมาย อาทิ Need You Now หรือ We Owned The Night ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ประสบความสำเร็จทั้งจากแฟนเพลงและจากเวทีประกาศรางวัล โดยมีรางวัลแกรมมี่ 5 สาขาเป็นประกัน และวันนี้พวกเขากลับมาแล้วพร้อมกับอัลบั้มชุดใหม่ Golden ที่ยังคงความยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ครบถ้วนกระบวนความ ด้วยงานดนตรีที่กลมกล่อมทั้งเสียงร้องและเสียงประสานเข้าคู่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกเขา ทำให้อัลบั้มชุดนี้เป็นงานเพลงชั้นดี ดนตรีเพราะแถมยังฟังโดนใจ เพียงแค่ซิงเกิลแรก ดาวน์ทาวน์ ก็การันตีได้ถึงความลงตัวในเนื้องาน เมื่อเพลงนี้สามารถขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงคันทรี่ที่ถูกเปิดมากที่สุด

          ในงานชุดนี้ เลดี้ แอนเทเบลลัม ยังคงทำงานร่วมกับยอดโปรดิวเซอร์ พอล วอร์ลีย์ ที่อยู่เบื้องหลังเพลงฮิต ทั้งหลายของพวกเขามาตั้งแต่ต้น มากันครบทีมแบบนี้ จะไม่ให้อัลบั้ม Golden เป็นงานเพลงดี ดนตรีเพราะได้อย่างไร อยากรู้ว่า เลดี้ แอนเทเบลลัม ทำเพลงได้เยี่ยมขนาดไหน คลิกดาวน์โหลดอัลบั้มGolden ได้แล้วที่ ไอทูนส์ สโตร์ และฟังได้ที่ DEEZER ส่วนอัลบั้มมีวางจำหน่ายแล้ว โดยวอร์นเนอร์ มิวสิค

สาวมะกันกัดเจ้าโลกแฟนหนุ่ม หลังโมโหไม่ยอมมีเซ็กส์ด้วย

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ เปิดเผยเหตุสุดอึ้ง เมื่อสาวอเมริกันรายหนึ่ง โมโหแฟนหนุ่มไม่ยอมมีเซ็กส์ด้วย เลยจัดการกัดอวัยวะเพศแฟนหนุ่มจนบาดเจ็บ



          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ คริสเติล แฮร์ริสัน วัย 19 ปี จากเมืองบราเดนตัน รัฐฟลอริดา กำลังนอนเล่นกันอยู่บนเตียงกับเจฟฟรีย์ วิลกินสัน แฟนหนุ่มวัย 24 ปี ระหว่างนั้น สาวคริสเติลก็เกิดอารมณ์ขึ้นมา จึงโผเข้าไปพยายามเล้าโลมเจฟฟรีย์ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างไร เจฟฟรีย์ก็ปัดป้อง ไม่ยอมเล่นเกมรักกับเธอ เธอจึงโมโห คว้าอวัยวะเพศของเจฟฟรีย์มากัดจนบาดเจ็บ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังตบหน้าและถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาด้วย

          หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคริสเติล ฐานทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ส่วนหนุ่มเจฟฟรีย์นั้น แม้จะได้รับบาดเจ็บจากการถูกกัดอวัยวะเพศ และตบตี เขาก็ไม่ต้องการเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด

พลทหารมังกรทอง ลิ้มประเสริฐสกุล ... ชาตินักรบ ผู้ไม่ยอมสยบต่อโชคชะตา

 เปิดประวัติ แชมป์ มังกรทอง ลิ้มประเสริฐสกุล ชาตินักรบ ผู้ไม่ยอมสยบต่อโชคชะตา
 
            "ลอตเตอรี่ครับ ช่วยทหารพิการจากภาคใต้ครับ" เสียงพูดที่ฟังไม่ชัดแว่วมาจากแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ระหว่างทางเดินมุ่งหน้าไปศูนย์อาหารในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียงนั้นเป็นเสียงของอดีตทหารที่ยืนหยัดต่อสู้ชีวิต แม้วันนี้ เขาจะไม่สามารถจับปืนออกไปรบได้อีกต่อไป เพราะเสียงระเบิดที่ดังขึ้นเมื่อช่วง บ่ายแก่ ๆ ของวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ได้เปลี่ยนชีวิต "แชมป์ มังกรทอง ลิ้มประเสริฐสกุล" หรือ "พลทหารมังกรทอง" ชายชาติทหารนักสู้คนหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง



 
            ความฝันของ แชมป์ มังกรทอง ในอดีต ก็เหมือนกับเด็กชายวัยรุ่นหลาย คนที่อยากจะรับใช้ชาติ นั่นจึงทำให้ แชมป์ มังกรทอง ตัดสินใจสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เมื่อตอนอายุ 19 ปี ที่บ้านเกิดจังหวัดเชียงราย โดยมี "นพรัตน์ ลิ้มประเสริฐสกุล" ผู้เป็นพ่อคอยสนับสนุน และเมื่อเขาได้รับคัดเลือก พลทหารมังกรทอง ก็ถูกส่งไปประจำการที่ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ เขายิ้มรับอย่างภาคภูมิใจกับเส้นทางความฝันที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว พร้อมกับวางอนาคตไว้ว่า เมื่อสำเร็จการศึกษาจะมีโอกาสสอบนายสิบ แต่หากสอบไม่ผ่าน ก็จะไปสมัครเป็นทหารพราน
 
            แต่ทว่า... แชมป์ มังกรทอง ยังไม่ทันได้เดินถึงเส้นชัยคือการเรียนจบ ก็เกิดจุดพลิกผันขึ้น เมื่อทางหน่วยมีคำสั่งให้พลทหารลงไปปฏิบัติหน้าที่ยังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นชุดคุ้มครองครูในพื้นที่อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา ที่ทุกคนก็รู้ดีว่า พื้นที่สีแดงในชายแดนภาคใต้ล้วนเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่เด็กหนุ่มผู้วาง "อุดมการณ์" ไว้เหนือ "ชีวิต" ก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ เพราะเชื่อว่าเกิดมาแล้วยังไงก็ต้องตาย เพียงแต่ก่อนที่จะตาย ก็ขอให้ได้ทำหน้าที่ในฐานะทหารให้เต็มที่เพื่อตอบแทนแผ่นดิน
 
            ผ่านไปสามเดือนในพื้นที่แห่งความเสี่ยง แชมป์  มังกรทอง ได้เจอกับเหตุระเบิดซึ่ง ๆ หน้า แต่โชคดีที่เขารอดตายมาได้ กระทั่งถึงวันหยุด เขาได้เดินทางกลับไปทานข้าวกับพ่อที่บ้านเกิดอย่างมีความสุข ช่วงเวลาที่อบอุ่นเช่นนี้ ทั้งเขา และพ่อต่างก็ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้กลับมากินข้าวฝีมือพ่อในสภาพร่างกายที่ปกติครบ 32 ... เพราะหลังจาก แชมป์ มังกรทอง กลับไปลงพื้นที่ได้เพียง 10 วัน ก็เกิดเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล...
 

            เวลา 15.20 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 เสียงระเบิดดังขึ้น ขณะที่ แชมป์ มังกรทอง และเพื่อนในหน่วย กำลังขี่รถจักรยานยนต์ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้ครู ตามมาด้วยเสียงปืนที่ระดมยิงใส่กลุ่มทหาร เหล่าทหารหาญลุกขึ้นมาจับปืนต่อสู้ กับคนร้ายอย่างไม่ลดละ กระทั่งคนร้ายต้องล่าถอยไป แต่เหตุการณ์นั้น ทำให้ แชมป์ มังกรทอง ได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส เขาถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขมับซ้าย และยังถูกคมกระสุนเจาะเข้าที่ปาก ส่งผลให้กรามหักทั้งสองข้าง สภาพร่างกายเข้าขั้นสาหัส ผู้เป็นพ่อเมื่อทราบข่าวก็รีบเดินทางลงใต้อย่างไม่รอช้า พร้อมกับโทรศัพท์ถามข่าวคราวเป็นระยะ 
 
            นับว่าโชคยังดีที่แพทย์สามารถผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดที่ฝังอยู่ในสมองด้านซ้ายของแชมป์ออกให้ได้ แต่ไม่สามารถเอาสะเก็ดที่อยู่ด้านขวาของสมองออกให้ได้ เขานอนโคม่าอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์จังหวัดยะลา นานกว่า 10 วัน ก่อนถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินทหารส่งมาทำการรักษาต่อยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในกรุงเทพฯ และที่นี่เขาได้รับการผ่าตัดสมองด้านขวา แต่ผู้เป็นพ่อก็ต้องทำใจกับความเป็นจริงที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อแพทย์แจ้งว่า ลูกชายมีโอกาสรอดชีวิต แต่ต้องอยู่ในสภาพเจ้าชายนิทราตลอดไป...
 
            นาทีนั้น ผู้เป็นพ่อเฝ้าภาวนาว่า ขอให้ลูกไม่ตาย ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพเช่นไรตนพร้อมจะยอมรับและดูแล ถึงกระนั้น ในใจลึก ๆ ก็ได้แต่ขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน...แชมป์ ฟื้นขึ้นมา
 
            "ดีใจมากครับ นํ้าตาก็ไหล เขาเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาเห็นเขา เริ่มกระดิกนิ้วได้ เริ่มลืมตาได้แล้ว สองสามวันปาก เริ่มขยับได้ เราคิดว่าเขาจะพูดได้ แต่พอเอาลวดดัดฟันออก ก็รู้แล้วว่าพูดไม่ได้จริง ๆ เราก็ภาวนาทุกวันให้เขาพูดรู้เรื่อง เราจะได้รู้ว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งตอนนั้นเราก็กังวลว่าเขาจะรู้หรือเปล่าว่าเราเป็นพ่อ จำเราได้ไหม เพราะเขายังสื่อสารกับเราไม่ได้" ผู้เป็นพ่อ เล่าวินาทีที่น่าจะดีใจที่สุดในชีวิต
 
            จะเรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ก็คงไม่ผิดนัก เพราะจากเจ้าชายนิทราที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ กลับฟื้นขึ้นมาได้ และอาการดีขึ้นตามลำดับ กระทั่งสามารถหายใจด้วยตัวเองในอีก 6 เดือนถัดมา จากนั้นด้วยการทำกายภาพบำบัด แชมป์ ก็สามารถลุกขึ้นยืนและพอจะก้าวเดินได้ และพูดจาสื่อสารได้บ้าง แม้จะไม่ชัด โดยมีผู้เป็นพ่อคอยเฝ้าอยู่ไม่ห่างที่โรงพยาบาล ตลอด 2 ปีเต็ม ๆ 
 
            แม้จะรอดชีวิต แต่สภาพร่างกายของแชมป์ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป จากพลทหารหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยพลังความมุ่งมั่น ก็ต้องกลายมาเป็นชายพิการอัมพาต ครึ่งซีก แขนขวาต้องใช้อุปกรณ์กายภาพยึด หูข้างขวาสูญเสียการได้ยิน ตาพร่ามองเห็นเป็นภาพซ้อน พูดจาไม่ชัด ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดสมอง ทำให้เขาต้องใส่กะโหลกเทียมและมีผลต่อความจำ ซึ่งทำให้จดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่นานก็ลืมไป
 
            "แรก ๆ เขาก็รับสภาพไม่ได้ นอนละเมอตอน กลางคืนว่า ป๋า... แขนเป็นอะไร... ขาเป็นอะไร... ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ผมกลัวลูกคิดมาก กลัวเขาคิดอะไรไปเอง โดยไม่บอกเรา ผมก็เลยให้กำลังใจเขาว่า พ่อภาคภูมิใจในตัวลูกนะ ที่เราเป็นอย่างนี้เพราะเสียสละทำเพื่อชาติ เหมือนกับชาวบ้านบางระจันที่เป็นวีรบุรุษของเรา อยากให้ลูกได้ภูมิใจในตัวเอง เหมือนที่พ่อภาคภูมิใจในตัวลูก"  ผู้เป็นพ่อ เล่าถึงคำพูดที่ปลอบใจลูก 
            อย่างไรก็ตาม พ่อและแชมป์ก็ไม่อยากนั่งรอเงินช่วยเหลือจากสวัสดิการของรัฐ และองค์กรต่าง ๆ เพียงอย่างเดียว จึงตัดสินใจจะประกอบอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิสายใจไทยฯ และเป็นอาชีพที่ทำให้ผู้เป็นพ่อได้อยู่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ทุกวันนี้ แชมป์ จะตื่นแต่เช้าขึ้นมาทำกายภาพบำบัด ก่อนจะเดินทางไปขายลอตเตอรี่จนถึง 2 ทุ่ม และเดินทางกลับบ้าน โดยในทุกกิจกรรมจะมีพ่อคอยดูแลช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างเปรียบเสมือนแขนขาอีกข้างที่ช่วยทดแทนสิ่งที่ แชมป์ สูญเสียไป
 
            "ถ้าน้องแชมป์สู้ ไม่ท้อแท้ มีคนช่วยแน่นอน ไม่มีใครทิ้ง เพราะเป็นคนดี เสียสละเพื่อให้เขาได้อยู่สุขสบาย ทุกวันนี้ถ้าไม่มีทหารอย่างน้องแชมป์ที่เสียสละเพื่อปกป้องประเทศไทยพวกเขาก็คงอยู่ลำบาก" ผู้เป็นพ่อ บอกและว่า ตัวเองก็ไม่เคยท้อเช่นกัน และต้องเป็นตัวแทนลูกต่อไป 
 
            "ไม่เคยท้อ สู้เพื่อลูกอย่างเดียวครับ เขาเป็นกำลังใจให้เรา ลูกเป็นอย่างนี้ไปแล้ว เราก็ต้องช่วยเขาอีกแรง ช่วยในส่วนที่เขาขาดไป อย่างผลกระทบทางสมองทำให้เขาไม่สามารถคิดวางแผนอนาคตเองได้ เราต้องเป็นตัวแทนตรงนี้ ทุกวันนี้คือพยายามเก็บออมให้เขามากที่สุด สร้างอาชีพให้เขา ส่วนในอนาคตก็วางแผนไว้ว่า คงกลับไปทำอะไรที่เชียงราย เพราะเมื่อเราแก่ตัวไปก็ต้องกลับอยู่ที่นี่ก็ลำบาก" นพรัตน์ บอกเล่าความคิดของคนเป็นพ่อที่ต้องทำหน้าที่ทดแทนแม่ ซึ่งได้เสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้ว
 

            สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนแวะเวียนมาซื้อสลากกินแบ่งในแผงของแชมป์ ไม่ใช่เพราะต้องการเสี่ยงโชคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะหลายคนเห็นอกเห็นใจและอยากสนับสนุนอดีตทหารเกณฑ์ผู้นี้ ที่ได้สร้างวีรกรรมความเสียสละ เพื่อประเทศชาติ และเห็นว่า แม้เขาจะพิการ แต่ก็ยังต่อสู้ชีวิต พยายามพึ่งพาตัวเอง ประกอบกับการที่แชมป์มีอัธยาศัย พยายามยกมือทั้งสองขึ้นไหว้ขอบคุณผู้ที่อุดหนุนทุกครั้งด้วยความจริงใจ ก็ซื้อใจผู้คนไปเต็ม ๆ

 
            ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือของครอบครัวนี้ อาจทำให้ใครหลายคนมองว่า พวกเขาคงจะรู้สึกเคียดแค้นผู้ที่กระทำให้เขาเป็นเช่นนี้ แต่ทว่า คำตอบที่ได้จากผู้เป็นพ่อคือ เขาไม่เคยเก็บเอาความสูญเสียครั้งนี้มาบั่นทอนจิตใจของตัวเอง และขออโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุ โดยถือว่าลูกชายได้ใช้หนี้กรรมให้หมดแล้ว ซึ่งถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังคงสนับสนุนให้ลูกชายเป็นทหารอยู่ดี ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็พร้อมจะสู้ ด้วยความภาคภูมิใจที่เคยได้ชื่อว่าทหารรับใช้ชาติ
 
            เช่นเดียวกับ แชมป์ ที่ให้คำตอบกับเรื่องนี้สั้น ๆ ว่า "ให้อภัย อโหสิกรรมครับ ไม่เคียดไม่แค้น...แต่อยากเจอหน้าเขา อยากจะถามว่าทำกันทำไม แล้วก็อยากบอกเขาว่า ไม่ต้องทำกับคนอื่น ทำกับผมพอแล้ว..."
 
            แม้วันนี้ อดีตพลทหารหนุ่มจะต้องกลายมาเป็นเพียงคนขายลอตเตอรี่ มิใช่ทหารตามความฝัน อีกทั้งยังไม่สามารถบวชพระซึ่งเป็นอีกหนึ่งความฝันที่เขาอยากทำก่อนตายได้ แต่ท่ามกลางชีวิตที่ไม่เป็นดั่งฝัน ชายหนุ่มห้วใจนักสู้ ก็ยอมรับกับสภาพที่เกิดขึ้น
 
            "ไม่เสียใจเพราะเกิดมาได้เป็นทหารแล้ว ภูมิใจครับ ต้องสู้ต่อไป เป็นทหารแล้วจะต้องอดทน ทำให้ดีที่สุด ถึงผมจะพิการ แต่ผมก็อยากทำงานเก็บเงิน ผมไม่อยากให้พ่อลำบาก ถ้าผมตายไปแล้วผมมีเงินมีทองให้พ่อ ผมก็นอนตายตาหลับ สิ่งที่สูญเสียไป ผมก็คิดว่าคุ้ม เพราะดีกว่าไปเกเรก่อกวนผู้อื่น หรือขับรถล้มแล้วพิการไปเอง" แชมป์ พูดทิ้งท้ายอย่างคนที่เข้าใจโลก
 
            ปัจจุบัน แชมป์ พลทหารมังกรทอง ลิ้มประเสริฐสกุล ได้รับการปูนบำเหน็จเลื่อนยศจากพลทหารเป็นร้อยโท พร้อมเข้าพิธีประดับยศด้วยความภาคภูมิ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดฝันมาก่อนว่าจะได้รับ ขณะที่พ่อของเขาก็ภาคภูมิใจอย่างที่สุด ที่ลูกชายเป็นเกียรติประวัติของตระกูลที่ได้ไปรับใช้ชาติ เป็นผู้กล้าเช่นเดียวกับเหล่าทหารหาญที่เสียสละทั้งร่างกาย และชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่ลึก ๆ ในใจของผู้เป็นพ่อนั้น ก็ยังมองว่า ไม่อยากให้เขาเหล่านั้นกลายเป็นวีรบุรุษแค่วันเดียว ไม่นานก็ลืมกันไป

เปิดใจ พ.ต.ท.ธานินทร์ จินดามณี ตำรวจฮีโร่ ช่วยสาววัย 17 พ้นซ่องเกาหลี

 พ.ต.ท.ธานินทร์ จินดามณี เปิดเผยเหตุการณ์ในการปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กไทยขายบริการที่ซ่องเกาหลี จนนำไปสู่การวางแผนประสานงานช่วยเหลือสำเร็จ





            สืบเนื่องจากกรณีที่หญิงสาวชาวไทย อายุ 17 ปี โพสต์เฟซบุ๊กแจ้ง พ.ต.ท.ธานินทร์ จินดามณี รอง ผกก.สส.สภ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ว่า ตนเองถูกคนล่อลวงให้มาขายบริการอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยถูกบังคับให้รับแขกวันละ 20 ชั่วโมง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดต่อประสานไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ และสถานกงสุลในกรุงโซล นำไปสู่การวางแผนเข้าช่วยเหลือเด็กสาวคนดังกล่าวได้สำเร็จ และนำตัวส่งกลับมายังประเทศไทยอย่างปลอดภัย ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

            ล่าสุด วานนี้ (20 พฤษภาคม 2556) พ.ต.ท.ธานินทร์ จินดามณี รอง ผกก.สส.สภ.โคกศรีสุพรรณ ได้เปิดเผยถึงปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กไทยจากซ่องเกาหลีว่า เมื่อช่วงดึกประมาณวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังเช็กรายการสินค้าทางเฟซบุ๊ก เนื่องจากทำธุรกิจอยู่ มีเด็กสาวเข้ามาทักในแชทเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งตอนแรกไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง จึงให้เด็กสาวกดเช็กอินสถานที่ให้ดูเลย ปรากฏว่าอยู่ที่เกาหลีใต้ ตนจึงซักถามอย่างละเอียด พร้อมกับให้เด็กสาวถ่ายรูปพฤติกรรมที่ถูกล่วงละเมิดมาให้ได้ โดยยืนยันว่าจะตามเรื่องนี้โดยเร็วและจะพาเด็กสาวคนดังกล่าวกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุด

            ต่อมาเด็กสาวรายดังกล่าวได้ส่งรูปพาสปอร์ตที่ระบุชื่อ รวมถึงรูปจริงที่เผยให้เห็นใบหน้าที่มีรอยแผล พร้อมกับถ่ายรูปซ่องเอาไว้ซึ่งเขียนภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า ร้านนวดอโยธยา รวมถึงภาพแขกที่มาใช้บริการ หลังจากนั้น ตนได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมถึงพิกัดของร้านนวดดังกล่าว ส่งไปให้กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และสถานกงสุลไทยเพื่อให้ประสานงานกับตำรวจที่กรุงโซล จนสามารถช่วยเหลือได้ในที่สุด

ตาเล็ก วินโดว์ โผล่กราบศพยาย ยันบริสุทธิ์ ไม่หนีคดีแน่นอน

    ตาเล็ก วินโดว์ ผู้ต้องสงสัยแฮกเว็บไซต์สำนักนายกฯ โผล่กราบศพยาย หลังเครียดหลานเจอคดีหนัก เจ้าตัวเตรียมบวชตามสัญญา ยันบริสุทธิ์ ไม่คิดหนีคดี แต่ที่หายไปเพราะเครียดจนป่วย




            สืบเนื่องจากกรณีที่ นางชุ่ม ไชยประภา อายุ 95 ปี ยายของนายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร หรือที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ในนาม "ตาเล็ก วินโดว์" เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเครียดเมื่อทราบข่าวหลานชายตกเป็นผู้ต้องสงสัยแฮกเว็บไซต์สำนักนายกฯ ซึ่ง นางสาคร สุขสาร แม่ของนายณรงค์ฤทธิ์ ได้นำศพนางชุ่ม มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาโรงธรรมวัดชัน ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งวอนสื่อให้ช่วยติดต่อนายณรงค์ฤทธิ์ให้ทราบเรื่องดังกล่าวด้วย เนื่องจากไม่สามารถติดต่อลูกชายได้เลย ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
            ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร ได้เดินทางมาเคารพศพ นางชุ่ม ไชยประภา ผู้เป็นยายแล้ว โดยบอกว่าหลังจากทราบข่าวจากเพื่อนว่าคุณยายเสียชีวิตแล้วรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางกลับบ้านทันทีเพื่อมาบวชให้ยายตามที่สัญญาไว้ ส่วนคดีขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า กำลังรอให้ตำรวจติดต่อมา และโดยส่วนตัวไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

            ขณะที่ นางสาคร สุขสาร มารดา เปิดเผยว่า ดีใจที่ลูกชายกลับมา เพราะหลังจากติดต่อกับลูกไม่ได้หลายวันรู้สึกเป็นห่วงและกังวล แต่เมื่อเห็นลูกกลับมาร่วมงานศพยายแล้วปลอดภัยดีจึงสบายใจ ส่วนที่น้องเล็กเงียบหายไปหลายวันน้องเล็กบอกว่าเป็นเพราะเครียดจนไม่สบายต้องนอนพักผ่อน น้องเล็กป่วยเป็นทอนซิลอักเสบ ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงขณะนี้น้ำหนักตัวน้องเล็กลดลงกว่า 8 กิโลกรัม จากเดิม 85 กิโลกรัม เหลือเพียง 77 กิโลกรัม และต่อไปครอบครัวของเราขออยู่กันอย่างสงบ ในช่วงนี้ไม่อยากให้ใครมาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก ขอให้ผ่านพ้นจากงานบำเพ็ญกุศลศพไปก่อนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกที

เด็กปั๊มเป็นงง คนขับฟอร์จูนเนอร์ชักดาบ เติมน้ำมันไม่จ่ายเงิน

ชายแว่นดำขับฟอร์จูนเนอร์เติมน้ำมัน 1,000 บาท แล้วชิ่งหนีทันที ด้านตำรวจเปิดกล้องเห็นทะเบียนรถชัดเจน มั่นใจจับตัวได้แน่




          เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ปนิดา แก้วแก่นคูณ อายุ 20 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน ปตท. สี่แยกเกษมพล ม.5 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า มีคนขับรถยนต์เข้ามาเติมน้ำมันและไม่ยอมจ่ายเงิน พร้อมกับพยายามหลบหนี โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน จึงประสานเจ้าหน้าชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ
          จากการสอบสวน น.ส.ปนิดา ให้การว่า ได้มีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ - 847 ชลบุรี ขับเข้ามาเติมน้ำมันในหัวจ่ายน้ำมันดีเซลที่ 2 ซึ่งคนขับได้สวมแว่นตาสีดำ พร้อมกับบอกว่าเติมน้ำมันดีเซล 1,000 บาท ตนจึงได้เติมน้ำมันให้ตามปกติ และหลังจากเติมน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กำลังขอเก็บเงิน รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกติดตาม แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด

          อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกลักษณะรถยนต์ที่ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ประสานกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอทราบประวัติและชื่อเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายได้อย่างแน่นอน